Members

ทอฟฟี่ฟอร์มแจ่ม!เปิดรังถล่มเรือใบเละเทะ4-0

ทอฟฟี่ฟอร์มแจ่ม!เปิดรังถล่มเรือใบเละเทะ4-0

ฟุตบอล,พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน โชว์สุดยอด เปิดสนามกูดิสัน พาร์ค ถล่มยับ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ 4-0 เก็บสามแต้มล้ำค่าได้อย่างสุดยอด ทำให้ลูกทีมของ เป๊ป ยังค้างอยู่อันดับ5ตามเดิม ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2560
เอฟเวอร์ตัน 4-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : กูดิสัน พาร์ค


         คู่แรกของวันอาทิตย์ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ปรับทีม 3 จุดจากเกมลีกล่าสุด เกวิน มิราลลัส, แกเร็ธ แบร์รี่, เมสัน โฮลเกท ลงตัวจริง ส่วน มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ประตูมือ 1 กับ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ หายเจ็บมีชื่อนั่งสำรองแล้ว


          2 แข้งใหม่ มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน มิดฟิลด์ที่ย้ายมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด 24 ล้านปอนด์เมื่อวันพฤหัสบดี มีชื่อนั่งข้างสนาม ร่วมกับ อเดโมล่า ลุคแมน ปีกวัย 19 ที่ย้ายมาจาก ชาร์ลตัน

 

          ฝั่ง เรือใบสีฟ้า เปลี่ยนตำแหน่งเดียวจากเกมเอฟเอ คัพ ให้ เคลาดิโอ บราโว่ กลับมาเฝ้าเสา แนวรุกยังเต็มพิกัด ทั้ง เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิง, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา

 

          เล่นไป 9 นาที เจ้าถิ่นส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ ลูกากู ทิ่มบอลให้ โคลแมน ผ่านจากขวาเข้ากลาง มิราลลัส ยิงจ่อๆ เข้าไป แต่มีธงล้ำหน้า โคลแมน ยกขึ้นมาก่อน

 

          แมนฯ ซิตี้ ตอบโต้และฟ้องจะเอาจุดโทษในอีก 3 นาทีต่อมา สเตอร์ลิง แตะบอลหลบ โจเอล แล้วโดนสะกิดล้ม แต่ก็มี เบนส์ ล้มตัวกวาดบอลอีกด่าน แต่ผู้ตัดสินไม่ให้

 

          นาที 34 เป็น เอฟเวอร์ตัน ที่ขึ้นนำ 1-0 มิราลลัส หลุดขึ้นไปทางขวาไม่ล้ำหน้า ตบเรียดเข้ากลาง ลูกากู วางเท้าซ้ายแปเน้นๆ ผ่าน บราโว่ ซุกก้นตาข่าย เป็นประตูที่ 12 ของดาวยิงเบลเยียมในพรีเมียร์ลีกแล้ว

 

          3 นาทีให้หลัง ทีมเยือนเกือบตีเสมอได้เร็ว เดอ บรอยน์ ผ่านเรียดจากซ้าย อเกวโร่ พุ่งสไลด์ทั้งตัวไม่ถึงบอลนิดเดียว ทั้งที่หน้าประตูเปิดกว้างแล้ว

 

          นาทีถัดมา จากลูกเตะมุมของ เรือใบ บอลถูกสกัดมาตกที่ สเตอร์ลิง ฮาล์ฟวอลเล่ย์เท้าซ้าย 25 หลา เฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว

 

          ช่วงทดเวลาครึ่งแรกออกไป 2 นาที แมนฯ ซิตี้ มีเสียวอีก ซานญ่า สอดขึ้นมาโหม่งย้อยๆ ที่เสาไกล แต่ถูก เดวิส โหม่งสกัดจากเส้นประตูได้ จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน นำ 1-0

 

        กลับมาเล่นครึ่งหลังกันแค่นาทีเศษ ทอฟฟี่หนีเป็น 2-0 แบบไม่ให้ตั้งตัว ลูกากูจ่ายบอลขึ้นหน้าตามช่อง สโตนส์ล้มตัวสไลด์แต่บอล ไปเข้าทางบาร์คลี่ย์ แตะออกขวาให้มิรัลลาสที่ยืนเท่าโอตาเมนดี้ กองหลังตัวสุดท้าย แข้งเบลเยียมสับไกเรียดเสียบเสาสอง บราโว่ล้มไม่ทัน

 

         เรือใบไร้พิษสง นาที 54 ซิลบาครอสจากริมเส้นเข้ากลาง สโตนส์เติมขึ้นมาโหม่ง บอลลอยเบาหวิวเข้ามือโรเบลส รับกินสบายๆ อีกนาที โฮลเกทไปฟาวล์ซาญ่า โดนจดชื่อเป็นคนแรกของเกม

 

         ขยับมาถึงนาที 62 ซิตี้แก้ลำส่ง อิเฮียนาโช่ลงแทนซาบาเลต้า หวังเปิดเกมรุกเต็มสูบ อีก 3 นาที ชไนเดอร์ลินถูกส่งลงแทนมิรัลลาส เป็นนัดประเดิมสนามของมิดฟิลด์ฝรั่งเศสทันที

 

         ทีมเยือนได้แค่เห่าไม่ยอมกัด นาที 69 เดอ บรอยน์ เปิดลูกเตะมุมเข้ากลาง โอตามเนดี้ขึ้นโหม่งเฉี่ยวเสาซ้าย อีก 3 นาที ซิลบาผ่านบอลให้อเกวโร่ "กุน" สับไกด้วยขวาจากหน้าเขต บอลหลุดข้างเสาเหมือนเดิม นาที 78 ตูเร่ปั่นฟรีคิกข้ามกำแพง ลอยเข้ามือโรเบลส

 

         ยิ่งเล่นยิ่งดี นาที 79 ทอฟฟี่โต้กลับจากแดนตัวเอง ทอม เดวิส พาบอลควบขึ้นมาทางขวา ก่อนล็อกหนีแนวรับซิตี้ ก่อนผ่านเข้ากลางแล้วโดนชนคว่ำ บอลถึงบาร์คลี่ย์ผ่านไหลออกขวากลับมาให้เดวิสที่ลุกขึ้นมาพอดี เดวิสชิพผ่านบราโว่ บอลกลิ้งเสียบเสาแรก โดยไม่โดนลูกากูที่พยายามมาชาร์จ เป็นสกอร์ 3-0 ของเอฟเวอร์ตัน และประตูแรกของเดวิสด้วย

 

         หลังเสียประตู ซิตี้ยังหวังเอาคืน นาทีถัดมา อเกวโร่ "กุน" ลุยเข้าเขตโทษทางขวา ก่อนซัดตรงตัวโรเบลส นาที 85 บาร์คลี่ย์เคาะบอลให้ลูกากูที่อยู่ทางซ้ายเขตโทษ สับไกกึ่งยิงกึ่งผ่านมาเสาสอง กลิชี่สกัดทิ้งได้ทัน

 

         เท่านั้นไม่พอ ช่วงทดเจ็บ เจ้าถิ่นยังมาได้ประตูปิดกล่อง จากจังหวะสาดบอลขึ้นหน้ามาทางขวา สโตนส์เตะสกัดไปโดนโคลแมน กระเด้งกลับมาหน้าประตูตัวเอง เข้าทาง อเดโมล่า ลุคแมน สับไกลอดขาบราโว่เสียบเสาสอง ตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 4 ของทอฟฟี่แมน และเป็นประตูแรกของไอ้หนูวัย 19 ปีด้วย

 

         จบเกม เอฟเวอร์ตัน ถล่ม แมนฯ ซิตี้ 4-0 เป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 5 ในลีกของ "เรือใบสีฟ้า" และตามหลังจ่าฝูงเชลซีเป็น 10 คะแนนทันที
 

 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


 เอฟเวอร์ตัน : โฆเอล โรเบลส - เมสัน โฮลเกท, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, รามิโร ฟูเนส โมรี - เชมัส โคลแมน, ทอม เดวิส, แกเร็ธ แบร์รี่ (เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ น.74), เลห์ตัน เบนส์ - รอสส์ บาร์คลี่ย์ (อเดโมล่า ลุคแมน น.90), เควิน มิรัลลาส (มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน น.65) - โรเมลู ลูกากู


 สำรองไม่ได้ใช้ : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก, ฟิล จากีลก้า, อารอน เลนน่อน, เอ็นเนร์ วาเลนเซีย
 

แมนฯ ซิตี้ : เคลาดิโอ บราโว่ - บาการี่ ซาญ่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, จอห์น สโตนส์, กาแอล กลิชี่- ดาบิด ซิลบา, ปาโบล ซาบาเลต้า (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.62), ยาย่า ตูเร่, เควิน เดอ บรอยน์ - เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", ราฮีม สเตอร์ลิง


 สำรองไม่ได้ใช้ : วิลลี่ กาบาเยโร่, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, เฆซุส นาบาส, ฟาเบียน เดลฟ์, ลีรอย ซาเน่, อเล็กซ์ การ์เซีย
 ใบเหลือง : ซิลบา น.75, โอตาเมนดี้ น.90+


 ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก

/////////////////////////////

เครดิต : http://www.siamsport.co.th

ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เว็ปหลักของประเทศไทย : http://mcfc.in.th

Views: 474

Reply to This

Replies to This Discussion

บ๊าย บาย บราโว่ ขอฮาร์ทคืนมาได้ไหม เป๊ปตื่นได้สักทีนี่อังกฤษครับไม่ใช่สเปนหรือเยอรมัน เอาเกลือไปแลกกับพิมเสนทำไม แถมยังทำเกมน่าเบื่อ ทีแรกมีบางคนบอกว่าเป๊ปทำทีมน่าเบื่อยังค้านเพราะสไตล์รุก แต่แล้วก็จริงครับ สไตล์เดิม ๆ ทุกทีมในพรีเมียร์เขาจับทางได้หมดแล้ว ไม่ใช่นอกลีกนะครับ นี่ลีกของจริงครับ ไม่จี๊ดจ๊าดเลยแถมหลังหลวม ประตูโหว่ครับ บอกตรง โหว่ ไม่มีทึบตรงไหนเลย ตรงเป็นตุง

เจอเป๊ปล้างน้ำไป ตื่นกันหมดเลย

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.