Members

ผีแพ้คารังนัดแรก! "เรือใบ" บุกปราบ 2-1 ซิวชัย14นัดติดนำโด่ง11แต้ม

ผีแพ้คารังนัดแรก! "เรือใบ" บุกปราบ 2-1 ซิวชัย14นัดติดนำโด่ง11แต้ม

ผีแพ้คารังนัดแรก! "เรือใบ" บุกปราบ 2-1 ซิวชัย14นัดติดนำโด่ง11แต้ม

"ดาร์บี้แมตช์แมนเชสเตอร์" จบลงที่ "ปีศาจแดง" มีอันต้องแพ้ใน โอลด์แทร็ฟฟอร์ด เป็นนัดแรกของซีซั่นแถมถูกหยุดสถิติไร้พ่ายในรังทุกรายการไว้ที่ 40 นัด หลังเจอความฮอตของ "เรือใบสีฟ้า" บุกมาเอาชนะได้แบบสนุก 2-1 เก็บสามแต้มพร้อมนำโด่งหนีไปแล้ว 11 คะแนน ชนิดไร้พ่าย แถม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังกลายเป็นทีมแรกที่ทำสถิติคว้าชัยในพรีเมียร์ลีก 14 นัดติดต่อกันอีกด้วย

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2560
แมนฯ ยูไนเต็ด 1 - แมนฯ ซิตี้ 2

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    ฝั่ง "เรือใบสีฟ้า" จ่าฝูงของตารางเลือก กาเบรียล เชซุส หัวหอกแซมบ้าออกสตาร์ตในตำแหน่งหน้าเป้า กลางสนามได้ตัว ดาบิด ซิลบา สลัดอาการบาดเจ็บออกสตาร์ตเดินเกมร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์

    สิบนาทีแรกของเกม ทั้งสองฝั่งยังไม่มีใครผลีผลาม ต้องรอจนถึงนาทีที่ 12 กว่าจะมีโอกาสแรก และเป็นฝั่งทีมเยือนที่ได้ออกอาวุธก่อน จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา ป้ายบอลจากทางขวางมาหน้าเขตโทษให้ แฟร์นันดินโญ่ ได้ลองสับไกด้วยขวา ทว่าบอลไปติดบล็อคแนวรับเจ้าบ้าน เคลียร์กันออกมาได้

    หลังจากนั้น 5 นาที เป็นโอกาสของ แมนฯ ซิตี้ ต่อเนื่อง ราฮีม สเตอร์ลิง พาบอลลากจากทางขวา เล่นชิ่งกับ กาเบรียล เชซุส เข้าไปทางซ้ายของเขตโทษ แล้วซัดด้วยซ้าย แต่โดน สมอลลิ่ง ตามมาพัวพัน บอลบดพื้นไปตรงตัวเด เคอา

    ผ่านมาถึงนาทีที่ 29 ยังเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าต่อเนื่อง แฟร์นันดินโญ่ วางบอลยาวจากกลางสนามให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปทาบขวาของเขตโทษ ดึงบอลลงแล้วยิงด้วยซ้าย แต่บอลติดบล็อคแนวรับเจ้าถิ่น

    ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 42 แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเตะมุมมาจากฝั่งขวา โรเมลู ลูกากู โขกสกัดพลาดเข้าหาปากประตูตัวเอง บอลเข้าทาง ดาบิด ซิลบา ตวัดยิงจ่อๆสวนตัว เด เคอา เข้าประตูไป

    ครึ่งแรกทำท่าว่าจะจบด้วยการออกนำของ แมนฯ ซิตี้ แต่กลายเป็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มาตามตีเสมอสำเร็จ จังหวะบอลยาวฝั่งซ้าย นิโกลัส โอตาเมนดี้ โขกสกัดไม่โดน บอลทะลักมาทางขวาของเขตโทษ มาร์คัส แรชฟอร์ด สอดเข้าไปยิงด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ ส่งบอลผ่านตัว เอแดร์ซอน เข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด กระทั่งครบ 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 1-1

    กลับมาเตะครึ่งหลังได้ 6 นาที แมนฯ ซิตี้ ได้ลุยก่อน ลีรอย ซาเน่ พาบอลโต้ขึ้นมาทางขวา ลากขัดเข้าในมาหน้าเขตโทษ แล้วซัดด้วยซ้าย แต่บอลไต่หลังเท้าเหินหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

    ผ่านมาถึงนาทีที่ 55 แมนฯ ซิตี้ กลับมานำ 2-1 ดาบิด ซิลบา เปิดฟรีคิกจากทางซ้ายเข้าไปทางขวาของเขตดทษ โรเมลู ลูกากู คนเดิมเตะสกัดบอลไม่ดีไปโดนตัว สมอลลิ่ง บอลมาหยุดที่หน้า นิโกลัส โอตาเมนดี้ ตวัดยิงจ่อๆเข้าประตูไป

    นาทีที่ 65 แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดบอลได้กลางสนาม แล้วแทงเข้าออกขวาให้ โรเมลู ลูกากู สอดหลุดกับดักล้ำหน้าไปทางขวา แล้วหวดด้วยขวา แต่ใส่แรงเกิน บอลเหินหลุดกรอบออกหลังไปอย่างไม่น่าให้อภัย

    กำลังจะเข้าช่วง 20 นาทีสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ เกือบจะได้อีกประตู เควิน เดอ บรอยน์ ลากจากขวาเข้าในไปวัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลจะมุดโคนเสาแรก แต่คราวนี้ ดาบิด เด เคอา ไม่ยอม พุ่งต่ำไปเซฟเอาไว้ได้

    เลยมาถึงนาทีที่ 75 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบจะตีเสมอ ฟาเบียน เดลฟ์ รับมือกับบอลยาวพลาดอีกครั้ง บอลเลยมาถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลากเข้าไปซัดในเขตโทษทางขวาเล็งหาโคนเสาแรก แต่ เอแดร์ซอน ปัดออกหลังไปได้

    กระทั่งนาทีที่ 85 แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดตีเสมอ มาต้า วางบอลเข้าไปทางซ้ายของเขตโทษ มาร์กซิยาล สอดไปเปิดเร็วมาให้ ลูกากู ยิงจ่อๆ แต่ เอแดร์ซอน เซฟได้ จังหวะแรกบอลไม่หนีไปไหน มาต้า ซ้ำอีกครั้ง แต่ยังไปติดเซฟเหลือเชื่อ

     ช่วงทดเจ็บ แมนฯ ซิตี้ เกือบจะได้ประตูย้ำชัย แบร์นาร์โด้ ซิลวา พาบอลหลุดเข้าเขตโทษทางซ้าย พาไปจนเกือบสุดเส้นหลังแล้วยิง แต่บอลไปติดตัว เด เคอา ครบ 90 นาที "เรือใบสีฟ้า" บุกมาเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เก็บชัยชนะนัดที่ 14 ติดต่อกันสถิติใหม่ของลีก พร้อมกับทิ้งรองจ่าฝูงไปเป็น 11 คะแนน ขณะที่ทัพ "ปีศาจแดง" ถูกหยุดสถิติไร้พ่ายในรังเอาไว้ที่ 40 นัดในทุกรายการ  
    
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, มาร์กอส โรโฮ (วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ น.46), แอชลี่ย์ ยัง - เนมานย่า มาติช, อันเดร์ เอร์เรร่า (ฆวน มาต้า น.82)- มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจสซี่ ลินการ์ด (ซลาตัน อิบราฮิโมวิช น.76), อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล - โรเมลู ลูกากู

    สำรองไม่ได้ใช้ : เซร์คิโอ โรเมโร่, ฟิล โจนส์, ลุค ชอว์, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

    ใบเหลือง : โรโฮ น.36, แรชฟอร์ด น.63, เอร์เรร่า น.79, ยัง น.90

    แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซองต์ ก็องปานี (อิลคาย กุนโดกัน น.46), นิโกลัส โอตาเมนดี้, ฟาเบียน เดลฟ์ - เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา - ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล เชซุส (เอเลียคิม ม็องกาล่า น.59), ลีรอย ซาเน่ (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.88)

    สำรองไม่ได้ใช้ : เคลาดิโอ บราโว่, ดานิโล่, เซร์คิโอ อเกวโร่, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชสโก้

    ใบเหลือง : วอล์คเกอร์ น.4, ซิลบา น.73

    ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ 

สยามสปอร์ต

Views: 436

Reply to This

Replies to This Discussion

สั้นๆเลยครับ สุดยอดดด

สั้นๆ ด้วยครับ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดๆๆ

พาดหัวข่าวนี้ คำไหนมันก็ช่างเพราะ เสนาะหู เสนาะตา

"ผีแพ้คารัง"

"เรือใบบุกปราบ"

"ซิวชัย 14 นัดติด"

"นำโด่ง 11 แต้ม"

วุ้ยยยยย เพลินใจ 555+

ขอบคุณลูกากูที่ช่วยแอสซิสต์สองลูกติด 555 หลับฝันดีทุกคนนะจ๊ะเด็กผี
MOMนัดนี้ยกให้ลูกากูทำ2 แอสซิสต์55+

นักเตะเกรดเอค่าตัวแพงติดอันดับของมูมันทำ 2 แอสซิสเชียวนะ..

แค่เผอิญแอสซิสผิดฝั่ง..  ก๊ากๆๆ.. ฮาค่อดๆ...

ในที่สุดเราก็ทำได้ 555 

ใช่เลยลูกากูทำ 2 แอสซิสต์ อิอิ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.