Members

ยังแรง!ชำแหละ 5 ประเด็นแมนซิตี้แล่นฉิวสอยวัตฟอร์ด


เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเคี้ยวในการนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดการเฉือน "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ "เรือใบสีฟ้า" มีแต้มนำห่าง ลิเวอร์พูล 5 แต้ม (ชั่วคราว)
ฟอร์มของ แมนฯ ซิตี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความคงเส้นคงวาในเกมบุก และสามารถไล่กดดันเจ้าบ้านจนโงหัวไม่ขึ้น แต่กระนั้นในช่วงท้ายเกมการเสียประตูตีไข่แตก ทำให้ทีมมีอาการระส่ำ และเสียกระบวนไปบ้าง แต่สุดท้ายก็สามารถรักษาสถานการณ์และคว้าชัยชนะได้สำเร็จ

1. แมนฯ ซิตี้ จุดแข็งก็คือขุมกำลังเชิงลึก
ถ้าหากเป็นสโมสรอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก ที่ต้องมีการเปลี่ยนตำแหน่งถึง 6 คนแน่นอนว่าคงอาจจะต้องเจอกับปัญหาเรื่องการประสานงาน แต่สำหรับ "เรือใบสีฟ้า" แทบจะไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้เลย โดย "เป๊ป" เปลี่ยนคู่เซนเตอร์แบ็ก, ฟูลแบ็ค และปีกในเกมเยือนวิคาเรจ โร้ด

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือปรัชญาของกุนซือชาวสแปนิชที่นักเตะทุกคนจดจำเอาไว้ฝังหัว ลองคิดดูขนาดขนาด เซร์คิโอ อเกวโร่ กับ ราฮีม สเตอร์ลิง รวมไปถึง แอมริก ลาปอร์ต ที่ได้พักในแมตช์นี้ พวกเขายังคงเดินหน้าเปิดเกมบุกไล่อัดเจ้าบ้านแบบไม่เกรงใจ
..........................................................................
2. แบร์นาร์โด้ ซิลวา มีความสำคัญไม่ต่างกับ ดาบิด ซิลบา 
ทั้งความสามารถ และชื่อที่เขียนเหมือนกัน (อ่านไม่เหมือนกันเท่านั้น) แต่สำหรับแมตช์นี้ ซิลวา ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฐานะกองกลางตัวขับเคลื่อนเกม ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส มีโอกาสได้สร้างสรรค์เกมให้กับทีม และความสามารถเฉพาะตัวของเขาสามารถขู่แนวรับวัตฟอร์ด ได้ตลอดเวลา

การเคลื่อนที่ของ ซิลวา ระหว่างมิดฟิลด์ตัวกลาง กับบริเวณริมเส้น สร้างปัญหาให้กับเจ้าบ้านอย่างมาก สำหรับในช่วงที่ เควิน เดอ บรอย์น ยังมีปัญหาบาดเจ็บ บอกได้เลยว่าไม่มีปัญหากับ แมนฯ ซิตี้ เลย เพราะ ซิลวา เป็นผู้เล่นที่มีความหลากหลาย และช่วยเติมเต็มแผงมิดฟิลด์

แม้ว่า ซิลวา จะสร้างสรรค์ผลงานดีมีคุณภาพในแมตช์นี้ แต่นักเตะที่ปิดทองหลังพระอย่าง แฟร์นันดินโญ่ ก็มีส่วนสำคัญกับทีมมากๆ ในการเก็บ 3 แต้มในแมตช์กลางสัปดาห์ และเป็นอีกครั้งที่ ดาวเตะเลือดบราซิเลียน คอยช่วยให้ ซิลบา กับ ซิลวา เล่นเกมรุกได้อย่างสบายอุรา

ยังà¹à¸£à¸‡!ชำà¹à¸«à¸¥à¸° 5 ประเด็นà¹à¸¡à¸™à¸‹à¸´à¸•à¸µà¹‰à¹à¸¥à¹ˆà¸™à¸‰à¸´à¸§à¸ªà¸­à¸¢à¸§à¸±à¸•à¸Ÿà¸­à¸£à¹Œà¸”
..........................................................................
3. วัตฟอร์ด ยังมีลุ้นพื้นที่ยูโรปา ลีก 
นี่คือค่ำคืนที่น่าผิดหวังสำหรับเจ้าบ้าน แต่การที่ต้องเจอคู่แข่งระดับนี้แน่นอนว่าพวกเขาต้องพยายามงัดฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่ วัตฟอร์ด ขาดไปก็คือความนิ่งของผู้เล่นเกมรุก โดยนี่เป็นสิ่งที่จะช่วยทีมได้ดีหากพวกเขาเลือกที่จะ อังเดร เกรย์ และ เคราร์ด เดวโลเฟว ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง (ทั้งสองคนลงเล่นเป็นตัวสำรองครึ่งหลัง)

เกรย์ กับ เดวโลเฟว มีส่วนต่อประตูตีไข่แต่ช่วง 5 นาทีสุดท้าของทีม และในช่วงท้ายเกมพวกเขาแสดงให้เห็นถึงแรงกระตุ้นที่จะเอาประตูตีเสมอให้ได้ และพยายามกดดัน แมนฯ ซิตี้ จนหลังพิงฝา แต่แล้วความมุ่งมั่นดังกล่าวก็กลายเป็นสูญเปล่าเพราะสุดท้ายแล้วทีมไม่ได้อะไรติดมือเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดยาวจากท่านเปา

ไม่มีใครคาดหวังว่า วัตฟอร์ด จะสามารถทำแต้มขึ้นไปอยู่ในพื้นที่โควตา ยูโรปา ลีก แต่กุนซือฆาบี กราเซีย มีขุมกำลังที่มีพรสวรรค์พอสมควรที่อาจจะเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้อีกครั้ง และทำให้ทีมมีลุ้นเก็บแต้มเพื่อคว้าสิทธิ์ไปลุยฟุตบอลถ้วยใบเล็กยุโรป
..........................................................................
4. เบน ฟอสเตอร์ เหนียวคงเส้นคงวา 
วัตฟอร์ด ไม่ได้มีเกมรับที่แย่มากนัก แต่พวกเขายังต้องการนายทวารที่โชว์ฟอร์มเซฟจังหวะสำคัญๆ สำหรับเกมนี้ ฟอสเตอร์ ทำให้แฟนลูกหนังได้เห็นแล้วว่าเขายังคงเป็นโกล์ที่ไว้วางใจได้ โดยเจ้าตัวโชว์เซฟจังหวะสำคัญๆ ถึง 3 ครึ่งในครึ่งแรก โดย อดีตนายด่านทีมชาติอังกฤษ เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และออกมาปิดมุมทำให้คู่แข่งต้องกดดันในจังหวะยิงประตู

ย้อนไปตอนที่ ฟอสเตอร์ ย้ายมาเฝ้าเสาให้กับ วัตฟอร์ด มีหลายคนที่ค่อนข้างอึ้ง เพราะเขาเคยต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อเล่นให้กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งตกชั้นเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ฟอร์มที่คงเส้นคงวาของ โกล์วัย 35 ปี กับ วัตฟอร์ด แน่นอนว่าแฟนบอลพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเป็นคนที่เหมาะสมกับทีมจริงๆ

..........................................................................
5. ริยาด มาห์เรซ ควรได้ลงตัวจริงมากกว่านี้
แมนฯ ซิตี้ ทุ่มเงิน 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,700 ล้านบาท) เพื่อดึง ริยาด มาห์เรซ มาเล่น แต่ดันจับเขาเป็นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่ค่อยคุ้มค่านัก กระนั้น ดาวเตะทีมชาติแอลจีเรีย ยังคงอดทน และรอโอกาสของเขา โดยเกมนี้เจ้าตัวสวมบทฮีโร่ซัดประตูที่สองให้ทีม ซึ่งนั่นพิสูจน์ว่าเขามีประโยชน์มากกว่าเป็นเพียงแค่ผู้เล่นสำรอง

อดีตสตาร์เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ลงสนาม 13 เกมในฤดูกาลนี้ โดยเล่นไปประมาณ 978 นาที และมีส่วนเกี่ยวข้องกับ 11 ประตูที่ "เรือใบสีฟ้า" ทำได้ สำหรับฟอร์มการเล่นของ มาห์เรซ มีประโยชน์มากกว่าเป็นเพียงตัวสำรอง และเม็ดเงินที่ทีมทุ่มซื้อมาไม่สูญเปล่าแน่นอน

ยังà¹à¸£à¸‡!ชำà¹à¸«à¸¥à¸° 5 ประเด็นà¹à¸¡à¸™à¸‹à¸´à¸•à¸µà¹‰à¹à¸¥à¹ˆà¸™à¸‰à¸´à¸§à¸ªà¸­à¸¢à¸§à¸±à¸•à¸Ÿà¸­à¸£à¹Œà¸”
/////////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr.siamsport ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทยwww.mcfc.in.th

Views: 418

Reply to This

Replies to This Discussion

สื่อมวลชังนี่บางทีก็ไม่รู้อะไรบ้างเลย

มาเรชมีดี  ก็เก็บมาเรชพักไว้เป็นตัวโจ้กเก้อร์บ้างดิ

มันไม่จำเป็นต้องเอาตัวเจ๋งลงสนามทุกนัดแบบเฟอร์นัน

บางตัวก็เก็บไว้บ้าง เอาไว้ลงตอนเจอแมทช์หนักๆ

ส่วนแม็ทช์เบาๆที่พอเอาชนะได้ไม่ยาก ก็เอานักเตะแถวสองลงไป

ขืนแบไต๋แบไพ่ซะหมดเวลาที่ทีมต้องการก๊อกสอง จะเอาที่ไหน ?!?

เผลอๆ เดอบรอย กุน หรือนักเตะบางตัวที่ข่าวว่าเจ็บ

ไม่รู้อาจเป็นแผนลวงหรือเปล่า ไม่มีเดอบรอย ทีมก็ยังไปได้เรื่อยๆ

ถึงทีกลางฤดูกาลปลายฤดูกาล ทีมเริ่มตันจะแผ่วปลายแบบเป็ด เดอบรอยก็กลับมาพอดี

ขณะที่ทีมอื่นๆอย่างทีมเป็ด วางโชว์หมดหน้าตัก หมดแล้วหมดเลย นั่นหละ จะว่าว...

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.