ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่นิดกับการตัดสินใจเลือก 10 นักเตะที่โชว์ฟอร์มเด่นสุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ท่ามกลางตัวเลือกกลุ่มใหญ่ที่ศักยภาพฝีเท้าใกล้เคียงกันหลายคน

 
        เดลี่เมล สื่อระดับคุณภาพของเมืองผู้ดี จึงขันอาสาขอคัดสรรเฟ้น 10 ซูเปอร์สตาร์ที่ระเบิดฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวามากที่สุด บนเส้นทางอันหฤโหดตลอด 10 เดือนที่ผ่าน
 
        อาจมีบางคนที่สร้างเซอร์ไพรส์อยู่ในโผท็อปเทนแข้งเด่นของลีก และ อาจมีบางคนที่หลุดโผอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น แว็งซ็องต์ ก็องปานี ที่พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นนายใหญ่ในแผงรับของ แมนฯ ซิตี้ หรือ ทิม ครูล ปราการด่านสุดท้ายของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
 
        จะเห็นด้วยในทิศทางเดียวกัน หรือ เห็นต่างแบบสุดขั้ว ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน

        10. ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ (นิวคาสเซิ่ล)
 
        ดาวเตะหัวฟู โด่งดังเป็นพลุแตกตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาพำนัก ที่เซนส์ เจมส์ พาร์ค ที่ปัจจุบันแจ้งทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น สปอร์ต ไดเรกต์ อารีน่า เมื่อปี 2008 หลังจากโผล่หน้าในทัพทีมชาติอาร์เจนตินาบ่อยครั้ง แต่มีเครื่องหมายคำถามตามมาติดๆ กับความแน่นอนของฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยคงเส้นคงวาเท่าไร
 
        พลันที่ นิวคาสเซิ่ล ล้มหัวทิ่มหัวตำ กระเด็นตกชั้นสู่ลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ ถูกตราหน้าว่าเป็นแพะคอยรับบาปโทษครั้งนี้ โดยถูกหยามหยันว่า เป็นการเซ็นสัญญายอดแย่ในประวัติศาสตร์บทหนึ่งของสโมสรเท่าที่เคยมีมา
 
        แต่ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์โกลอชชินี่ นานวันเข้ากองหลังอาร์เจนไตน์ รายนี้ ก็พัฒนาฟอร์มได้ดีขึ้น ปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของลูกหนังอังกฤษ เป็นแกนหลักของทัพสาลิกาดง ภายใต้การบริหารงานของ อลัน พาร์ดิว
 
        ฤดูกาลนี้ โกลอชชินี่ ที่อายุ 30 พรรษา ดูเล่นได้แน่นอนและนิ่งเฉียบยิ่งขึ้น ทำให้แนวรับของยอดทีมแห่งดินแดนอีสาน แข็งโป๊กราวกับภูผาหินที่ยากจะทำลายลงได้ บทสรุปแล้วค่าหัว 10.3 ล้านปอนด์ ที่เซ็นเช็กจ่ายให้กับ เดปอร์ติโบ ลากอรุนญ่า เมื่อ 3 ปีก่อน ถูกทดแทนด้วยการนำต้นสังกัดเบียดแย่งโควตาลุยถ้วยยุโรปอยู่ในตอนนี้

        9. โจ ฮาร์ท (แมนฯ ซิตี้)
 
        เป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและน่าประทับใจเหลือเกินสำหรับ โจ ฮาร์ท มือกาวแห่งค่ายเรือใบสีฟ้า ที่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบ นับตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งฤดูกาล 2011-12 เกือบรูดม่านปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
 
        ฮาร์ท ยกระดับของตัวเองจนกลายมาเป็นมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษ ได้อย่างถาวรแล้ว เช่นเดียวกับในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ซูเปอร์เซฟอันมหัศจรรย์หลายต่อหลายครั้ง แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือความมั่นใจที่ฮาร์ท มีอยู่ในตัวเกินร้อยเสมอ ซึ่งเพลานี้ก็คงไม่มีใครหาญกล้าแย่งตำแหน่งมือหนึ่งไปจากผู้รักษาประตูได้ เสียแต่ว่าเจ้าตัวจะได้รับบาดเจ็บหรือว่าโดนพิษกักแข้งลักพาตัวไปเอง
 
        นายทวารวัย 25 ปี ที่ช่วงแรกๆ เป็นมือสองรองจาก เชย์ กิฟเว่น เกือบจารึกชื่อเป็นผู้ทำประตูบนสกอร์บอร์ด หลังจากเติมขึ้นมาโหม่งบอลในจังหวะเปิดเตะมุม ช่วงทดเวลาเจ็บ ที่ฉะกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในศึกยูโรปา ลีก แต่บอลเจ้ากรรม ดันเลี้ยวผ่านเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย 
 
        เหลือเวลาโลดแล่นอยู่บนผืนหญ้าอีกหลายปีดีดัก และ ฮาร์ท กำลังเดินมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกลูกหนัง หากไม่โชคร้ายโดนอาการบาดเจ็บหนักเล่นไปซะก่อนในอนาคตข้างหน้า

        8. อันโตนิโอ วาเลนเซีย (แมนฯ ยูไนเต็ด)
 
        จะแชมป์หรือได้แค่พระรอง การเดินทางบนถนนอันแสนหฤโหดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดทั้งซีซั่น จนมาได้วัดแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ ในนัดนัดสุดท้าย ซึ่งอาจมีโอกาสอยู่ไม่มาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด อันโตนิโอ วาเลนเซีย ก็สมควรได้รับเครดิตไม่น้อยกว่าใครในทีม
 
        วาเลนเซีย ถูกเปรียบเสมือนนักเตะปิดทองหลังพระ ผู้อยู่เบื้องหลังชัยชนะในหลายๆ นัดของทีม ซึ่งฟอร์มการเล่นของดาวเตะเอกวาดอร์ โดดเด่นไม่เป็นสองรองจากประตูของ เวย์น รูนี่ย์ หรือการรีเทิร์น ออฟ เดอะ คิง อย่าง พอล สโคลส์ ด้วยเช่นกัน
 
        ปีกจรวดวัย 26 ปี อาจมีสถิติการทำประตูด้อยกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อดีตปีกเท้าชั่งทอง ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส (วาเลนเซีย ยิงได้เพียง 4 ประตูในซีซั่นนี้) แต่ก็มีเพียงแค่ ดาบิด ซิลบา สตาร์ตัวรุกสแปนิช ของอริร่วมเมือง แมนฯ ซิตี้ เท่านั้น ที่ทำแอสซิสต์ได้มากกว่า วาเลนเซีย (13 ลูก)
 
        และน่ายกย่องในสปิริตเลือดนักสู้ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคขวากหนามของ วาเลนเซีย ที่สามารถสลัดอาการบาดเจ็บและค้นหาฟอร์มเก่งของตัวเองได้อีกครั้ง หลังจากโดนโรคเดี้ยงเล่นงานจนสะบักสะบอมเมื่อ 3 ฤดูกาลก่อน 

        7. แกรนท์ โฮลท์ (นอริช)
 
        นอริช ซิตี้ ออกสตาร์ตซีซั่นนี้ ในฐานะเต็งหามตกชั้น เคียงข้าง สวอนซี ซิตี้ และ คิวพีอาร์ 2 เพื่อนร่วมรุ่นเฟรชชี่พรีเมียร์ลีก แต่นกขมิ้นเหลืองอ่อน ไม่ต้องมาลุ้นตัวโก่งดิ้นรนหนีตายในช่วงท้ายฤดูกาลเหมือนอีกหลายๆ ทีม สืบเนื่องมาสถานการณ์สร้างวีรบุรุษที่ชื่อว่า "แกรนท์ โฮลท์"
 
        ใช่ว่า โฮลท์ จะเป็นตัวหลักของทีมมาตั้งแต่แรกเริ่ม หากแต่เป็น สตีฟ มอริสัน หัวหอกเลือดเวลส์ ที่ยึดตัวจริงก่อนใครเพื่อน ทว่าไปๆ มาๆ  โฮลท์ ต่างหากที่หัวเราะทีหลังดังกว่า ทันทีที่ฟอร์มเข้าฝัก ง้างเท้าเป็นเข้าเป้า ต่อให้เอาช้าง 10 เชือกจากเมืองสุรินทร์ มาฉุดก็หยุดไม่อยู่ ฤดูกาลนี้หัวหอกร่างโย่ง สอยตาข่ายทั้งสิ้น 15 ครั้ง ได้รับคำชมอย่างหนาหูเลยทีเดียว
 
        ไม่แปลกใจที่จะมีเสียงเชียร์ตามมาติดๆ "Holt for England!"
 
        เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าเบอร์หนึ่งโดนแบนแต๊ดแต๋ 2 นัดในรอบแรกศึกยูโร, ดาร์เรน เบนท์ ฟิตไม่ทันช่วยชาติลงบู๊ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ทวีปครั้งนี้ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ รอย ฮ็อดจ์สัน นายใหญ่สิงโตคำรามรายใหม่ ว่าจะ "ลองของ" ใช้ขวัญใจของสาวก เดอะ กานารี่ส์ หรือไม่
 
        สถิติตอกหมุดย้ำชัดเจนว่า โฮลท์ คือตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกองหน้าสายเลือดผู้ดี โดยที่ เวย์น รูนี่ย์ คือพ่อค้าแข้งคนเดียวที่ยิงประตูได้มากกว่าเขา

        6. โยอัน กาบาย (นิวคาสเซิ่ล)
 
        หากเรามาไล่เรียง "นักเตะเด่น" แต่ละตำแหน่งในทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็คงนั่งนับหัวกันไม่หวาดไม่ไหว แต่หนึ่งในจำนวนนั้นก็ต้องมีชื่อของ โยอัน กาบาย ปีกเฟร้นช์แมนรวมอยู่ด้วย
 
        ค่าตัวช่วงซัมเมอร์ 4.3 ล้านปอนด์ที่ได้มาจากลีลล์ ในลีก เอิง ฝรั่งเศส ถูกเหมือนได้เปล่า ถ้าวัดผลงานและมาตรฐานของกาบาย ในซีซั่นนี้ สมเหตุสมผลแล้วที่ทำไม อลัน พาร์ดิว ถึงยอมปล่อย เควิน โนแลน ห้องเครื่องและอดีตกัปตันทีมออกจากทีมไป
 
        กาบาย รังสรรค์ผลงานในสนามได้อย่างโดดเด่น เป็นฟันเฟืองสำคัญในแต่ละประตูที่ทีมทำได้ สถิติ 6 แอสซิสต์ อาจไม่มากไม่มาย แต่เมื่อเทียบกับการทำให้แดนกลางของ เดอะ แม็กพายส์ ลงตัวและกลมกลืนเป็นเนื้อก้อนเดียว 
 
        ฟอร์มหรูหราแบบนี้ของกาบาย คงไม่พลาดติดทัพลุยยูโร 2012 กับฝรั่งเศส ที่ประเทศยูเครน และ โปแลนด์ เจ้าภาพร่วม และ แฟนๆคงเฝ้าติดตามในนัดที่ ฝรั่งเศส พะบู๊กับ อังกฤษ

        5. ฆวน มาต้า (เชลซี)
 
        ผลงานที่ผ่านมาของเชลซี ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนนั่งเล่นรถไฟเหาะตีลังกาที่สวนสนุก ทว่าไม่ว่าจะดีหรือแย่ ในวันนั้นของเดือน เอ้ย! ในช่วงเวลานั้น ฆวน มานูเอล มาต้า สามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้คงเส้นคงวามากที่สุดกว่าใคร
 
        มาต้า ย้ายมาจาก บาเลนเซีย ด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นนักเตะกำลังสำคัญของเชลซี โดยมีทีเด็ดอยู่ที่การผ่านบอลลูกได้เสียที่แม่นยำ ยิงแถวสองได้ดี สถิติยิงประตู 12 เม็ดรวมทุกรายการ บวกกับ 13 แอสซิสต์ การันตีฝีเท้าระดับเวิลด์คลาสได้เป็นอย่างดี 
 
        ด้วยอายุอานามเพียงน้อยนิด 23 ปีเท่านั้น เส้นทางบนถนนลูกหนังของมาต้า ยังอีกยาวไกล ยังสามารถพัฒนาฝีเท้าได้ดีกว่านี้อีก และ เชื่อว่าเชลซี คงไม่โง่เขลาปล่อยเพชรเม็ดงามชิ้นนี้ที่ผ่านการเจียระไนมาเรียบร้อยแล้วหลุดมือไปง่ายๆ

        4. คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ (ฟูแล่ม)
 
        ไม่ว่า ฟูแล่ม ทีมระดับชนชั้นกลางแห่งลอนดอน จะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเทรนเนอร์อยู่บ่อยหนมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ปีกจอมเทคนิคเลือดอเมริกัน ก็ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมอยู่ทุกยุคทุกสมัย
 
        หลังจากย้ายมาหากินในที่เวสต์ลอนดอน เมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา เดมพ์ซี่ย์ ในวัย 29 ปี กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มพีกสุดของชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ นอกจากคลำเป้าได้เยอะกว่าทุกๆ ปี (23 ประตู) แล้ว ยังเปิดบอลให้เพื่อนเข้าทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำอีกต่างหาก
 
        และนั่นจึงมีเหตุผลเพียงพอว่า เพราะอะไร บรรดาทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก จึงพยายามตามตื๊อเทียวไล้เทียวขื่อจีบ พ่อหนุ่มเนื้อหอมกรุ่นรายนี้เหลือเกิน
 
        ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรายงานว่า อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก เดินหน้ารุกคืบทาบทาม   ศูนย์หน้าทีมชาติสหรัฐฯ ไปร่วมทีมด้วยหลังเสร็จสิ้นฤดูกาลนี้ โดยอาศัยสถานการณ์ที่นักเตะใกล้หมดสัญญากับต้นสังกัด แม้เจ้าสัวน้อย ได้ยื่นสัญญาใหม่ระยะ 3 ปี ให้กับเจ้าตัวได้พิจารณา แต่ยังไร้วี่แววสะบัดน้ำหมึกต่อสัญญา
 
        ก่อนหน้านั้นเจ้าของรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของสหรัฐฯ ประจำปี 2011 เพิ่งตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากลิเวอร์พูล อีกด้วย

        3. เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
 
        เงินก้อน 38 ล้านปอนด์ ถูกหว่านลงบนแผงตลาดค้าเนื้อสด เพื่อแลกมาซึ่งเครื่องจักรถล่มประตูนามว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน และปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดอีกครั้งหนึ่งของสโมสรแมนฯ ซิตี้
 
        การเข้ามาของกุน ช่วยยกระดับให้ ซิตี้ กลายเป็นบิ๊กทีมของประเทศ เบียดแย่งแชมป์ไหล่ต่อไหล่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จนกระทั่งนัดสุดท้าย สุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ แม้ในบั้นปลาย อาจเกิดฟ้าผ่าใจกลางเอติฮัด สเตเดี้ยม เรือใบสีฟ้า พลาดแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 44 ปี อย่างเหลือเชื่อ แต่ก็หาใช่ความผิดของ อดีตดาวยิง แอต.มาดริด รายนี้ไม่
 
        29 ประตูจาก 46 เกม เป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับ กุน และ โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้เป็นเทรนเนอร์ ซึ่งแน่นอนที่สุด กุน ยังคงปักหลักค้าแข้งกับเรือใบไฮโซลำนี้ต่อไปอีกหลายปี ตราบนานจนกระทั่งมีมหาเศรษฐีบางทีมร่ำรวยล้นฟ้า ทุ่มบ้าเลือดในราคาที่เหนือกว่า
 
        กุน ประสานงานกับซุป"ตาร์เพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก้, คาร์ลอส เตเวซ หรือแม้แต่จอมแสบอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่

        2. เวย์น รูนี่ย์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
 
        ฤดูกาลนี้ เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกเบอร์หนึ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเหมือนออกสตาร์ตมีสะดุดเล็กน้อย ก่อนกลับมาตั้งหลักได้ทันเวลา และ ถือสถิติกระหน่ำประตูไปทั้งหมด 34 ลูกจาก 41 นัด (26 ประตูในลีก) จากทุกรายการ ส่วนในลีกเป็นรองแค่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กัปตันทีมอาร์เซน่อลเพียงรายเดียว ที่กะซวกตาข่ายคู่แข่งไป 30 เม็ดเบาะๆ
 
        23 นัดก่อนหน้านี้ ผลงานของหมูรูน จัดว่าเด็ดสะเด่าถึงใจพระเดชพระคุณแฟนผียิ่งนัก เมื่อระเบิดฟอร์มร้อนยิงได้ถึง 22 ตุง ซึ่งก็รวมถึงการทำแฮตทริกใส่ อาร์เซน่อล กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส
 
        ขณะเดียวกัน อดีตกองหน้าเอฟเวอร์ตัน วัย 26 ปี ได้รับคำชมจากรอบด้าน เรื่องการระงับอารมณ์เดือดได้ดีกว่าสมัยก่อน ที่โมโหโกรธาเมื่อไร มีบรรลัยเมื่อนั้น ซึ่งในเวทีพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ เจ้าตัวยังไม่ถูกกรรมการจดชื่อ โดนใบเหลืองเลยแม้แต่ครั้งเดียว
 
        ยกเว้นฟุตบอลถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ฉะกับ เบนฟิก้า เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน

        1. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (อาร์เซน่อล)
 
        แม้เพิ่งรับบทนายแบบเสื้อยูนิฟอร์มชุดเหย้าตัวใหม่แนวย้อนยุคที่จะใช้ทำการแข่งขันในฤดูกาลถัดไป ร่วมกับเพื่อนๆ อาร์เซน่อล  แต่กระแสเตรียมเปิดตูดหนีไปซบทีมอื่น ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ หาใช่ได้แต่ลุ้นโควตาลุย ชปล. เหมือนต้นสังกัดปัจจุบันไปวันๆ ค่อนข้างรุนแรงเหลือเกิน
 
        เป็นฤดูกาลที่มหัศจรรย์ของ กัปตัน โรบิน อย่างแท้จริง แม้ เดอะ กันเนอร์ส จะไร้โทรฟี่เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน แต่เขายังเดินหน้าล่าตาข่ายคู่ต่อสู้ได้ถึง 35 เม็ดจาก 46 เกม
 
        ดังนั้นตำแหน่งรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ อังกฤษ (พีเอฟเอ) และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวฟุตบอลอังกฤษ ประจำซีซั่น 2011-12 จึงเหมาะสมและคู่ควรด้วยประการทั้งปวง
 
        ภารกิจพิชิตตั๋ว ชปล. ฤดูกาลหน้า จึงเป็นงานชิ้นสุดท้ายของ โรบิน ก่อนจะตัดสินใจอนาคตอีกทีหลังเสร็จสิ้นนัดบู๊กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน วีกเอนด์นี้ โดยเจ้าตัวเหลือสัญญากับต้นสังกัดอีกแค่ปีเดียว และยังไม่ได้ทำข้อตกลงฉบับใหม่กับ อาร์เซน่อล แต่อย่างใด
 
        ว่ากันว่าตอนนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กำลังหาทางเกลี้ยกล่อมกัปตันทีมคนเก่งอย่างหนักให้อยู่กับทีมต่อไป ซึ่งแฟนปืนทั่วโลก ก็ต้องลุ้นด้วยใจระทึก