แม้ซิตี้จะถูกนำไปในครึ่งแรก 2-1 จากการสู้ยิบตาของนักรบเสือใต้สิบนาย แต่การต่อสู้ที่ทุ่มเทด้วยแรงกายแรงใจที่ไม่มีวันหมดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทำให้อากูเอโร่ยิงสังหารสองเม็ดในห้านาทีสุดท้าย ทำให้กลายเป็นแมตช์สุดดราม่าที่สร้างความเกรียวกราวไปทั่วทั้งปฐพีเมื่อซิตี้เอาชนะบาเยิร์น มิวนิก 3-2 และพุ่งพรวดจากที่โหล่ขึ้นเป็นที่สองของกลุ่มอี ในศึกแชมป์เปี้ยน ลีก

          ในช่วงท้ายของครึ่งหลัง ที่แฟนๆชาวไทยอดนอนต่อไม่ไหวและได้ปิดช่องการรับชม เหตุการณ์ที่เอทิฮัดกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างมาก เมื่อซิตี้เจ้าบ้านที่ตามหลังบาเยิร์น มิวนิก และถูกผู้มาเยือนได้ถ่วงเวลาอย่างไม่สมควรนั้น กลับมีเรี่ยวแรงคึกคักกระหน่ำยิงเอาชัยลบคำดูหมิ่นดูแคลนของผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักที่หาว่าซิตี้ไร้น้ำยาในศึกแชมป์เปี้ยน ลีก ซีซั่นนี้ได้สำเร็จ

          ด้านซีเอสเคเอ มอสโคว์ ทำได้แค่เปิดรังเสมอกับเอเอส โรม่า นั่นหมายความว่าซิตี้มีความหวังที่จะเป็นรองจ่าฝูงกลุ่มอีและเข้าสู่รอบสิบหกทีมสุดท้ายได้

          ซิตี้นัดนี้ไร้ขุนศึกอย่างยาย่า ตูเร และเฟอร์นันดินโญ่ เนื่องจากถูกแบน แถมยังไม่มีเอดิน เซโก้,โคลารอฟ และดาบิด ซิลบา เพราะบาดเจ็บอยู่ การคัดเลือกผังนักเตะครั้งนี้ตกเป็นความดีความชอบของกุนซือมานูเอล เปเยกรินี่ ที่ได้ให้สัจจะวาจาไว้ก่อนแข่งว่า จะปรับกลยุทธ์ทุกอย่างเพื่อรวบสามแต้มจากยักษ์ใหญ่เยอรมัน

          ในขณะที่บาเยิร์น มิวนิก ปล่อยให้มูลเลอร์,โรเบิร์ต,กอตเซ,ดองเต้และชาคิริ ตกเป็นตัวสำรอง ก็แชมป์บุนเดสลีกาได้ถูกหลอมด้วยเลือดเนื้อที่ต้องมีอ่อนล้าและเจ็บป่วยบ้าง พวกเขาหาใช่หุ่นยนต์ที่อาศัยน้ำมันหล่อเลี้ยงไม่

          เกมแรงขึ้นทันทีเมื่อซิตี้ยิงนำไปก่อนด้วยลูกโทษของกุนและการจากไปหนึ่งนายของเสือใต้ ทำให้พวกเขาเหลือสิบคน เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อม็องกาลาโยนตัวเองเข้าไปขวางช็อตของราฟินฮาที่ดูเหมือนจะยิงประตู แล้วแลมพาร์ดก็ได้บอลมาครองและส่งต่อให้อากูเอโร่ที่วิ่งนำหน้าขึ้นไปหมายยิง แต่แล้วเมด์ฮิ เบนาเตีย ก็เข้ามาทำฟาลว์ชิงบอลจากกุนในกล่อง

          กรรมการไม่มีทางเลือกใดนอกจากชูใบแดงให้เบนาเตียและมอบลูกโทษให้กุนยิงสังหารนำไปก่อน 1-0

          แม้เราไม่อาจล่วงรู้ห้วงความคิดของเสือใต้สิบนายได้ แต่หากแฟนๆ จำได้ที่เดมิเคลิสเคยออกมากล่าวไว้ว่า ขุนพลเสือใต้นี้แกร่งทางใจสุดๆ อีกทั้งพวกเขาอาจคิดว่า ในเมื่อข้าเคยเอาชนะคู่ต่อสู่มาแล้วหกนัดด้วยขุนศึกสิบนาย นับประสาอะไรกับการต่อกรกับซิตี้ ทีมรั้งท้ายของกลุ่มอี

          ด้านแฟนๆซิตี้ทั่วโลกก็หวังจะได้เห็นทีมรักปราบเสือใต้ในนัดนี้ ด้วยการมีขุมกำลังที่เป็นต่อ แต่แล้วซาบี อาลันโซ ก็ได้ยิงตีเสมอมาได้จากฟรีคิกที่ที่ส่งลูกลอดช่องว่างที่ค่อนข้างใหญ่ ผ่านปราการทางขวาของซิตี้มาได้ เข้ามุมประตูของฮาร์ทสำเร็จ

นี่เป็นการส่งสัญญาณอันตรายเตือนเจ้าบ้านว่า เสือใต้ยังไม่หมดฤทธิ์แต่เพียงเท่านี้

          ก่อนหมดครึ่งแรก โรเบิร์น ลีวันโดสกี้ ได้ส่งลูกตัดลึกเข้าไปในกล่องซิตี้ ฝ่าด่านหินอย่างคอมพานี่และบาการี่มาได้ และใช้ไหล่ดันลูกเข้าประตูไปได้พอดิบพอดี ทำเอารอยยิ้มของกุนซือเป๊บกลับมาอีกครั้งเมื่อเห็นลูกทีมสิบนายพลิกกลับนำเป็น 2-1

          แฟนๆซิตี้ออกอาการผิดหวังกับทีมรักเมื่อพวกเขาตกเป็นรองเสือใต้สิบนาย แต่ด้วยพลังศรัทธายังไม่สิ้น ซิตี้ก็ดิ้นรนต่อในครึ่งหลังด้วยการเปลี่ยนตัวมิลเนอร์และซาญ่าออก กุนซือวิศวกรส่งโยเวติชและซาบาเลต้าเข้ามาเสียบแทน

นัดนี้แฟนๆแลมพาร์ดได้เฮเต็มๆ เมื่อเห็นนักเตะคนโปรดยิงไกล 25 หลา แม้จะโด่งออกไปก็ตาม

ตอนนี้ซิตี้ปล่อยให้เสือใต้สนุกกับการครองบอลและการคุมเกม

          แต่แล้วก็เกิดเหตุพลิกล็อคในช่วงสิบนาทีท้าย วิญญาณนักสู้ที่ไม่เคยถอยของซิตี้กลับคืนองค์ ทั้งเสือใต้ดูจะประมาทคู่ต่อสู้ไม่น้อย ประกอบกับโชคเข้าข้าง ลูกส่งของอาลันโซถูกโยเวติชชิงตัดมาได้และมอบให้อากูเอโร่ตีเสมอด้วยการยิงลูกตัดทะลวงนายทวารนอยเออร์ ที่โดยใบเหลืองข้อหาถ่วงเวลาไปก่อนหน้านี้

          เสือใต้เริ่มสมาธิแตกซ่านเมื่อเห็นเจ้าบ้านไม่ยอมแพ้แม้ห้านาทีสุดท้าย จู่ๆ เจอโรม โบแตงเสียท่าส่งบอลให้อากูเอโร่ตรงมุมกล่อง และกุนผู้คึกคะนองก็ไม่ทำให้สาวกซิตี้ผิดหวังด้วยการวิ่งนำเข้าไปยิงแฮททริคอย่างเยือกเย็น แล้วผู้ชนะที่แท้จริงก็ปรากฎขึ้นทันตาเมื่อซิตี้กำราบเสือใต้ผุ้เหิมเกริมด้วยสกอร์ 3-2

          เมื่อผลเป็นเช่นนี้ การเสมอกับโรม่าในขณะที่ซีเอสเคเอพ่ายบาเยิร์น ก็น่าจะเพียงพอที่จะส่งให้แชมป์อังกฤษผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปในแชมป์เปี้ยน ลีก

ร่วมโชว์พลังเลือดสีฟ้าและเชียร์ซิตี้สดๆ ฟอลโลว์ทวิตเตอร์ @MCFCThai  โดยจะทวีตรายงานสดและโพสต์ภาพมันๆ จากขอบสนามในทุกเกมของซิตี้ และเยี่ยมชม เว็บไซด์อย่างเป็นทางการภาคภาษาไทยของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ mcfc.co.th