Members

View All

ท๊อฟฟี่พังนัดแรก!ยิงก่อนเรือพิโรธรัวแซงเลือดท่วมจอ 3-1

เจ้าถิ่นเกือบเสียท่าเมื่อโดน โลเมลู ลาคาคูยิงนำไปก่อนแต่อัลบาโร่ เนเกรโด้กับเซร์คิโอ อเกวโร่มาช่วยยิงคนละดอกก่อนทิม ฮาวเวิร์ดทำเข้าประตูตัวเองอีกลูกส่งให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้พลิกชนะเอฟเวอร์ตัน 3-1 พร้อมส่งทีมเยือนพ่ายเกมแรกในพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เอฟเวอร์ตัน

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

ประตู : 0-1 โรเมลู ลูคาคู น. 16, 1-1 อัลบาโร่ เนเกรโด้ น. 17, 2-1 เซร์คิโอ อเกวโร่ น. 45, 3-1 ทิม ฮาวเวิร์ด น. 69 (เข้าประตูตัวเอง)

"เรือใบสีฟ้า"ผลงานย่ำแย่แพ้มา 2 เกมติดต่อกันแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งการโดนแอสตัน วิลล่ายิงแซงและบาเยิร์น มิวนิคไล่ถล่มคาบ้านในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

มานูเอล เปเญกรินี่ยังไว้วางใจให้โจ ฮาร์ทที่พลาดบ่อยเหลือเกินในช่วงหลังยืมเฝ้าเสาต่อไปขณะที่โจลีออน เลสค็อตต์เบียดมาติย่า นาสตาซิชลงสนามมาจับคู่กับแวงซ็องต์ กอมปานีในเกมนี้

ส่วนแนวรุกซาเมียร์ นาสรี่โดนดรอปออกจากทีมเป็นดาบิด ซิลบาที่ฟิตเต็มที่กลับมาลงสนามและคู่หอกเป็นหน้าที่ของอัลบาโร่ เนเกรโด้และเซร์คิโอ อเกวโร่

ด้านเอฟเวอร์ตันยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้แต่นัดนี้พวกเขาขาดกำลังสำคัญอย่าง แกเร็ธ แบร์รี่ห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษที่ลงเล่นไม่ได้เพราะดันมาเจอกับสโมสรแม่ ที่ถูกปล่อยตัวออกมา

อย่างไรก็ดีความหวังสูงสุดของ"ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน"อย่างโลเมลู ลูคาคูที่ยิงเบิ้ลในเกมที่แล้วได้ลงสนามยืนค้ำแดนหน้าเอาไว้

ครึ่งแรก

ยาย่าแปเล่นทางเกือบได้
โอกาสยิงครั้งแรกของเกมเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่นเมื่อแมนฯ ซิตี้เดินเกมมาถึงหน้าปากเขตโทษและเป็นยาย่าได้บอลอยู่ก่อนแปเล่นทางไปทาง ขวามือแต่ฮาวเวิร์ดยังไวพุ่งไปปัดออกหลังเอาไว้ได้สวยงาม

โคลารอฟฟรีคิกได้เสียว
"เรือใบสีฟ้า"มาได้ลูกฟรีคิกในระยะหวังผลเมื่ออสแมนไปเตะอเกวโร่ที่ระยะราว 25 หลาและผู้รับหน้าที่สังหารนั้นคือโคลารอฟที่เข้ามุมเท้าซ้ายข้างถนัดโดยเขา ยิงข้ามกำแพงไปแล้วทว่าบอลไปเข้าข้างหน้าต่างเท่านั้น

โคลารอฟโขกหลุดกรอบ
นาทีที่ 12 ซิตี้มาได้ลุ้นอีกจากจังหวะเตะมุมด้านซ้ายซิลบาเล่นลูกสูตรเปิดมาตรงเสาแรก ให้โคลารอฟพุ่งมาโขกสะบัดแต่ไม่ดีทำให้บอลไม่ตรงกรอบ

ถัดมาเอฟเวอร์ตันมีโอกาสบ้างเมื่อเล่นลูกฟรีคิกเร็วให้เนสมิธลากบอลไปก่อน เปิดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาให้ลูคาคูเกือบจะถึงบอลอยู่แล้วแต่ฮาร์ทมาบีบทาง เอาไว้ได้ก่อน

ข้าคือแมลงสาบ!ลูคาคูโซโล่เดี่ยวกดประตูนำ
นาทีที่ 16 "เรือใบสีฟ้า"มาเสียจนได้จากจังหวะดักออฟไซด์พลาดทำให้ลูคาคูพุ่งเข้าไปหา บอลก่อนลากเข้าในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนแตะหลบเลสค็อตต์แล้วยิงด้วยซ้ายฮาร์ ทพยายามล้มตัวปัดแล้วแต่เอาไม่อยู่ทำให้บอลเข้าไปกองก้นตาข่ายเลยนับเป็น ประตูที่ 4 ของเขาในพรีเมียร์ลีกด้วย

ไม่ยอม!เนเกรโด้ตีคืนทันควัน
อย่างไรก็ดีถัดมาแค่นาทีเดียวเจ้าบ้านเอาคืนได้อย่างทันควันโดยเป็นจังหวะ ที่ยาย่าแทงบอลหลุดไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายที่มีเนเกรโด้วิ่งเข้ามายิงสวนตัว ของฮาวเวิร์ดเข้าไปอย่างเฉียบขาด

เรือเล่นฟรีคิกอย่างเนียน
แมนฯ ซิตี้เล่นลูกสูตรฟรีคิกกันได้สวยจริงๆโดยยาย่าส่งบอลมาให้ซิลบาหน้าปากเขต โทษก่อนแทงเร็วไปให้อเกวโร่ที่รออยู่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายได้แปเหน่งๆไปทาง เสาไกลทว่าบอลเฉี่ยวเสาไปชนิดที่เปเญกรินี่ไม่อยากเชื่อเลย

เรืองานเข้า!กอมปานีเดี้ยงต่อไม่ไหว
อย่างไรก็ดีนาทีที่ 32 เปเญกรินี่เกิดเรื่องปวดหัวอีกแล้วเมื่อกอมปานีเกิดอาการบาดเจ็บจนไม่สามารถ เล่นต่อไปได้จนต้องส่งมาติย่า นาสตาซิชลงสนามมาแทนทำให้แฟนๆต้องเสียวหนักกว่าเดิมเลย

เอิ่มมม...กุนหมูหกพลาดยิงเฉย
ไม่น่าเชื่อจริงๆในจังหวะนี้ว่าจะพลาดได้โดยเนเกรโด้แทงบอลให้กุนกำลังจะ หลุดเดี่ยวอยู่แล้วแต่เจ้าตัวสองจิตสองใจทำให้แข้งขาอ่อนล้มลงไปเองหมดโอกาส ยิงหน้าตาเฉย

เมื่อกี้ล้อเล่นนน...กุนเอาจริงยิงซวบเรือพลิกนำ
คราวนี้กุนไม่ยอมปล่อยให้พลาดแล้วโดยซิลบาไหลบอลมาให้เขาเข้าไปในกรอบเขตโทษ ด้านขวาก่อนที่ดาวยิงอาร์เจนไตน์จะลากหนีโคลดิสแตงก่อนจัดการซัดหักข้ออย่าง แรงผ่านฮาวเวิร์ดเข้าไปสุดคม

ครึ่งหลัง

18+....โคลารอฟซวยคิ้วแตกเลือดอาบหน้า
นาทีที่ 54 โคลารอฟต้องสังเวยเลือดอาบหน้าเลยเมื่อโดนเนสมิธผลักจากด้านหลังทำให้คิ้ว ของเขาไปโดนข้อศอกของนาสตาซิชแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้เกมต้องหยุดทำแผลกันหลาย นาทีเลยก่อนที่เจ้าตัวจะเล่นต่อไม่ไหวทำให้กาแอล กลิชี่ต้องลงสนามมาแทน

ขอด้วย!ซาบาเลต้าเลือดทะลักมั่ง
ผ่านมาถึงนาทีที่ 65 "เรือใบสีฟ้า"ต้องมาสังเวยเลือดอาบหน้าอีกคนเมื่อซาบาเลต้ามีเลือกพุ่งออกมา บริเวณแถวจมูกแต่ยังสามารถฝืนสังขารลงสนามต่อไปได้ไม่มีปัญหาหลังออกมาทำแผล แป๊ปนึง

กุนบอดโทษยังดีโดนฮาวเวิร์ดเข้าประตูตัวเอง
เอฟเวอร์ตันมาเสียจุดโทษในนาทีที่ 78 เมื่อโคลแมนมาเสียท่าโดนซาบาเลต้าวิ่งแซงไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนต้องใช้ มือดึงดาวเตะอาร์เจนไตน์ล้มลงกรรมการไม่ลังเลเป่าเป็นฟาวล์ทันที

เป็นอเกวโร่ที่หยิบบอลมาตั้งเองก่อนยิงสุดเบาไปทางขวามือของตัวเองซึ่งฮา วเวิร์ดปัดเอาไว้ได้แต่ดวงซวยอย่างที่สุดบอลไปชนเสาก่อนกระเด้งมาโดนนาย ด่านมะกันแล้วกระดอนเข้าประตูไปอีกครั้งหนึ่ง

ดิสแตงโขกฮาร์ทเซฟได้
นาทีที่ 79 โจ ฮาร์ทมาได้เซฟบ้างจากจังหวะต่อเนื่องจากลูกฟรีคิกด้านซ้ายกองหลังของซิตี้ สกัดไม่ขาดบอลมาเข้าทางของดิสแตงโขกสวนกลับไปติดมือของนายด่านทีมชาติอังกฤษ

เนเกรโด้อัดเต็มไม่ผ่านฮาวเวิรืด
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายซิตี้เกือบได้ประตูที่ 4 เมื่อเนเกรโด้ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนอัดเต็มข้อเลยทว่าฮา วเวิร์ดยังไวออกมาบล็อคเอาไว้ได้

สุดท้ายแล้ว"เรือใบสีฟ้า"ก็คว้า 3 แต้มเพิ่มได้ทำให้พวกเขาขยับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงตามหลังอาร์เซน่อลที่แข่ง วันอาทิตย์คะแนนเดียวส่วนเอฟเวอร์ตันร่วงมาอยู่อันดับ 5 แทน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, แวงซ็องต์ กอมปานี

(มาติย่า นาสตาซิช น. 34), ปาโบล ซาบาเลต้า

, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ (กาแอล กลีชี่ น. 58), เจมส์ มิลเนอร์

, ดาบิด ซิลบา, แฟร์นานดินโญ่

, ยาย่า ตูเร่, เซร์คิโอ อเกวโร่

(ซาเมียร์ นาสรี่ น. 80), อัลบาโร่ เนเกรโด้

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คอนเทล ปานติลิม่อน, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, เฆซุส นาบาส, เอดิน เชโก้

เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล จาเกียลก้า, ซิลแวง ดิสแตง

, เซมุส โคลแมน

, เควิน มิรัลลาส (เคราร์ เดวโลเฟว น. 63), สตีเฟ่น เนสมิธ

, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์, รอสส์ บาร์คลี่ย์, ลีออน ออสแมน (ดาร์รอน กิ๊บสัน น. 63), โรเมลู ลูคาคู

(อารูน่า โกเน่ น. 82)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โจเอล โรเบิ้ลส์, จอห์น ไฮติงก้า, จอห์น สโตนส์, นิกิชา เยลาวิช