"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมแรกที่ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ศึก คาราบาว คัพ หลังบุกไปย้ำชัยเหนือเจ้าถิ่น บริสตอล ซิตี้ อย่างสุดมัน 3-2 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา รวมผลสองนัดผ่านเข้ารอบชิงฯด้วยประตูรวม 5-3 โดยจะเข้าไปรอพบคู่ระหว่าง "ปืนใหญ่" หรือ "สิงห์บลูส์" ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ 

คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
วันอังคารที่ 23 มกราคม 2561
บริสตอล ซิตี้ (แชมเปี้ยนชิพ) 2 - แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 3
(รวมผล2นัด แมนฯซิตี้ ผ่านเข้าชิงฯด้วยประตูรวม 5-3)

สนาม : แอชตัน เกท สเตเดี้ยม

    บริสตอล ซิตี้ เกมนี้ต้องไร้ นาธาน เบเกอร์ เซ็นเตอร์แบ็กตัวเก่งที่มีอาการเจ็บ ส่วนแนวรุกยังใช้ บ็อบบี้ รีด เป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม 

    ส่วนทางฝั่งทีมเยือน "เรือใบสีฟ้า" ที่เกมแรกชนะในบ้านมาก่อน 2-1 แมตช์นี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ประมาทจัดทัพใหญ่ สามประสานแดนหน้าใช้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' และลีรอย ซาเน่ โดยมี ดาบิด ซิลบา กัปตันทีมปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ เควิน เดอ บรอยด์ ที่เพิ่งต่อสัญญาใหม่กับทีมออกไป

    เกมช่วง 20 นาทีแรก เจ้าถิ่นค่อนข้างเน้นรับ ขณะที่ "เรือใบ" แม้จะครองเกมได้มากกว่าแต่โอกาสยิงเข้ากรอบยังไม่มีเลย 

    นาที 27 ซิตี้ ได้เสียว จากจังหวะที่ ซิลบา ปาดบอลไปหน้าประตู นายด่านเจ้าถิ่นพุ่งออกมาปัดได้ก่อนบอลจะถึง อเกวโร่ ถัดมาอีกสองนาที ซิลบา ได้ส่องไกลกว่า 25 หลาอีกหนแต่บอลเบาเลียดออกหลัง

    ซิตี้ โอกาสยิงจะๆเน้นๆ ยังไม่มีเลย แม้ว่า เดอ บรอยน์ จะได้ซัดบ้าง ในนาที 39 แต่บอลก็ยังหลุดกรอบ นาทีถัดมา ห้องเครื่องชาวเบลเยียม ได้ยิงอีกหนแต่ก็มาโดน ไบลี่ย์ ไรท์ แนวรับเจ้าถิ่นเข้ามาบล็อกบอลออกหลัง

    จนแล้วจนรอดหลังบดมานานจนถึงท้ายเกม แมนฯซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 นาที 43 จากความขยันของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่ไปเบียดแย่งบอลจาก ฮอร์ดูร์ มักนุสสัน ก่อนบอลจะมาเข้าทาง ลีรอย ซาเน่ ตะบันเต็มข้อผ่านมือ ลุค สตีล เข้าไป "เรือใบ" ประตูรวมสองนัดเรือใบนำห่างเป็น 3-1 

    จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ บุกมานำเจ้าถิ่น บริสตอล ซิตี้ 1-0 

    กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังแค่ นาที 49 ลูกทีมของ "เป๊ป" มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จังหวะโต้กลับ ซาเน่ ได้บอลเคาะต่อให้ เดอ บรอยน์ ก่อนจะผ่านบอลทะลุแนวรับไปถึง อเกวโร่ ก่อนที่ดาวยิงวัย 29 ปี จะอัดด้วยขวาเต็มข้อผ่านมือ สตีล เสียบโคนเสาสองไปอย่างเด็ดขาด

    แต่นาที 64 เจ้าถิ่นตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 บ้าง จากจังหวะขึ้นโขกเต็มหัวของ มารอน แพ็ค ห้องเครื่องตัวเก่ง สกอร์รวมไล่มาเป็น 2-4 

    นาที 70 เจ้าถิ่นหวิดมาเสียประตูเพิ่มให้ ซิตี้ จากจังหวะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ครอสบอลไปหน้าประตู เอเดน ฟลินท์ สกัดบอลผิดเหลี่ยมเกือบเปลี่ยนทางเข้าประตูแต่ดีที่ ลุค สตีล คว้าติดมือไว้ได้

    ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+3 เจ้าถิ่นมาไล่ตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ บ็อบบี้ รีด โขกเข้ากลางให้ เอเดน ฟลินท์ ที่ยืนโล่งๆ ซ้ำเข้าไป

    แต่หลังจากนั้นแค่สามนาที "เรือใบ" มาได้ประตูชัยในเกมนี้จนได้ จากจังหวะโต้กลับ ลีรอย ซาเน่ ครอสไปหน้าประตูโล่งๆให้ เควิน เดอ บรอยน์ อัดเข้าไปไม่เหลือ จบเกม แมนฯซิตี้ บุกมาคว้าชัยเหนือ บริสตอล ซิตี้ 3-2 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 5-3 โดยจะเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อาร์เซน่อล หรือ เชลซี ในวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้

    11ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม 
  
      บริสตอล ซิตี้ : ลุค สตีล - คอรี่ย์ สมิธ, เอเดน ฟลินท์, ไบลี่ย์ ไรท์, ฮอร์ดูร์ มักนุสสัน - จอช บราวน์ฮิลล์, เลียม วอลช์, มาร์ลอน แพ็ค, โจ ไบรอัน - เจมี่ เพเตอร์สัน - บ็อบบี้ รีด
    
        แมนฯ ซิตี้ : เคลาดิโอ บราโว่ - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่ , ดาบิด ซิลบา - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'', ลีรอย ซาเน่ 

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

Cr.siamsport ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th