Members

นัดที่ 10 = 0-0

     โอ้….. ผมไม่ได้เห็นสกอร์นี้มานานเท่าไรแล้วนะสำหรับซิตี้ในยุคของเปเยกรินี่  ใช่ครับมันนานๆๆมากเท่าที่ผมจำได้คือนู้นนัดที่เสมอนอริชในซีซั่น 2013-2014 จนกระทั่งมาถึงในนัดนี้ที่บุกไปเสมอคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในเกมนี้มันก็มีอะไรหลายๆอย่างให้พูถึงกันครับ เราลองมาวิเคราะห์แมทนี้กันดีกว่า

     อย่างแรกก่อนเลยตั้งแต่ผมเห็นรายชื่อของซิตี้ที่ประกาศออกมาก่อนการแข่งขันมันผลิกโผมากจากที่ผมจินตนาการไว้ ที่ผมคิดไว้คือ ซาบาเลต้า คอมพานี ม็องกาล่า โคลาลอฟ ยาย่า เฟอร์นันดินโญ่ นาบาส เดอร์บอย สเตอร์ลิง โบนี่ อันนี้คือที่ผมจินตนาการว่าเปเยกรินี่คงใช้ชุดนี้บุกๆๆๆใส่แมนยูแน่นอนแต่มันกับพลิกผันไป

     เปเยกรินี่มาในระบบเดิมครับ 4-2-3-1 แต่กลับแพ็คแดนกลางถึงสามนั้นคือ ยาย่าไปยืนเป็นกลางรุก เฟอร์นันดินโญ่กับเฟอร์นานโดยืนกลางคู่กัน ปีกกาบซ้ายกาบขวาใช้ เดอร์บรอยกับสเตอร์ลิง หน้าเป้าก็โบนี่ ส่วนแผงหลังก็ผิดจากที่คิดนิดหน่อย ซางญ่ามาแทนที่ซาบาเลต้า โอตาเมนดี้ได้รับความไว้วางใจต่อเนื่อง ใช่ครับการจัดทีมชุดนี้ของซิตี้ผมเห็นอะไรรางๆตั้งแต่ต้นแล้วครับว่า จัดทีมยังงี้มาเน้นรับชัวร์แน่นอน

     และจากรูปเกมทั้งเกมมันก็เป็นเช่นนั้นครับเปเยกรินี่วางหมากมาคือเน้นเกมรับแบบสมบูรณ์ ถ้าประสาชาวบ้านก็มาเพื่อเอาแค่แต้มเดียว ใช่ครับเกมนี้ถามว่ามันส์ไหมสำไอ้ช่วงที่มันส์ก็มีครับ ไอ้ช่วงที่ให้ลุ้นก็มีเยอะ ไอ้ช่วงที่เนือยๆเกมดูอืดๆก็โอ้…อยากจะนอน ตัวผมนี่เตรียมปากกากระดาษเตรียมเลคเชอร์ไว้กะว่านัดนี้มีอะไรเด็ดๆหลายจังหวะแต่มันกลับกลายเป็นผมไม่ต้องจดอะไรเยอะเลย เพราะจังหวะพีคๆนี่มีน้อยมากจริงๆ

     อะไรคือสาเหตุที่ให้ซิตี้มากลายเป็นทีมที่ตั้งหน้าตั้งตามาอุด ผมเห็นกระแสตอบรับบางกระแสที่ต่อต้านเปเยกรินี่เกี่ยวกับแทคติกในแมทนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าจะไปว่าเพื่ออะไรในสายตาผมเปเยกรินี่ทำถูกแล้วคุณเห็นกันรึป่าวครับกับการจัดทัพของแมนยู ทั้ง ชวานสไตร์เกอร์ ชไนเดอร์ลิน เอเรร่า ทางแทนยูมองก็รู้แล้วครับว่าต้องการตัดเกมและสู้กับซิตี้ในแดนกลาง

     แต่มันกลับกลายเป็นว่า เปเยกรินี่ย้อนศรเขวี่ยงกับไปหาฟานกัลป์โดยการจัดทีมที่แพ็กเกมในแดนกลางให้แน่นเหมือนกกัน และเข้าประเด็นกันครับว่าทำไมเปเยกรินี่ถึงงัดไม้นี้มาใช้ เท่าที่ผมมองเปเยกรินี่เก็บบทเรียนที่เคยพ่ายแพ้มานำเอาสิ่งเหล่านี้มาทบทวนแล้วครับหรือเรียกง่ายๆว่าทำการบ้านมาอย่างหนักแล้ว

     บทเรียนมีมาแล้วสำหรับเกมที่เจอแดนกลางแข็งๆ ตัดเกมดีเพลสซิ่งดีบางเกมเราแทบไปไม่เป็น นัดที่เจอเวสต์แฮมกลางเรายวบตั้งแต่ต้นเกมแนวรับหลวมจนทำให้เสียประตูที่ไม่น่าเสียไปตั้งสองลูกตั้งแต่ต้นครึ่งแรก มาในนัดสเปอร์สเราคิดแต่จะบุกสู้ยิบตาจนกลายเป็นว่าเราต่างหากที่กลายเป็นไปตกหลุมพรางของคู่แข่งที่เขาขุดไว้จนแพ้ไปแบบเละเทะ

     และถ้าจะท้าวความจำแมทที่แพ้ 4-2 ได้ไหมครับในซีซั่นที่แล้วที่บุกมาเยือนรังผีและโดนถล่มยับกลับไปนั้นก็เป็นเพราะเราไปขืนสู้ไปเดินตามเกมของฟานกัลป์เข้า นัดนั้นทั้งเกมแดนกลางทั้งแดนหลังเราโดนเผาเครื่องจนเปื่อยยุ้ยหมด เราประกบเฟลไลนี่ไม่อยู่ เราจัดการกับ แอชลีย์ ยัง ไม่ได้ เราต่อเกมกันไม่ค่อยติดรู้ครับว่าเราครองบอลเก่งแต่ฟานกัลป์เองก็ไม่เป็นรองแมนยูในยุคของเขาขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องการครองบอลแต่เปเยกรินี่ก็พยายามจะเอาบอลมาครองให้ได้พอได้เคาะกับสามสี่ทีก็เสียไปให้แมนยูอีกแล้ว

     ใช่ครับเวลาเราแพ้ส่วนใหญ่เราจะพลาดในแดนกลางในทุกๆเกมที่ผมสังเกตุเพราะด้วยสไตร์การทำทีมของเปเยกรินี่จะไม่ค่อยเน้นกลางรับธรรมชาติจะเน้นสไตร์เฟฮร์นันดินโญ่ที่ทั้งรับทั้งรุกได้ส่วนประเภทยาย่าก็ปล่อยอิสระไปเลย

     ถ้านัดนี้เราจัดทัพเหมือนเดิมผมไม่แน่ใจครับว่าเราจะสามารถเอาแต้มกลับบ้านได้สักแต้มรึป่าว เพราะดูจากสถิติต่างๆจากรูปเกมแมนซิตี้ในยุคเปเยกรินี่พอเจอทีมที่เน้นคุมโซนหรือเกมแดนกลางแข็งๆเรามักจะไปไม่ค่อยรอด

     ผมขอชมครับที่เปเยกรินี่เริ่มที่จะมีการปรับแทคติกมีการทำการบ้าน นัดนี้เปเยกรินี่ยอมทิ้งทุกอย่างที่เคยเป็นซิตี้ทั้งเรื่องการครองบอลการเข้าทำเราจะเห็นว่าซิตี้มาเน้นรับจนเปอร์เซ็นการครองบอลตกฮวบไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สไตร์การเข้าทำเน้นบอลโยนยาวมากขึ้นจากหลังไปหน้าจากกลางไปหน้า ส่วนตัวผมเห็นอะไรใหม่ๆอย่างนี้บ้างก็ดี

     แดนกลางที่เคยเป็นจุดอ่อนของซิตี้ที่เวลาเจอทีมใหญ่ๆแล้วมักจะแพ้เกมในแดนกลางในวันนี้กลายเป็นว่าแมนยูต้องหัวปั่นเองทำยังไงดีที่จะเจาะซิตี้ได้ ผ่านแดนกลางยังมาเจอคอมพานีและโอตาเมนดี้ที่นัดนี้กลายเป็นว่าฉายแววขึ้นมาเลยด้วยการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นสุดเคี่ยวอ่านเกมอ่านเชิงได้ดี

     ผมไปเช็คข้อมูลมานัดนี้ซิตี้เคลียร์บอลไป 30 ครั้ง ตัดบอลได้ 15 ครั้ง สกัดบอลสำเร็จ 17 ครั้ง ในขณะที่แมนยูมาคราวนี้ดูจะครองเกมครองบอลเซตบอลกันดี ยังต้องเคลียร์บอลถึง 24 ครั้ง สกัดบอลไป 14 ครั้ง ทั้งสองทีมเสียฟาวล์ไปเยอะเหมือนกัน แมนซิ 13 แมนยู 17

     จากสถิติเห็นอะไรไหมครับ ผมขอโฟกัสไปที่การทำฟาวล์แมนยู 17 แมนซิ 14 และทำฟาวล์ส่วนใหญ่อยู่ในแดนของแมนยูเองแสดงว่าแมนยูเองก็ระวังตัวกลัวเกมสวนกลับของซิตี้เหมือนกันแต่ละจังหวะก็ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ส่วนแมนซิตี้เป็นจอมตัดเกมอยู่แล้วจังหวะไหนนักเตะผิดพลาดส่วนตัวจะตัดเกมทันที มันคือแทคติกของเปเยอยู่แล้ว

     แมนยูนัดนี้ครองบอลเดินหาซิตี้แต่อย่างที่บอกว่าครองบอลหาช่องเท่าไรก็หาไม่เจอ พยายามออกบอลไปปีกทั้ง มาซิยาล และ มาต้า กลายเป็นว่าโดนทั้งโคลาลอฟและซางญ่าปิดเกมไปเลยจนครึ่งหลังต้องเอารินการ์ดลงมาสร้างสีสันในเกมรุกแทน

     และ ยิ่งมาร์ซิยาลนี่จับต้นชนปลายไปไม่เป็นเมื่อมาเจอกับซางญ่าที่เป็นอีกคนที่เล่นได้เหนือความคาดหมายสำหรับซางญ่าเกมนี้แทบทั้งเกมผมเห็นเขาเติมขึ้นไปแค่สองสามครั้งเองมั้งครับส่วนนอกนั้นคอยมาสกัดดาวรุ่งเพิ่มความโรจน์ให้กับตัวเองชนิดอยู่หมัด

     เกมแดนกลางมันเจาะยากเกินไปสำหรับแมนยูที่มาเจอซิตี้ในวันนี้ แมนยูในวันนี้ใช้ชวานสไตร์เกอร์ยืนคู่กับชไนเดอร์ลินสองคนนี้มันสไตร์ตัวตัดเกมไม่ใช่ตัวที่ถนัดรุกอะไรมากนักเกมแดนกลางของแมนยูยามมีสองคนนี้แน่นจริงแต่ซิตี้ในวันนี้มาแบบว่าเน้นรัดกุมไม่ได้ตะบี้ตะบันบุกเลยทำให้ อ่าว…พอซิตี้รับแดนกลางมันตันๆตัวเชื่อมบอลไม่ค่อยมีฟานกัลป์เลยต้องเอาเฟลไลนี่ลงมา  แต่เปเยกรินี่ก็ตัดสินใจเลือกเอายาย่าออกไปพักเติมความเคี่ยวลงไปอีกโดยส่งเดมิเคลิสลงมามันทำให้ผมเองก็อดคิดไม่ได้ว่าเปเยกรินี่มาเพื่อขอหนึ่งแต้มเป็นทุนไว้ก่อนจริงๆครับ

    สุดท้ายด้วยความเคี่ยวของเปเยกรี่ก็สามารถปล้นหนึ่งแต้มสำคัญมาจากฟานกัลป์ได้ชนิดว่าเล่นเอาฟานกัลป์ปวดหัวไปเลยทีเดียวและเรือใบก็จัดการถีบแมนยูลงไปอยู่อันดับ 4 ห่างกันสองคะแนนเหมือนเดิม แต่ที่น่ากลัวคืออาเซน่อลที่ไล่มาติดๆตอนนี้คะแนนเท่ากันแต่ซิตี้ได้เปรียบคือลูกประตูได้เสีย

     ซึ่งคะแนนตรงนี้ทำให้ผมมองเห็นว่าเปเยกรินี่อาจจะเล็งเสมอเอาหนึ่งแต้มเพราะต่อให้อาเซน่อลชนะ และซิตี้เสมอกับแมนยูได้คะแนนของซิตี้ก็จะเท่ากับอาเซน่อล แต่ซิตี้ยังอยู่อันดับหนึ่ง ซึ่งนั้นทำให้เปเยกรินี่ต้องงัดเอาเกมรับที่ไม่ค่อยได้เห็นมาใช้กับแมนยูเพื่อขอหนึ่งคะแนนล้ำค่าไว้ก่อน

     สำหรับผมผมมองว่าเปเยกรินี่คำนวณตารางคะแนนนก่อนแข่งมาเรียบร้อยแล้วแหละครับ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ซิตี้อยู่อันดับหนึ่งต่อไป คะแนนเท่ากับอาเซน่อลแต่อันดับตอนนี้คือแมนซิตี้ต่างหากที่อยู่เหนืออาเซน่อล การมาเยือน โอลแทรฟฟอร์ดไม่ใช่เรื่องง่ายครับและยิ่งกุนซือคือฟานกัลป์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเคี่ยวเหมือนกัน การที่เก็บแต้มกลับบ้านได้ผมเองก็มองว่านัดนี้ก็โอเคครับเราเสียสองคะแนนที่จะแซงอาเซน่อลแบบทิ้งห่างไปแต่ยังดีกว่ามั้ยถ้าเราเสียสามคะแนน

     ใช่ครับผมหมายถึงว่าถ้าเราแพ้เราจะตกไปอยู่อันสามและเป็นฝ่ายไล่ตามทันที ผมมองว่าผมเห็นพัฒนาการของเปเยกรินี่ในลีกอังกฤษไปอีกขั้นนึงรู้ว่าเกมไหนควรผ่อน เริ่มที่จะงัดความเคี่ยวออกมาใช้บ้าง ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์บทนึงมาครับและไปสะกิดวรรคนึงเขากล่าวไว้ว่า “บางครั้งการที่เราจะไปถึงแชมป์ เราก็ต้องยอมกลายเป็นทีมเล็กบ้างให้คนอื่นเขาดูถูกบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเราไม่แพ้และเรายังเป็นที่หนึ่งมันก็ถือว่าดีไม่ใช่หรอ” ขอขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านกันครับ

- บลูมูน -

Views: 1150

Reply to This

Replies to This Discussion

ชิงออกตัวในเกมแดนกลางไม่ให้พลาด

คิดเหมือนกันน่ะฮะ 1 แต้มที่ไม่ได้เสียหายฮรี่ๆ

คงรู้กำลังนักเตะในทีมแบบนี้จึงได้ชื่อว่าไม่ประมาทเกมต่อๆไปชนะเยอะๆเดี๋ยวก็ลืมกันเอง ยิ่งถ้าแชมป์ก็ไมมีใครตำหนิ

ทีมต้องมีแผนเอ แผนบีปรับใช้ตามสถานการณ์

ยิ่งอยู่นานยิ่งรู้จักเคี่ยวลากดินนะคับเปเย

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.