Members

คู่ขวัญ!มิลเนอร์จ่ายเชโก้ยิงเบิ้ลเรืออัดจิ้งจอก 3-1 เข้ารอบรองฯชิวๆ

คู่ขวัญ!มิลเนอร์จ่ายเชโก้ยิงเบิ้ลเรืออัดจิ้งจอก 3-1 เข้ารอบรองฯชิวๆ
แม้ส่งชุดสองลงสนามแต่ก็ไม่ เป็นปัญหาสำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้หลังได้อเล็กซานดาร์ โคลารอฟยิงฟรีคิกเบิกร่องสุดสวยและอีก 2 ประตูจากการประสานงานของเจมส์ มิลเนอร์กับเอดิน เชโก้ช่วยให้"เรือใบสีฟ้า"บุกถล่มเลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศอย่างสบายอารมณ์

ฟุตบอลแคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีมสุดท้าย

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2556


เลสเตอร์ ซิตี้ 1:3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ประตู
: 0-1 โคลารอฟ น.8, 0-2 เชโก้ น.41, 0-3 เชโก้ น.53, 1-3 ดายเออร์ น.77

ศึกแคปิตอล วัน คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เจ้าถิ่นเลสเตอร์ ซิตี้เข้ารอบมาด้วยการเฉือนฟูแล่มอย่างสุดระทึก 4-3 โดยรั้งอันดับ 3 ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพแต่ 3 นัดหลังสุดไม่ชนะใครเลย นัดนี้กุนซือไนเจล เพียร์สันพักตัวจริงอย่างเลียม มัวร์ เซ็นเตอร์ดาวรุ่งและให้อิกนาซี่ มิเกลที่ยืมมาเพื่อถ้วยนี้โดยเฉพาะลงคุมแนวรับร่วมกับกัปตันเวส มอร์แกน แนวรุกเน้นประสบการณ์ใช้แกรี่ เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์จับคู่เดวิด นูเจนท์

ฝั่งผู้มาเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้เข้ารอบมาด้วยการชนะนิวคาสเซิล 2-0 ในช่วงต่อเวลาโดยรั้งอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีกแต่มีแต้มตามหลังจ่าฝูงแค่ 3 คะแนนและฟอร์มช่วงหลังเริ่มเข้าฝักไม่แพ้ใคร 7 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ นัดนี้’ดิ เอ็นจิเนียร์’มานูเอล เปเญกรินี่ กุนซือของทีมพักตัวหลักเพียบเหลือตัวจริงแค่กัปตันแว็งซ็องต์ กอมปานี, ปาโบล ซาบาเลต้า และดาบิด ซิลบา ที่พอเชิดหน้าชูตาหน่อยมีโจ ฮาร์ทในตำแหน่งนายประตูและหอกเป้าอย่างเอดิน เชโก้

ครึ่งแรก

ซ้ายฟ้าสั่ง!โคลารอฟปั่นฟรีคิกงามหยดย้อยเรือนำ
เริ่มเกมถึงนาที 8 ซิตี้ได้ประตูนำจากลูกฟรีคิก 30 หลา อเล็กซานดาร์ โคลารอฟวิ่งมาปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งวาดโค้งเสียบเสาแรกตุงตาข่ายอย่างงดงามชนิดต่อให้เป็นคุณพ่อของแค สเปอร์ ชไมเคิลก็หมดปัญญา ทีมเยือนออกนำก่อน 1-0

เอาแล้ว..ซาบาเลต้าเจ็บ
นาที 11 มานูเอล เปเญกรินี่ต้องแก้เกมทั้งที่นำอยู่หลังปาโบล ซาบาเลต้าเจ็บเองจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่งเดดริค โบยาต้า ดาวรุ่งชาวเบลเยี่ยมลงสนามแทน

เชื้อไม่ทิ้งแถว..แคสเปอร์เซฟเผาขน
นาที 24 ซิตี้ต้องนำห่างแล้ว เอดิน เชโก้พักบอลแล้วแปะกลับให้ดาบิด ซิลบากดสามเหลี่ยมคิลเลอร์พาสหลุดทั้งแผงให้โคลารอฟเติมขึ้นถึงเกือบสุดเส้น ฝั่งซ้ายแล้วตบเข้ากลางให้เชโก้ชาร์จจ่อๆโชว์ความกล้าหาญล้มตัวบล็อคไว้ได้ บอลเด้งเข้าทางแจ็ค ร็อดเวลล์วอลเลย์ด้วยซ้ายเฉียดเสาออกไป

จิ้งจอกโงหัวไม่ขึ้น..เรือกดดันต่อเนื่อง
นาที 27 ซิตี้ได้โอกาส 3 ครั้งต่อเนื่อง เวส มอร์แกนหยุดจังหวะเข้าทำของเจมส์ มิลเนอร์ได้ แต่บอลเข้าทางโคลารอฟจอมซัดไกลฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้าย บอลพุ่งตรงตัวแต่โคตรแรงจนชไมเคิลต้องทุบออกหลังไป เตะมุมฝั่งซ้ายโยนเข้าหัวแว็งซ็องต์ กอมปานีโขกเต็มๆแต่แนวรับเลสเตอร์บล็อคข้ามคานไปอีก เตะมุมอีกรอบติดแอนดี้ คิงเคลียร์ออกนอกเขตเข้าทางซิลบาตั้งป้อมฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายเฉียดเสาออกไป ให้เจ้าบ้านได้หายใจหายคอจนได้

ร็อดเวลล์กะเกิดแต่ยังดับ
นาที 33 ยังเป็นโอกาสของซิตี้ ร็อดเวลล์รับบอลจากเพื่อนก่อนกระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย หักเข้าขวาหลอกแนวรับแล้วปั่นโค้งกะเสียบเสาสองอย่างหล่อแต่ยังหล่อไม่พอ บอลโค้งออกหลังไป

เชโก้ปั่นถากเสาสุดซี้ด
เสียวซ่านกำลังดีสำหรับจังหวะลุ้นประตูของซิตี้ในนาที 38 ทีมเยือนค่อยๆต่อบอลขึ้นไปถึงฝั่งเลสเตอร์ก่อนเป็นมิลเนอร์จ่ายให้เชโก้แตะ เข้าซ้ายแล้วปั่นจากนอกเขตอย่างแรง บอลพุ่งโค้งถากเสาซ้ายมือออกไป

สำรองแข็งขัน!มิลเนอร์ตบให้เชโก้โขกจ่อๆเรือนำห่าง
เกมริมเส้นของซิตี้ในยุคเปเญกรินี่ถือเป็นจุดเด่นและซิตี้มาได้ประตูที่ 2 จากการเข้าทำอันคุ้นเคยในนาที 41 เลสเตอร์จ่ายพลาดกลางสนาม บอลเข้าทางเฆซุส นาบาสถ่ายออกซ้ายอย่างแม่นยำให้เจมส์ มิลเนอร์กระชากเข้าเขตโทษแล้วเปิดไปเสาสอง เอดิน เชโก้วิ่งเข้าจุดนัดพบอย่างรู้ใจก่อนโขกเผาขนตุงตาข่ายไม่เหลือซาก ทีมเยือนนำห่าง 2-0 สมกับรูปเกมที่ออกมา

ฝั่งละทีก่อนจบครึ่ง
เหมือนตกลงกันแล้วว่าพอห่าง 2 ลูกจะให้โอกาสอีกฝั่งละครั้ง เลสเตอร์ได้ก่อนนาที 43จากจังหวะครอสทางฝั่งซ้าย แกรี่ เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์โฉบตัดหน้าแนวรับซิตี้สะบัดโขกแต่องศามากไปหน่อยบอลเลย เสาสองออกไปไกล ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างนาที 45+1 นาบาสจ่ายเข้าเขตโทษให้เชโก้ตอกส้นออกมาตรงหัวกระโหลกให้ปีกตาสวยซัดหักข้อ ด้วยซ้ายข้างไม่ถนัด บอลตรงกรอบแต่ชไมเคิลล้มตัวรับไว้ได้

จบครึ่งแรกแมนฯซิตี้นำสบาย 2-0 ชนิดเหนือกว่าทุกอย่าง หากเลสเตอร์ยังหวังเข้ารอบคงต้องกระตุ้นกันหนักเอาเรื่อง

ครึ่งหลัง

โกล์ผลัดกันเซฟ
สงสัยตกลงกันอีกว่าเปิดฉากครึ่งหลังให้โอกาสอีกฝั่งละที ซิตี้ได้ก่อนนาที 50 ซิลบาทำกันได้ กระดกบอลหลบอิกนาซี่ มิเกล รุ่นน้องร่วมชาติจนลื่น บอลตกเข้าทางเชโก้วอลเลย์ด้วยขวาเต็มๆแต่ชไมเคิลยังเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนเลสเตอร์ได้ลุ้นบ้างนาทีถัดมา บอลจากฝั่งขวาจ่ายออกหน้าเขตโทษให้แอนดี้ คิงซัดไกล ทิศทางได้แต่น้ำหนักไม่พอ โจ ฮาร์ทพุ่งรับได้สบาย

คู่ขวัญ!มิลเนอร์ตบเชโก้แปไม่เหลือเรือนำขาด
ซิตี้ได้คู่หูคู่ใหม่แล้วในเกมนี้ นาที 53 บอลทุ่มจากฝั่งซ้ายถึงเจมส์ มิลเนอร์ที่แอบอยู่สุดเส้นในเขตโทษจับแล้วตบออกตรงจุดโทษให้เอดิน เชโก้แปย้อนทางแคสเปอร์ ชไมเคิลตุงตาข่ายนิ่มๆ ทีมเยือนนำ 3-0 เกมน่าจะขาดแล้ว

ซิลบาปั่นให้ชไมเคิลเหนื่อยอีก
ซิตี้โต้กลับเกือบได้เพิ่มนาที 61 มิลเนอร์ทำชิ่งกับเพื่อนหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาแต่จังหวะตบเข้ากลางเจอแนวรับ เลสเตอร์บล็อคออกหลังไป เตะมุมฝั่งขวาเข้าเขตโทษ บอลแย่งกันลอยเข้าทางซิลบาเกี่ยวลงกะแตะหลบคู่แข่งให้เสียหมาแต่เจอบล็อคออก หลังอีก คราวนี้ซิลบาถอยมารอแถวสองก่อนรับบอลได้แล้วปั่นด้วยซ้ายเน้นๆเหมือนในเกม ตู้แต่ชไมเคิลพุ่งคว้าไว้ได้ทัน

ไข่ยังไม่แตก..มอร์แกนโหม่งตรงตัวฮาร์ท
ประตูแรกของเลสเตอร์ยังไม่มาซะที นาที 73 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกสุดเส้นฝั่งซ้ายจากจังหวะทำฟาวล์ใส่ลอยด์ ดายเออร์ของฆาบี การ์เซีย บอลเปิดเข้าหัวมอร์แกนโขกเต็มๆแต่ฮาร์ทยืนรับไว้ได้สบายๆ

ก็ยังดี!ดายเออร์ซ้ายไส้แตกจิ้งจอกไข่แตกจนได้
ประตูนี้นึกว่าเปเญกรินี่ย้ายมาคุมเลสเตอร์ นาที 77 บอลจากริมเส้นซ้ายแทงขึ้นหน้าทะลุให้พอล คอนเชสสกี้สปีดถึงเกือบสุดเส้นแล้วเปิดหักเข้าเขตโทษ ลอยด์ ดายเออร์แต่งหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาแรกตาข่ายแทบขาด เจ้าบ้านไล่มาเป็น 1-3

อีกสักฝั่งละที
คงจะตกลงกันจริงๆว่าหลังมีประตูให้ได้โอกาสกันฝั่งละที เลสเตอร์ได้ก่อนนาที 83 จากจังหวะยิงของเจฟฟรีย์ ชลูปป์แต่เบาไปเข้ามือฮาร์ทอีก ส่วนซิตี้ได้บ้างนาที 88 ซามีร์ นาสรี่ตัวสำรองกระชากถึงเกือบสุดเส้นฝั่งขวาแล้วเปิดพุ่งๆออกนอกเขตให้มิ ลเนอร์จับแล้วกดด้วยขวาแต่บอลไซด์ก้อยออกหลังไปแบบไม่มีลุ้น

จบเกมเป็นอันว่าแมนฯซิตี้ชนะเลสเตอร์ 3-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปแบบชิวๆ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เลสเตอร์ ซิตี้( 4-4-2 )
: แคสเปอร์ ชไมเคิล - มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, เวส มอร์แกน, อิกนาซี่ มิเกล, พอล คอนเชสกี้ - อองโตนี่ น็อคการ์ต( แม็ตธิว เจมส์ น.46 ), แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, แอนดี้ คิง, ลอยด์ ดายเออร์ - แกรี่ เทย์เลอร์ เฟล็ตเชอร์( เจมี่ วาร์ดี้ น.46 ), เดวิด นูเจนท์( เจฟฟรี่ย์ ชลูปป์ น.67 )

สำรองไม่ได้ลงสนาม : คอนราด โลแกน, เลียม มัวร์, ริตชี่ เดอ เลต, ดีน แฮมมอนด์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้( 4-2-3-1 ) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า( เดดริค โบยาต้า น.12 ), แว็งซ็องต์ กอมปานี, โจเลออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ฆาบี การ์เซีย, แจ็ค ร็อดเวลล์ - เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา( ซามีร์ นาสรี่ น.70 ), เจมส์ มิลเนอร์ - เอดิน เชโก้

สำรองไม่ได้ลงสนาม : คอสเตล ปันติลิม่อน, มาร์ติน เดมิเคลิส, แฟร์นันดินโญ่, อัลบาโร่ เนเกรโด้










ที่มา www.soccersuck.

ติดตามข่าวสารทีมได้ที่ http://mcfc.in.th/

Views: 747

Reply to This

Replies to This Discussion

คิดว่าจะคลีนชีทซะอีก อิอิ โดน 1 เม็ดจนได้้ แ่ต่ก้อขนะ เย้ๆ

พักนักเตะหลายคนเหมือนกันแ่ต่ทำไมไม่ให้โอกาศพวกเด็กดาวรุ่งบ้าง เพื่อหาประสบการณ์สำรองก็ไม่มีชื่อสักคน

 3-1 นอกบ้านถือว่าผลงานดีคับ.. ดีใจคับที่ทีมชนะ... แ่ต่ว่าโจ ฮาร์ทผมสงสัยทำไมไม่ได้ลงตัวจริงในลีคอีกเลยหลายเดือนแล้วคับ.. 

ดูไฮไลเมื่อกี๊โคลารอฟยิงฟรีคิกสวยโฮรกกก... โหดมว๊ากกก!!! ถ้าลงพร้อมกันคงต้องแย่งกับ ยาย่าแล้วล่ะ 555+

ยอดเยี่ยม มากๆเลยครับ ขอให้รักษาฟอร์มการเล่น

แจ่มๆ แบบนี้ตลอดไปนะครับ

หลังก็ยังหาคลีนชีตไม่ได้เหมือนเดิม ก่อนเจอบาซ่า หาดี ๆ สักตัวสองตัวนะ

...ซาบาเจ็บขณะที่ไมก้าห์ก็ยังเจ็บอยู่ ปัญหาคือแบ็คขวาตัวจริงเจ็บหมด..

..เหลือสำรองคือโบยาต้า คำถามคือจะไหวไม๊สำหรับเกมใหญ่ๆที่คอยอยู่..

..ทั้งไปเยือนฟูแลม และศึกศึกบิกแมทข์เปิดบ้่านรับหงส์ที่แรงไม่เลิก..

..เข้าใจเปเญที่ต้องใช้ซาบาที่กรำศึกมาหลายนัดมาลงแมทช์นี้เพราะไม่มีตัวเลิอก..

..แต่เพื่อเซฟซาบาก็น่าจะให้โบยาต้าลงตั้งแต่ต้นเกม..

..รวมทั้งการใช้นาสรีแทนซิลบาตั้งแต่ต้นเกมด้วย..

..ช่วงก่อนจะถึง Boxing Day ที่มีโปรแกรมโหดมากควรถนอมนักเตะตัวหลักให้มากที่สุด !

คิดว่า เอาซิลบาลงมาก่อน เพราะต้องการรีบทำประตูรึเปล่า???  เพราะเกมนี้ต้องการประตูเพื่อเข้ารอบ

สังเกตุพอนาสรี่ลง เกมบุกไม่ค่อยขึ้นเลยนะ​.​. .​นาสรี่ ถ้าไม่มี ยาย่า หรือเฟอนัน เกมจะขึ้นไม่ค่อยได้เท่าไหร่ 

ส่วนโบยาต้า นี่รู้สึกจะเล่นตำแหน่ง CB หรือป่าว - -"  เพราะเอามาลงแก้ขัดแทนซาบาเลต้า แล้วเห็นชัดๆเลยว่า สปีดไม่มี เจอกระชากกระจาย

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.