Members

น่าสนใจ:: กับ 5 ประเด็น'ร้อน'หลังเกม"แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้"

น่าสนใจ:: กับ 5 ประเด็น'ร้อน'หลังเกม"แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้"

ฟุตบอล,พรีเมียร์ลีก อังกฤษ,แมนฯ ยูไนเต็ด,แมนฯ ซิตี้
เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ จบลงด้วยชัยชนะของทีมเรือใบสีฟ้า ซึ่งในเกมนี้มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุด

 

1. เป๊ปสร้างแมนฯซิตี้ ให้เป็นบอลระบบอย่างแท้จริง

        สไตล์การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ว่าจะคุมทีมอะไร บาร์เซโลน่า บาเยิร์น มิวนิค หรือแมนฯซิตี้ ล้วนมีแนวทางเหมือนกัน คือเน้นการครองเกมให้มากที่สุด ใช้การต่อบอลจะชิ่งสั้นๆ ส่วนผู้เล่นที่ไม่มีบอล จะวิ่งหาพื้นที่ตลอด

        ในขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นในการแหวกเข้าไปทำประตู ไปหวังพึ่งพานักเตะอย่างซลาตัน อิบราฮิโมวิช หรือ ปอล ป็อกบา  แมนฯซิตี้ กลับไม่ได้ยึดที่ตัวผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง

        พวกเขาเน้นการต่อบอล เน้นการชิ่ง นั่นทำให้ ทีมยังคงแข็งแกร่ง แม้จะไม่มีเซร์คิโอ อเกวโร่ก็ตาม เพราะคนอื่นก็สามารถทดแทนได้ ขอให้มีระบบที่แกร่งเสียอย่าง ทีมก็ยังคงยอดเยี่ยมอย่างที่เห็น

 

2. ดาลีย์ บลินด์ ไม่เหมาะกับเซ็นเตอร์ในระยะยาว

        สองประตูที่แมนฯยูไนเต็ดเสียในครึ่งแรก มาจากความผิดพลาดของดาลีย์ บลินด์ทั้งหมด ประตูแรก เขาโดนเควิน เดอ บรอยน์ เกี่ยวบอลตัดหน้าดื้อๆ ก่อนจะยิงสวนตัวดาบิด เด เกอาเข้าไป โดยภาพ บลินด์ ยืนนิ่งๆ ยังติดตาแฟนๆได้อย่างดี เหมือนกับจะสารภาพบาป ทันที ที่โดนเดอ บรอยน์ เกี่ยวบอลไปได้

        ส่วนลูกที่ 2 ที่ผีแดงเสีย ก็เป็นเขาเอง ที่ยืนห้อยอยู่คนเดียว ในแผงหลัง จนทำให้เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ไม่ล้ำหน้า และซ้ำลูกยิงชนเสาของเดอ บรอยน์ เข้าไปง่ายๆ

        ดาลีย์ บลินด์ อาจจะมีเชิงดี มีทักษะใช้ได้ เพราะมีพื้นฐานจากการเล่นมิดฟิลด์มาก่อน แต่การจะให้มายืนเป็นเซ็นเตอร์ในระยะยาว จะเหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะถ้าเจ้าตัวยังก่อความผิดพลาดง่ายๆแบบนี้

 

3. บราโว่ ต้องปรับตัวกับบอลอังกฤษ

        เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กล้าเดิมพันด้วยการไปคว้าตัว เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารจากบาร์เซโลน่ามาเสริมทัพ ซึ่งเขาจำเป็นต้องยอมปล่อย โจ ฮาร์ท ให้กับโตริโน่ ยืมตัว 1 ฤดูกาล เพราะไม่สามารถการันตีตำแหน่งให้ฮาร์ทได้

        บราโว่เกมนี้ แสดงให้เห็นว่าเขา เป็นสไตล์ที่แตกต่างจากโกล์อังกฤษอย่างสิ้นเชิง กล้าเล่น กล้าจ่าย กล้าแม้กระทั่งล็อกหลบกองหน้าของคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม ความกล้า ที่มากเกินเหตุ เกือบจะทำให้ทีมเสียประตูหลายครั้งหลายครา

        บราโว่ เป็นนายทวารฝีมือดีอยู่แล้ว ผลงานการคว้าแชมป์มากมายกับบาร์เซโลน่าไม่ใช่เรื่องโกหกแน่นอน เพียงแต่ เขาต้องเรียนรู้จังหวะของฟุตบอลอังกฤษให้มากขึ้น การเล่นเสี่ยงๆแบบไม่จำเป็น จะทำให้ทีมเสียประตูได้

        หากนับผลงานในวันแรก  บราโว่ ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ และยังไม่เห็นว่าจะแตกต่างกับโจ ฮาร์ทมากมายขนาดนั้น

 

4. มาร์คัส แรชฟอร์ด น่าจะได้ลงตัวจริงบ้าง

        มาร์คัส แรชฟอร์ด กำลังอยู่ในความมั่นใจสุดขีด เขาฟอร์มดีต่อเนื่อง ตั้งแต่เกมที่ชนะฮัลล์ ซิตี้ ก่อนพักเบรกทีมชาติ เมื่อเปลี่ยนเป็นสำรอง แล้วยิงประตูได้ทันที  จากนั้นในเกมของทีมอังกฤษชุด u-21 เขาก็ยิงแฮตทริกใส่นอร์เวย์ได้ด้วย

        แต่พอมาถึงเกมดาร์บี้ เขาก็ต้องไปนั่งบนม้านั่งสำรองอีกครั้ง  โดยเป็นเจสซี่ ลินการ์ด กับ เฮนริก มคิตาร์ยาน ได้โอกาสก่อน ซึ่งปรากฎว่า สองคนนี้ เล่นไม่ออกเลยใน 45 นาทีแรกจนมูรินโญ่ ต้องส่งแรชฟอร์ดลงมาทันที

        ซึ่ง แรชฟอร์ด แสดงให้เห็นเลยว่า เขาเป็นดาวเตะพรสวรรค์ มีความเร็วจัดจ้าน และเอาชนะกองหลังแมนฯซิตี้ได้  จริงๆแรชฟอร์ดเกือบจะยิงประตูตีเสมอได้ด้วย ถ้าลูกของเขา ไม่ไปติดซลาตัน อิบราฮิโมวิช เสียก่อน  ดังนั้นเชื่อว่า ต่อๆไป เราน่าจะได้เห็นแรชฟอร์ด ลงเล่นเป็นตัวจริงมากกว่านี้

 

5. กวาร์ดิโอล่า ชนะ มูรินโญ่ ในยกแรก

        นี่เป็นการเจอกันครั้งแรก บนแผ่นดินอังกฤษ ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับโชเซ่ มูรินโญ่ และ กวาร์ดิโอล่า แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นของจริง ในเงื่อนไขที่เสียเปรียบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในโอลด์แทรฟฟอร์ด หรือการไม่มีกุน อเกวโร่ และ แว็งซ็องต์ ก็องปานีอยู่ในทีม แต่เป๊ป ก็ยังพาซิตี้ บุกมาโค่นมูรินโญ่ได้คาบ้าน

        ถึงตรงนี้ แมนฯซิตี้ ก้าวขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก แต่เพียงผู้เดียว เพราะไม่ใช่แค่นักเตะที่ดีเท่านั้น แต่พวกเขามีโค้ชระดับโลก ที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน

        ในยุค มานูเอล เปเยกรินี่ แมนฯซิตี้เองก็แข็งแกร่งมากๆแล้ว แต่มาในยุคเป๊ป มันพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นจริงๆ

        อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่ศึกนัดเดียวเท่านั้น สงครามยังไม่จบ และโชเซ่ มูรินโญ่ ยังมีเวลาอีกมากถึง 34 นัด ในการพลิกสถานการณ์กลับมาแซงหน้าแมนฯซิตี้ให้ได้อีกครั้ง

/////////////////////////////////////////////////////////////////////

Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 1460

Reply to This

Replies to This Discussion

ครึ่งหลังสไตล์หายไปหน่อยนะครับ ไม่เหมือนครึ่งแรก

ครึ่งหลังแมนยูไม่มีไรเสียอีกแล้วมีทางเดียวคือบอมเข้าใส่ใช้ตัวสูงคอยชาร์ทเข้าทำประตู เพราะเล่นบอลบนพื้นสนามสู้เรือไม่ได้จริงๆมีทางเดียวคือทิ้งบอมใส่แบบบอลโบราณ เป็ปปรับขบวนตั้งแนวรับ5-6คน เอาอยู่แล้วเอาซาเน่ไปกวนแบคซ้ายผี ซาเน่เร็วพริ้วดีส่งบอลให้เดอบรอยยิงมุมแคบเกือบได้ประตูที่สาม นัดนี้มันจริง

สิ่งที่เห็นนัดนี้ 1.แบ็คขวาผมว่าวาบาเลต้ายืนได้ดีกว่า ซานย่านะ แต่ถ้าให้ดี ควรได้ตัวรุก-รับ จี๊ดๆกว่านี้จะน่ากลัวมาก
                  2.สโตนยังดูไม่ค่อยเข้าใจ กับเจอกดดันมากๆมีเป๋นะ ขอให้เป๊ปเคี่ยวให้หนักๆ เพราะมีแววพัฒนาได้
                  3.เป็นห่วงด้านภาษาการสื่อสาร ของบราโว่ ฝีมือไม่ห่วงนะงานละเอียดอยู่แล้ว แต่การสื่อสารนี่เป็นปัญหาใหญ่มากๆเลยระหว่างโกลกับกองหลัง
                  4.ใครว่าสเตอริ่งเป็นอวตาร แมสซี่ ผมว่าเดอบรอนนี่แหละ อวตาร่าง1แมสซี่ชัดๆ 
                  5.ซิลบานี่ก็ร่าง 1 Xavi เลย แจ่มโพดดดดดดดด

สุดยอดจริงๆ เกมนี้

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.