Members

เก็บตก 10 ข้อจากพรีเมียร์ลีกวีกที่ 9

เก็บตก 10 ข้อจากพรีเมียร์ลีกวีกที่ 9

ฟุตบอล,พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
2 อาทิตย์แห่งเกมทีมชาติได้ผ่านพ้นไป ปรับโหมดเข้าสู่สมรภูมิฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่มีเรตติ้งความดุเด็ดเผ็ดมันกัน อีกครั้ง สัปดาห์นี้ บรรดายักษ์ใหญ่ทำผลงานตามเป้าของตัวเองกันได้ทั้งหมด ทีมเล็กก็สู้กันได้อย่างสนุกเช่นเดิม ส่วนคู่ในคืนวันจันทร์ ระหว่าง สวอนซี ซิตี้ พบกับ สโต๊ค ซิตี้ ท่านผู้อ่านก็น่าจะทราบผลการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        หลังการห้ำหั่นอย่างสุด มันส์ในสัปดาห์ที่ 9 นี้ เกิดเหตุการณ์สำคัญมากมาย  โดย "เดอะ มิร์เรอร์" สื่อดังของอังกฤษ ได้จัด 10 เหตุการณ์ในอาทิตย์ที่ผ่านมาดังต่อไปนี้...

 

1. "คล็อปป์" เจองานสุดหินตั้งแต่เริ่มต้น

 

         ความจริงที่โหดร้ายเหลือเกินสำหรับนัดเปิดตัว ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวด๊อยช์ หลังนักเตะนัดกันบาดเจ็บ ตัวหลักที่เหลือก็ยังไม่ฟิตสมบูรณ์พอ ทำให้ต้องสู้ด้วยขุมกำลังที่ไม่สมบูรณ์เอาเสียเลย และบวกด้วยเวลาเตรียมทีม ซักซ้อมความเข้าใจแท็กติกใหม่ที่ทาง มิสเตอร์ คล็อปป์ นำมาปูให้ใหม่ก็มีน้อยเหลือเกิน แต่นักเตะก็พยายามได้อย่างสุดความสามารถ ผลเสมอก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทีเดียวสำหรับการประเดิมเกมแรก และยังมีปัญหาต่างๆอีกมากมายที่ "คล็อปป์ แอนด์ โค" ต้องเร่งซ่อมแซมเครื่องจักรสีแดงเครื่องนี้ให้แข็งแกร่งเหมือนเก่า งานสุดหินของเขาได้เริ่มต้นแล้ว ณ บัดนี้

 

2. "เด เคอา" สำคัญกับผีแดงมาก

 

         หลังจากที่โชว์ฟอร์มสุดติ่งในเกมทีมชาติมา หมาดๆ ดาบิด เด เคอา ก็ยังเป็นคนสำคัญที่สุดตรงหน้าปากประตูของทีม ในจังหวะที่ "ปีศาจแดง" ถือสกอร์นำอยู่ 2-0 ทางเจ้าบ้านบุกกระหน่ำหวังทวงประตูคืนกลับมาอย่างจงหนัก แต่นายทวารสแปนิชก็ปฏิเสธการใส่สกอร์สองจังหวะที่น่าจะได้สุดๆของแข้งทอฟฟี่ ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ตั้งหลักได้และมีประตูแถมปิดท้ายเป็น 3-0 กำชัยชนะไว้ได้อย่างสวยงาม

 

3.  สัปดาห์แห่งการสูญเสียของผอง "ทอฟฟี่เมน"


         บุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่อำลาโลกไปก็คือ โฮเวิร์ด เคนดัลล์ ยอดกุนซือของเอฟเวอร์ตัน ที่เคยพาทีมแย่งแชมป์กับ ลิเวอร์พูล  ในช่วงยุคปี 80 โดยเคนดัลล์ พาขุนพล "ทอฟฟี่เมน" เถลิงแชมป์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชริตี้ ชิลด์ 3 สมัย, และยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย นับเป็นบุคคลที่ทำให้ เอฟเวอร์ตัน อยู่ในยุครุ่งเรืองที่สุดเลยก็ว่าได้

 

4. "บาบา" เปิดตัวไม่แจ่ม


         บาบา ราห์มัน แบ็คซ้ายรายใหม่ชาวกาน่าของ เชลซี ลงประเดิมเกมแรกในพรีเมียร์ลีกไปเรียบร้อยแล้ว แต่ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวที่เน้นเกมบุกมากกว่าเกมรับยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก หากแข้งเจ้าของค่าตัว 21.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) จะยึดตัวจริงทางกราบซ้าย ต้องพัฒนาฟอร์มให้เข้าตา โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ของทีมให้ได้ ในช่วงที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ยังรักษาอาการบาดเจ็บ จนต้องโยก เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ไปเล่นทางด้านขวาแทน

 

5. ก้าวไปอีกหนึ่งขั้นกับ "ราฮีม"


         หลังจากที่โดนถอดออกช่วงพักครึ่งเกมที่ ซิตี้ เปิดบ้านไล่ยำ นิวคาสเซิ่ล 6-1 ข้อหาการเล่นที่ไร้ประสิทธิภาพในนัดนั้น แต่เกมล่าสุด เจ้าหนู ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ค่าหัว 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,450 ล้านบาท) ทำผลงานได้อย่างสะแด่วแห้ว ซัดแฮททริกใส่ บอร์นมัธ ช่วยให้ต้นสังกัดเปิดบ้านไล่ต้อนทีมจากทางใต้ของอังกฤษไปเบาๆ 5-1 และเป็นแฮททริกแรกของเจ้าตัวในอาภรณ์ของ "เรือใบสีฟ้า" อีกด้วย 

 

6. เวสต์บรอมฯ ต้องดูแล "เบราฮีโน่" อย่างดี

 

        สำหรับศูนย์หน้าค่าตัวแพงคนใหม่ของทีม ซาโลมอน รอนดอน จะเจองานยากกับการเล่นในดินแดนเกมฟุตบอลที่มีความเดือดผุดๆมากที่สุดในปฐพี เข้าแล้ว  นัดนี้เจ้าตัวไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง ส่วน ริคกี้ แลมเบิร์ต ก็แก่เกินแกงที่จะฝากผีฝากไข้ ทันใดนั้น เด็กหนุ่มที่มีปัญหางอแงจะย้ายไป ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ให้ได้ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอย่าง ไซโด้ เบราฮีโน่ ยังเป็นคนสำคัญที่สุดในแดนหน้าของทีมจริงๆ 1 ประตูโทนที่ทำได้ในนัดนี้ เป็นสัญญาณให้ "เดอะ แบ็กกี้ส์" ต้องดูแล เบราฮีโน่ ให้อย่างดีและให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

7. ใครก็ได้หยุดสถิติเกมเยือนของ เวสต์แฮม ที!


         ยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ใครในเกมเยือนเอาไว้ได้ เป็นนัดที่ 6 รวมทุกรายการเข้าไปแล้ว (เกมแคปปิตอล วัน คัพ เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเวลา 90 นาที) ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า 9 จาก 13 แต้มที่ได้ในเกมเยือนของ ทีมงานขุนค้อน ไปลอบฆ่าทีมใหญ่ทั้ง อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล แม้กระทั่งจ่าฝูงในขณะนี้อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็พลาดพลั้งมาแล้วเช่นกัน และ คริสตัล พาเลซ เป็นเหยื่อรายล่าสุด แต่นัดนี้ก็ไม่ใช่งานง่ายเลยสำหรับการหยิบสามแต้มกลับบ้านของ "สลาเว่น บิลิช แอนด์ โค" เพราะกว่าจะได้ผลตามที่ต้องการ กุนซือชาวร็อคทำทุกวิธีทางกับการแก้เกมในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่สุดท้ายได้ มานูเอล ลานซินี่ เด็กหนุ่มที่หยิบยืมมาจาก ริเวอร์เพลท และ ดิมิทรี ปาเย่ต์ แข้งคนสำคัญ ช่วยกันพังประตูพาทีมคว้าสามแต้มได้สำเร็จ

 

8. ลั่นสกอร์ไม่มีพักไปกับ "เจมี่ วาร์ดี้"


         ยังคงยิงประตูไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยสำหรับ เจมี่ วาร์ดี้ ศูนย์หน้าฟอร์มแรงจัดในขณะนี้ ทำให้เจ้าตัวติดทำเนียบศูนย์หน้าสัญชาติบริติชคนที่ 4 ต่อจาก ไมเคิล โอเว่น, เจมส์ บีทตี้ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่ทำประตูได้ 6 นัดติดต่อกันในศตวรรษนี้ ส่วน 2 ประตูในเกมนี้ของ วาร์ดี้ ทำให้พลพรรค "จิ้งจอมสยาม" โกงความตายได้อีกครั้ง หลังโดน เซาธ์แฮมป์ตัน เจ้าบ้านยิงนำไปก่อน 2-0

 

9. อาร์เซน่อล ผู้ท้าชิงแชมป์เต็มตัว?


         ถ้าสมมุติว่า อาร์เซนอล พลาดท่าไม่ได้ไปเตะฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาจะมีโอกาสบอกได้เต็มปากว่า พวกเขาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ลีกเต็มตัว และอาจจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดที่รอมานานกว่า 13 ปีก็เป็นได้ แต่นัดล่าสุดที่บุกไปเยือน วิคาเรจ โร้ด ของ วัตฟอร์ด ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ก็เจียนไปเจียนอยู่เหมือนกันในช่วงครึ่งแรก เจ้าบ้านบุกเข้าใส่อย่างถึงพริกถึงขิงแต่ไม่เด็ดขาดเอง สุดท้ายเกมมาปลดล็อคได้ก็เข้าสู่นาทีที่ 62 เข้าไปแล้ว ซึ่งหากทัพปืนโตต้องการที่จะเป็นผู้ท้าทายแชมป์ลีกอย่างเต็มตัว พวกเขาต้องทำให้เด็ดขาด เหมือนที่ทำได้ในเกมเปิดบ้านรัว 3 เม็ดใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

10. คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มกับ "จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม"


         อดีตแข้งแชมป์ลีกดัตช์ฤดูกาลล่าสุด สร้างความตกตะลึงในการย้ายทีมมาอยู่กับสโมสรแดนอีสาน แทนที่จะไปอยู่กับทีมที่บิ๊กเนมกว่านี้ การเสริมแข้งของ นิวคาสเซิ่ล ยังตอบโจทย์ได้ไม่ค่อยดีนักทั้ง ชานเซล เอ็มเบมบ้า, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช และ ฟลอริย็อง โตแว็ง แต่กับกรณีของ ไวจ์นัลดุม นั้นผิดถนัด ค่าสินสอด 14.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 735 ล้านบาท) ที่ "สาลิกาดง" จ่ายให้  พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มันคุ้มประหนึ่งเหมือนได้ฟรี ส่วนผลงานนะหรือ การกระหน่ำยิง 4 ประตูในเกมเดียวที่เจอกับ นอริช ซิตี้ น่าจะตอบโจทย์ทุกข้อได้เป็นอย่างดี

*****************************************************

Cr.siamsport.  ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 416

Reply to This

Replies to This Discussion

ชอบข้อที่ 5 เปนพิเศษครับ ไม่รู้ว่าทำไม ^^

ใครจะหยุดวาร์ดี้ไวและคมตอนนี้

ไวจ์นาดุมเกมเดียวดังเลย

ต่อให้พ่อคล็ออ์มาทำทีมตอนนี้ก็ยากปีหน้านั้นค่อยว่ากัน

ที่ดีที่สุดสำหรับสาวกวิตี้ก็คือในตอนนี้ทีมรักยังคงยึดครองตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปครับ

จับตาดูกันต่อไป

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.