ล็อกถล่ม!เรือพับสนามบุกเจอโบโร่สวนตูมแพ้ 2-0 ตกรอบเอฟเอ คัพ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ของมานูเอล เปเญกรินี่งานงอกเต็มๆหลังความหวังอีกรายการต้องลอยละลิ่วคาบ้านพ่ายมิดเดิลสโบรช์จากเดอะ แชมเปี้ยนชิพที่รับทั้งเกมแต่มาได้ประตูชัยจากความผิดพลาดของแฟร์นานโดต้นครึ่งหลังก่อนโดนกิเก้ตัวสำรองมาปิดกล่อง 90+3 ร่วงเอฟเอ คัพแค่รอบ 4 เท่านั้น
เอฟเอ คัพรอบ 4
สนาม เอติฮัด สเตเดียม
วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2558
กรรมการ ฟิว ดาว์น
แมนฯซิตี้ 0-2 มิดเดิลสโบรช์
0-1 แบมฟอร์ด 53'
0-2 มาร์ติเนซ(กิเก้) 90+3
เกมเอฟเอ คัพวันนี้มานูเอล เปเญกรินี่กุนซือเดอะ เอนจิเนียร์จัดผู้เล่นเกือบเต็มสูบ มีให้โอกาสบางคนบ้างอย่างวิลลี่ คาบาเญโร่ผู้รักษาประตูลงเฝ้าเสาแล้วตอนนี้แนวรุกตบเท้ากลับมาเพียบทั้งเอลกุน,โยเวติชที่ออกสต๊าร์ตส่วนที่ม้านั่งมีเอดิน เชโก้อีกด้วย
ด้านเดอะ โบโร่วันนี้เป็นรองหลายขุมแต่ก็มีตัวที่น่าสนใจอย่างดาเนี่ยล อยาล่าอดีตแข้งลิเวอร์พูล,ดีน ไวท์เฮดที่เคยเล่นกับสโต๊ค ส่วนตัวสำรองมีโจนาธาน วู้ดเกทกองหลังคุณปู่วัย 35 ปีด้วย
5'
โยเวติชเกือบเปิดซิงไว
หลังต่อบอลค่อยๆหาช่องโอกาสเสียวมาถึงหลังเล่นไป 5 นาทีจากลูกที่โคลารอฟเปิดบอลจากปีกซ้ายบอลเลียดมาที่จุดนัดพบ 5 หลาแต่โยเวติชแหย่เข้าฮอร์ตไม่ถึงบอลเลยออกไปอย่างน่าเสียดาย
10'
เรือขึงหนัก
ทีมเยือนรู้ตัวว่าเป็นรองลงไปอุดกันเกือบทั้งทีมและทิ้งตัวรอสวนไว้ 2 คนทำให้เวลาเพื่อนจะตั้งเกมสวนไม่สามารถเล่นเร็วได้เรียกว่าตอนนี้"เรือใบ"เก็บกินหมดไม่ว่าจะมาทางไหน
18'
โบโร่เฮแต่ล้ำหน้า
โบโร่เกือบช็อกแฟนเจ้าถิ่นหลังบุกมาชุดนี้ส่งบอลเข้าประตูได้แต่ล้ำหน้าซะก่อน
23'
ซิลบาได้ส้ม
ซิตี้เกือบส้มหล่นหลังลูกวางยาวเหมือนไม่มีอะไรแต่ไวท์เฮดอดีตแข้งสโต๊คที่วันนี้เหมือนบอลลั่นบ่อยดันโขกสกัดตั้งให้ซิลบาวิ่งมายิงจากนอกเขตเต็มๆยังดีเจออีกตัววิ่งเข้าบวกเลยต้องกระโดดยิงบอลข้ามคานออกไปไกลเลย กล้องจับไปที่ไวท์เฮดเลยลูกนี้
24'
กุนซัดได้เสียว
เจ้าถิ่นเริ่มเปิดแผลเดอะ โบโร่เรื่อยๆและอีกนาทีเดียวกุนพลิกบอลพาทัวร์เข้าเขตโทษด้านขวาก่อนตวัดหักข้อยิงบอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
26'
โบโร่สกัดอุตลุดรอดตาย
อีก 2 นาทีต่อมาเดอะ โบโร่รอดพ้นการเสียประตูอีกครั้งและหลายช็อตติดต่อกันเหลือเกินโดยเริ่มจากจังหวะที่มิลเนอร์หลุดมาทางขวาปาดเข้าในจะให้โยเวติชยิงแต่ไม่ม่ีจังหวะเลยต้องม้วนแล้วแทงให้โคลารอฟหลุดมายิงที่เส้นหลังติดเซฟเมเคียสที่ปัดทิ้งสองมือจากนั้นบอลทะลักมาเข้าทางซิลบาที่กำลังวิ่งจะมาตะบันแต่เจอกิ๊บสันสไลด์เปิดปุ่มทิ้งทันเวลา
27'
ประตูโบโร่ถุงมือเปื่อย
อีกนาทีเดียวโยเวติชได้บอลตั้งมาให้ขอนาบาสเลยส่องไกลนอกเขตโทษร้อนถึงเมเฆียสต้องล้มตัวปัดและโชคดีที่ไม่มีใครของเจ้าถิ่นมาซ้ำ
30'
เมเคียสงานชุก
ซิตี้แทบไม่อยากเชื่อว่าจะพลาดโอกาสขึ้นนำหลังโคลารอฟแปเรียดจากปีกซ้ายให้โยวติชข้ามหลอกเป็นกุนไหลตั้งให้มิลเนอร์ซัดจากนอกเขตบอลพุ่งเลียดเข้ามุมแต่เมเฆียสล้มตัวปัดเหลือเชื่อเป็นเตะมุม
36'
เมเฆียสบอกมึงบุกกันซักนิดได้ไหม
โบโร่ยังรอดพ้นการเสียประตูไปอีกหนหลังซิลบาได้บอลหน้าเขตโทษแล้วเอี้ยวตัวปั่นไซด์บอลไปแฉลบกองหลังกำลังจะเบียดเสาเข้าแต่เมเฆียสพุ่งปัดได้อีกหน
39'
เมเฆียส MOM
เป็นอีกครั้งที่เมเคียสต้องออกแรงช่วยทีมหลังโยเวติชเก็บตกในเขตโทษแล้วตั้งป้อมยิงในเขตโทษแต่เมเฆียสพุ่งปัดบอลลอยอยู่หน้าปากประตูตัวเองก่อนที่เพื่อนจะลอยตัวหวดทิ้ง แมน ออฟ เดอะ แมทช์ครึ่งแรกกันไปครับสำหรับจอมหนึบเลือดสเปนวัย 25 ปี
44'
ทีมเยือนได้เสียวบ้าง
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกโบโร่ได้โอกาสบ้างแล้วหลังไวท์เฮดเปิดบอลจากปีกขวาเป็นวอสเซ่นเสือกหัวมาขวัดตัดหน้าแข้งเจ้าถิ่นบอลย้อยไปหล่นบนเพดานตาข่าย แอบเสียวนิดนึง หมดครึ่งแรกหมดเวรหมดกรรมที่ทำไว้
HALF TIME
50'
เมเคียสออกจอทันที
ครึ่งหลังเล่นไป 5 นาทีเมเคียสออกแรงเซฟอีกแล้วจากจังหวะเตะมุมเป็นเมเฆียสต้องออกแรงเซฟอีก
53'
ช็อก!โบโร่รับทั้งเกมนำเฉย 1-0
แต่แล้วแฟนเดอะ โบโร่อันน้อยนิดได้แหกปากกันลั่นสนามเอติฮัดหลังทีมรักได้ประตูตรได้และต้องบอกว่าเป็นความผิดพลาดของแฟร์นานโดที่โดนบีบแล้วพยายามส่งคืนหลังบอลกระเด้งกระดอนแถมสั้นด้วยทำให้อโดมาห์วิ่งเข้าไปบล็อกบวกกับคาบาเญโร่บอลค่อยๆกลิ้งกำลังจะข้ามเส้นแต่แฟร์นานโดถึงบอลก่อนล้มตัวสไลด์หมายจะเคลียร์แต่แบมฟอร์ดโคตรฉลาดโถมตัวบล็อกตรงทางที่แฟร์นานโดจะเคลียร์บอลเลยติดบล็อกเข้าไปเลย โบโร่ฃ็อก 1-0
57'
โบโร่ได้ใจเกือบ 2-0!!
ตอนนี้เกมโคตรมันเพราะซิตี้หน้ามืดบุกแหลกจะเอาประตูตีเสมอให้ได้และโบโร่เกือบได้ลูก 2 สุุดๆหลังโบยาต้าคืนหลังให้คาบาเญโร่ผู้รักษาประตูหวดไม่ดีแปกทำให้ทอมลินเก็บได้แล้วเลี้ยงฝ่าเข้าเขตโทษไปดวลเดี่ยวก่อนยิงติดเซฟแล้วบอลทะลักไหลไปเข้าทางลีบิทเตอร์ที่ซัดเต็มๆแต่คาบาเญโร่เซฟหนสองแก้ตัวทันควัน
62'
อโดมาห์หลุดยิงเหนือแต่ชวด
ครึ่งหลังจังหวะบุกของโบโร่เหมือนคนละทีมจากครึ่งแรกเพราะตอนนี้เกมรุกน่ากลัวมากและน่าจะได้ลูกสองหลังทอมลินแทงให้อโดมาห์วิ่งตึคู่ไปกับโบยาต้าแล้วพอเห็นคาบาเญโร่ออกมาจากเส้น 6 หลาเลยกระดกกะให้ข้ามหัวแต่จอมหนึบวัย 34 ปีชาวสเปนรู้ทันกระโดดรับรอดักเลย
64'
ไม่น่าเชื่อโบโร่ชวดลูก 2!!!
ทีมเยือนน่าจะเข้ารอบด้วยลูกนี้หลังอโดมาห์ลากจี้หน้าเขตโทษแล้วแทงให้ทอมลินที่พอกำลังจะถึงบอลแล้วเห็นกอมปานีกำลังปรี่เข้ามาบวกเลยใช้เทคนิคซีดาน เทิร์นแล้วหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่ตอนยิงดันไปเหนือซัดไซด์ก้อยผ่านตัวคาบาเญโร่บอลชนเสาแล้วกระเด้งผ่านเส้นปากประตูไปออกอีกฝั่งนึงอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้า 2-0 ซิตี้น่าจะตกรอบเพราะทีมเยือนแนวรับตอนนี้บอกเลยว่าเอาทั้งกุนและซิลบาอยู่หมัดเลยทีเดียว
74'
โบโร่ส่วนเกือบปิดบัญชี
ซิตี้บุกกันแบบไม่คิดฃีวิตแต่ยังไม่สามารถหาช่องจะสวยๆได้เลยเพราะแน่นมากและก็เกือบโดนลูกสองอีกจากจังหวะสวนกลับที่คุณภาพคับแค้วของทีมเยือนหลังอโดมาห์ได้บอลหลุดมาทางซ้ายแล้วเงยหน้ามองเพื่อนเห็นอยู่ในเขตโทษด้านไกลคนเดียวเลยเปิดข้ามหัวเซนเตอร์ให้วอสเซ่นวางเท้ามาแต่ไกลก่อนวอลเลย์ตามน้ำติดเซฟคาบาเญโร่ล้มตัวปัดสองมือทิ้ง แฟนบอลทีมเยือนที่อยู่ด้านหลังดิ้นกันเป็นแถว
89'
แลมพ์ยิงไกลแฉลบชนเสา!!
นาทีสุดท้าย"เรือใบ"น่าจะตีเสมอสุดๆหลังแลมพาร์ดตัวสำรองได้ยิงไกลไปติดบล็อกเคลย์ตันที่สไลด์บล็อกบอลแฉลบย้อยข้ามหัวผู้รักษาประตูไปชนเสาก่อนที่กองหลังจะเคลียร์ทิ้งได้ ลูกนี้ได้แต่ยืนมองกันหมดแล้ว เจ้าถิ่นไร้ดวงไร้โชคอย่างที่สุด
90+3'
ซูเปอร์ซับกิเก้ซัดปิดท้ายทดเจ็บเข้ารอบ
ในที่สุดหลังทีมเยือนลงไปอุดเพื่อรอชัยชนะกลับมาได้ประตูชัยและประตูเข้ารอบในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 จากจังหวะที่สวนกลับมีการทำฟาว์ลกันแต่ผู้ตัดสินให้เล่นต่อจนสุดท้ายบอลไปเข้าทางมาร์ติเนซแข้งสเปนที่ชื่อหลังเสื้อเป็นกิเก้วิ่งมาแปโล่งๆในเขตโทษ 2-0 ก่อนดีใจแหกปากกันยกใหญ่ต่อหน้าแฟนบอลเข้ารอบ 5 เอฟเอ คัพด้วยฟอร์มการเล่นที่สุดเหนือและใจสู้สุดๆ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : วิลลี่ กาบาเยโร่ - ปาโบล ซาบาเลต้า, เดดริค โบยาต้า, แว็งซ็องต์ กอมปานี, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - เฆซุส นาบาส, แฟร์นันโด, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา - สเตฟาน โยเวติช, เซร์คิโอ อเกวโร่
สำรอง : โจ ฮาร์ท, บาการี่ ซาญ่า, กาแอล กลิชี่, มาร์ติน เดมิเชลิส, เฟอร์นันดินโญ่, แฟร็งค์ แลมพาร์ด, เอดิน เชโก้
มิดเดิ้ลสโบรช์ : โธมัส มาเยส - อัลเบิร์ต อโดมาห์, เบน กิ๊บสัน, ดาเนี่ยล อยาล่า, จอร์จ เฟรนด์ - อดัม เคลย์ตัน, แกรนท์ ลีดบีตเตอร์, ดีน ไวท์เฮด, เยลเล่ วอสเซ่น, ลี ทอมลิน - แพทริค แบมฟอร์ด
สำรอง : เอ็นริเก้ มาร์ติเนซ, คอเนอร์ ริปลี่ย์, เจมส์ ฮัสแบนด์, เคนเน็ธ โอเมอรูโอ, อดัม รีช, ยานนิค ไวด์ชัลท์, โจนาธาน วู๊ดเกตต์, กีเก้
ผู้ตัดสิน : ฟิลิป ดาวด์
Tags:
ที่จริงโอกาสเรามีเยอะเหมือนกัน แต่ไม่มีดวง และยังมีจุดอ่อนหลายจุด ยอมรับครับว่าแพ้ มองไปข้างหน้ากันต่อไปครับ เปนกำลังใจให้ทุกคน หายเศร้าหายเซ็งกันไว้ๆนะครับ สู้ๆ
บอกตรงๆเลยว่าทุเรศ เเละอับอาย
ไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะล้มเหลวถึงขนาดนี้
เล่นในบ้าน2นัดเเพ้2นัด อายชิพหายพูดเลย นัดหน้าเจอเชลซีผมทำใจไว้เเล้ว
เเพ้3นัดติดไป หลังจากนั้นค่อยมาเเก้กันใหม่ ปีนี้ก็ไม่ต้องเอาถ้วยอะไรทั้งนั้น
ประคองๆไปปีนี้ ปีหน้าว่ากันใหม่
ไม่เครียดนะครับบอลถ้วย ถ้าเป็นแพ้ในลีคยังเจ็บใจกว่า
ไม่มีข้อแก้ตัวใดใด...
แต่คนจะมองว่าขาด ยาย่าขาดใจ...
ดูนักเตะตั้งใจเล่นอยู่แต่มันเหมือนทีมขาดอะไรไปอย่างทั้งที่เมื้อก่อนยุคมันชินี่ในบ้านจะแพ้ยากเอามากๆจนได้ฉายา "นรกของทีมเยือน" หมดความขลังไปเสียแล้ว
555555 ขอบคุณเปเญฯครับที่ทำแฟนเรือใบไม่เศร้าแล้ว
เพราะมันรู้สึกว่าแพ้คาบ้านเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว กรั่กๆๆๆ
เชียร์กันต่อไปครับ ตอนนี้ขวัญและกำลังใจในทีมเราไม่สู้ดีเท่าไหร่ ฝากให้ลุงเปแกไปแก้ไขละกัน
ก็หวังว่าฟอมเก่งของเราจะกลับมาเร็วๆนี้คับ ยังเหลืออีกสองถ้วยให้ได้ลุ้น ตามลุ้นตามเชียร์กันต่อคับ
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by