สำหรับ เกมฟุตบอลแล้ว ไฮไลท์อย่างหนึ่งที่คอบอลติดตามและถูกใจมากที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องของการ ซื้อขายนักเตะ เพราะมันคือสิ่งหนึ่งที่บ่งชี้ได้พอสมควรว่าทีมไหนจะดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร
แต่ โลกนี้ก็ไม่มีอะไรแน่นอนไปเสียทุกอย่าง เพราะหลายครั้งก็มีผู้เล่นหลายคนที่ย้ายทีมมาด้วยความหวังว่าพวกเขาจะกลายมา เป็นตัวหลักของทีม แต่ก็ไม่สามารถทำได้คุ้มกับค่าตัวที่ต้นสังกัดสูญเสียไป
และทั้ง 13 คนที่จะได้เห็นต่อไปนี้ การซื้อตัวที่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังที่สุดแห่งฤดูกาล 2014-15
13. อาเบล เฮอร์นันเดซ : ฮัลล์ ซิตี้
ค่าตัว : 10 ล้านปอนด์
ใน ศึกฟุตบอลโลกเมื่อกลางปีที่แล้ว เฮอร์นันเดซ ระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาได้กับการเล่นให้ทีมชาติอุรุกวัย จนทีมใหญ่หลายทีมต่างให้ความสนใจ โดยเป็นข่าวหนักกับทั้ง ลิเวอร์พูล และอาร์เซนอล ซึ่งสุดท้ายเขาก็ทำเซอร์ไพร์สด้วยการมาอยู่กับ ฮัลล์ ซิตี้ หน้าตาเฉย
แต่สุดท้ายแล้ว ตลอดทั้งฤดูกาล เฮอร์นันเดซ ก็ไม่สามารถยิงช่วยทีมได้อย่างที่ใครหลายคนคาดหวัง เพราะเขาทำไปได้แค่ 4 ประตูจากการลงเล่น 25 เกมเท่านั้น แถมยังไม่พอ ฮัลล์ ยังต้องตกชั้นไปเล่นในแชมป์เปียนชิพฤดูกาลหน้าอีกต่างหาก
12. ฮวน กวาดราโด : เชลซี
ค่าตัว : 23.3 ล้านปอนด์
กวาด ราโด เป็นอีกหนึ่งคนที่โดดเด่นอย่างมากในฟุตบอลโลกและต่อเนื่องมาถึงระดับสโมสร กับ ฟิออเรนตินา เขาถูกตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะย้ายระเบิดตีนผีในพรีเมียร์ลีกให้กับทัพสิงห์ บลู แต่สุดท้ายแล้วกลับมาปัญหาใหญ่ในเรี่องการปรับตัวจนได้โอกาสลงไปนิดหน่อย เท่านั้น
ดีลนี้คล้ายกับว่า มูรินโญ ซื้อเอาไว้เพื่อรองรับฤดูกาลถัดไป แต่เมื่อเขาถูกนำเข้ามาตอนหน้าหนาว จึงต้องถือเป็นหนึ่งในดีลยอดแย่ของซีซั่นไปแบบช่วยไม่ได้
11. คาลัม แชมเบอร์ส : อาร์เซนอล
ค่าตัว : 11 ล้านปอนด์
คา ลัม แชมเบอร์ เป็นฟูลแบ็คดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้เยี่ยมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน จนถูก อาร์เซน เวนเกอร์ ซื้อมาร่วมทีมเมื่อซัมเมอร์ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ (มีเงื่อนไขจ่ายเพิ่มอีก 5 ล้าน) แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้ต้องหลุดจากการเป็นตัวจริงไป
แช มเบอร์ส เคยได้รับโอกาสหลังจากที่ มาติเยอ เดอบูชี เจ็บในช่วงเดือนกันยายน แต่เขาก็ต้องถูกคู่แข่งเล่นงานจนเป๋ไปพักหนึ่ง และช่วงหลังก็เสียตำแหน่งแบ็คขวาให้กับ เฮคเตอร์ เบเยริน ไปอย่างถาวร แถมในซีซั่นหน้า แชมเบอร์ อาจกลายเป็นตัวเลือกลำดับที่ 3 หรือ 4 ในตำแหน่งนี้ก็เป็นได้
10. เดยัน ลอฟเรน : ลิเวอร์พูล
ค่าตัว : 20 ล้านปอนด์
อดีต ปราการหลังตัวแกร่งของทีม นักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เล่นได้อย่างเหนือชั้นมาตลอดซีซั่นก่อน จน ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงินสูงถึง 20 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวมาสวมเครื่องแบบหงส์แดงอย่างไม่รอช้า
แต่ แล้ว ลอฟเรน ก็ตอบแทนความเชื่อมั่นของผู้จัดการทีมด้วยฟอร์มการเล่นแบบที่ไม่เป็นทรง ทั้งการเล่นลูกกลางอากาศ การแย่งบอล ความเข้าใจเกม เข้าใจเพื่อนร่วมทีม รวมถึงการเข้าปะทะที่ได้เห็นมาตลอดนั้นทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า จริง ๆ แล้วค่าของเขานั้น 20 ล้าน หรือ 2 ล้านกันแน่
9. เอ็มมานูเอล ริวิแยร์ : นิวคาสเซิล
ค่าตัว : 6 ล้านปอนด์
อดีต ดาวยิงผู้กระหน่ำไป 13 ประตูให้กับ โมนาโก ในฤดูกาลก่อนคนนี้ย้ายมาอยู่กับ นิวคาสเซิล ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ โดยถูกตั้งความหวังว่าจะช่วยพา สาลิกาดง กางปีกบินให้สูงขึ้นจากเดิมได้อีก
แต่ จนแล้วจนรอด ริวิแยร์ ก็ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้เลย แถมในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล นิวคาสเซิล ก็มีผลงานย่ำแย่จนต้องมาดิ้นรนหนีตกชั้นเอาจนถึงวันสุดท้าย แถมตลอดทั้งซีซั่นเขาได้ลงเล่นไป 25 เกม แต่ยิงได้แค่ 1 ลูกเท่านั้น
8. ลาซาร์ มาร์โควิช : ลิเวอร์พูล
ค่าตัว : 20 ล้านปอนด์
สุด ยอดปีกดาวรุ่งที่ว่ากันว่ามีพรสวรรค์สูงที่สุดในลีกโปรตุเกสผู้นี้ ย้ายเข้ามาสู่ทีมโดยมีความหวังว่าจะกลายเป็นตัวแทนของ หลุยส์ ซัวเรซ ที่จะพา หงส์แดง กระพือปีกบินขึ้นไปคว้าถ้วยแชมป์มาได้ทันที
แต่ สุดท้ายไอ้หนุ่มผมยาวก็ไม่สามารถปรับตัวให้กับเข้าเพื่อนร่วมทีมได้ และพาฟอร์มของตัวเองหลุดออกทะเลไปไกลจนกู่ไม่กลับ ถึงแม้ว่าจะมีประคองตัวได้บ้างในช่วงหลัง แต่ด้วยความที่ไม่มีโอกาสได้ลงสนามมากนัก จึงทำให้อนาคตในแอนฟิลด์ของเขานั้นไม่ง่ายอย่างที่คาดไว้เสียแล้ว
7. วิลเฟรด โบนี : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ค่าตัว : 28 ล้านปอนด์
โบ นี ถูก เปเยกรินี ซื้อตัวมาร่วมทีมในช่วงหน้าหนาว แต่กว่าจะได้ลงเล่นต้องรอไปนานถึงหนึ่งเดือนเพราะเขาต้องไปช่วยทีมชาติลุย ศึกแอฟริกันเนชั่นคัพ แถมยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนในช่วงแรกอีกด้วย
อย่าง ไรก็ตาม โบนี ก็เหมือนจะลืมหยิบเอาฟอร์มการเล่นอันดุดันอย่างสมัยที่อยู่กับ สวอนซี ย้ายตามมาด้วย เพราะเมื่อถูกรายล้อมด้วยผู้เล่นระดับโลกมากมายแล้วเขากลับไม่เจิดจรัสเท่า ที่ควร และสุดท้ายก็ยิงไปได้แค่ 2 ลูกจาก 12 เกมเท่านั้น
6. แดนนี เวลเบ็ค : อาร์เซนอล
ค่าตัว : 16 ล้านปอนด์
อดีต กองหน้ามหาเทพแห่งความบันเทิงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถูก อาร์เซน เวนเกอร์ ซื้อมาร่วมทีมในช่วงก่อนตลาดซิ้อขายรอบแรกจะปิดเพียงนิดเดียวท่ามกลางฮือฮา ของคอลูกหนังทั่วโลก เพราะไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่า เด็กก้นหลุมของ เซอร์อเล็กซ์ จะถูกขายทิ้งให้กับคู่แข่งอย่างง่ายดายแบบนี้
ผล งานของ เวลเบ็ค ในฤดูกาลนี้คือยิงได้ 4 ในพรีเมียร์ลีก 1 ในเอฟเอคัพ และ 3 ในแชมเปียนส์ลีก ซึ่งเมื่อดู ๆ แล้วอาจจะไม่แย่มากนักแต่สำหรับกองหน้าอาชีพ 4 ลูกในลีกก็ถือว่าน้อยไป แถมหลัง ๆ ยังต้องเสียตำแหน่งให้ ชิรูด์ ไปเกือบจะถาวร แต่โชคดีที่ เวนเกอร์ จับเขาถ่างมาเล่นริมเส้นให้พอมีโอกาสได้เหยียบหญ้าอยู่บ้าง
5. ลุค ชอว์ : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ค่าตัว : 27 ล้านปอนด์
อีก หนึ่งผลผลิตจากทีมนักบุญในฤดูกาลก่อน ซึ่ง ชอว์ เองก็เล่นได้ยอดเยี่ยมจนขึ้นชื่อว่าเป็นแบ็คซ้ายดาวรุ่งที่อนาคตไกลที่สุด ของอังกฤษเลยก็ว่าได้
แต่แล้ว เขากลับต้องพบกับปัญหาบาดเจ็บรบกวนตลอดทั้งฤดูกาล ทำให้ไม่เคยได้ลงเล่นด้วยสภาพร่างกายที่เต็มร้อยแม้แต่ครั้งเดียว และนั่นทำให้ฤดูกาลนี้ถือว่าน่าผิดหวังสำหรับดาวเตะที่มีค่าตัวสูงลิ่วแบบ นี้จริง ๆ
4. ราดาเมล ฟัลเกา : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ค่ายืมตัว : 6 ล้านปอนด์
อดีต สไตรเกอร์ผู้เกรียงไกรจาก โมนาโก คนนี้ เป็นดีลที่น่าตื่นเต้นที่สุดของซีซั่นเลยก็ว่าได้ เพราะเขาย้ายมาอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ดในนาทีสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายด้วยการยืมตัวที่ทีมต้องจ่ายสูงถึง 6 ล้านปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ มากกว่า 2 แสนปอนด์เพื่อจูงใจ
เมื่อ ความคาดหวังสูง ความผิดหวังก็สูงมากตามไปด้วย เมื่อฟัลเกา ปรับตัวเข้ากับบอลอังกฤษได้ช้ามาก รวมถึงอาจจะทำฟอร์มของเขาหล่นหายไปจากตอนพักรักษาอาการบาดเจ็บในช่วงฟุตบอล โลก โดยเขาไม่เคยเล่นได้โดดเด่นเลยตลอด 25 นัดที่ได้ลงสนาม และยิงไปแค่ 4 ลูกเท่านั้นในพรีเมียร์ลีก
3. เอเลียเควียม ม็องกาลา : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ค่าตัว : 32 ล้านปอนด์
ปราการ หลังชาวฝรั่งเศสคนนี้ ย้ายมาเป็นหนึ่งในทัพของเรือใบสีฟ้าแบบเซอร์ไพร์ส เพราะก่อนหน้านี้ชื่อเสียงและฝีเท้าของเขานั้นยังไม่ได้โด่งดังอะไรมากนัก แต่กลับถูกซื้อมาในราคาสูงลิ่ว
และ เช่นกัน เขาถูกคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแผงหลังแทนที่ของ เดมิเคลิส ที่กำลังร่วงโรยลงไปทีละน้อย แต่จนแล้วจนรอด ม็องกาลา ก็ไม่สามารถตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้จัดการทีมได้แม้แต่เพนนีเดียว จนถูกดร็อปเป็นตัวสำรองแบบรัว ๆ แถมยังไม่รู้อีกว่า ฤดูกาลถัดไปอนาคตของเขาจะออกมาแบบไหนกัน
2. มาริโอ บาโลเตลลี : ลิเวอร์พูล
ค่าตัว : 16 ล้านปอนด์
เป็น อีกหนึ่งดีลที่สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลอังกฤษได้มากพอสมควร เมื่อกองหน้าที่มีชื่อเสียงรอบด้านอย่าง บาโลเตลลี ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล โดยหวังว่าเขาจะกลายเป็น ซูเปอร์มาริโอ คนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม
แต่ จนแล้วจนรอด เกรียนก็ยังสมกับเป็นเกรียน เพราะเจ้าบาโล ก่อเรื่องให้แฟนทีมอื่นได้ฮากันครืนตลอดทั้งฤดูกาล พร้อมกับฝากผลงานอันย่ำแย่เอาไว้ด้วยการยิงได้ 1 ประตู จากการลงเล่นไป 16 เกม
1. อังเคล ดิ มาเรีย : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ค่าตัว : 59.7 ล้านปอนด์
เชื่อ เลยว่าเด็กผีทุกคนนั้นดีใจกันจนแทบจะปิดซอยเลี้ยงเมื่อพวกเขาได้ข่าวว่ายอด แข้งทีมชาติอาร์เจนตินาอย่าง ดิ มาเรีย จะย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ ด้วยค่าตัวที่สูงเป็นสถิติของประเทศ
ใน ช่วงต้น ตัวรุกอาร์เจนไตน์ก็ยังโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีอยู่ เมื่อเขาทั้งยิงทั้งจ่ายให้เพื่อนได้ต่อเนื่อง แต่แล้วหลังจากที่ ดิ มาเรีย ต้องหยุดพักรักษาตัวไประยะหนึ่งนั่นเอง ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาค่อย ๆ ดร็อปลงไปเรื่อย ๆ จนแตกต่างกันแทบจะเป็นคนละคนกับช่วงต้นซีซั่น จนช่วงหลังเขาก็ได้กลายเป็นส่วนเกินของทีมไปโดยปริยาย
****************************************************************