Members

ประเมินผลงาน 6 ทีมชั้นนำใครรุ่งใครร่วง

ประเมินผลงาน 6 ทีมชั้นนำใครรุ่งใครร่วง


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ตำแหน่ง: แชมป์

ผลประเมิน:เป็นไปตามตามคาด

เริ่มต้นก็หัวทิ่มประเดิมพ่ายนัดแรกต่อ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน ปาร์ค แต่หลังจากนั้นทีมปีศาจแดงคืนฟอร์มชนะ 4 นัดรวดทว่าพ่ายช็อคคาถิ่นต่อ สเปอร์ส 2-3 ก่อนเดินหน้าเก็บชัยอีก 4 เกมติดจนกระทั่งสะดุดปราชัยเหนือความคาดหมายต่อน้องใหม่ นอริช นับจากนั้นเครื่องติดอะไรก็ฉุดไม่อยู่ชนะถึง 16 ใน 18 เกมรวมถึงแมตช์ไฮไลท์บุกโค่นแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองถึงถิ่นและนัดตัดสินแชมป์ถล่ม แอสตัน วิลล่า 3-0 ผงาดแชมป์สมัยที่ 20 มาครองอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ยอดเยี่ยม :โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

นับเป็นการซื้อทิ้งทวนที่ฉลาดหลักแหลมและแสนคุ้นค่าสำหรับท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าจอมเพชฌฆาตทีมชาติฮอลแลนด์ได้สำเร็จเมื่อซัมเมอร์ปีก่อน เรียกว่าแทบไม่ต้องปรับตัวให้เสียเวลาใช้งานได้เลย ฟาน เพอร์ซี่ ประเดิมตัวจริงนัดแรกพังประตูได้ทันทีต่อหน้าแฟนบอลปีศาจแดงในนัดชนะ ฟูแล่ม 3-2 จากนั้นประตูไหลมาเทมาจบด้วยตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด 26 ประตู

ยอดแย่ : เวย์น รูนี่ย์

แม้รั้งตำแหน่งรองดาวซัลโวประจำสโมสร 12 ประตูจากการลงเป็นตัวจริง 22 นัดแต่เทียบไม่ได้กับผลงานซีซั่นก่อนที่ยิงได้ถึง 27 เม็ดใน 34 เกมอาจจะเป็นเพราะต้องหลีกทางให้ ฟาน เพอร์ซี่ เล่นหน้าเป้าแทนอันกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่เจ้าตัวไม่ค่อยพอใจถึงขนาดขอย้าย ออกถือเป็นการกระทำที่แฟนบอลต่างรู้สึกผิดหวัง

อนาคต:น่าหวาดเสียว

อดใจหายแทนไม่ได้หลังท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจวางมือส่งไม้ต่อให้กับ เดวิด มอยส์ ซึ่งแม้คุมเอฟเวอร์ตันที่มีเงินทุนน้อยนิดแต่ยืนหยัดก้าวมาอยู่แถวหน้าในลีก แต่เขาไม่เคยรับงานยิ่งใหญ่ที่สุดไม่เพียงแค่ในประเทศ แต่ ยูไนเต็ด คือสโมสรระดับโลกที่ต้องการแชมป์สถานเดียวเท่านั้น


แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ตำแหน่ง: อันดับ 2

ผลประเมิน:ล้มเหลว

หลังฤดูกาลก่อนปาดหน้าวินาทีสุดท้ายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง แน่นอน ซิตี้ ถูกคาดหวังจะเป็นคู่ต่อกรที่แสนน่ากลัวเบียดบี้ไปกับ ยูไนเต็ด ได้อย่างถึงพริกถึงขิงแต่สุดท้าย โรแบร์โต้ มันชินี่ บิ๊กบอสไม่สามารถทำให้นักเตะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแถมมีปัญหาขัดแย้งกับลูก น้องในคอนโทรลมาตั้งแต่ คาร์ลอส เตเบซ,มาริโอ บาโลเตลลี่ และ ซามีร์ นาสซี่ ส่งผลกระทบต่อผลงานลุ่มๆดอนๆ จนเสียแชมป์

ยอดเยี่ยม: ยายา ตูเร่

เรียกว่าฤดูกาลนี้รับบทบาทหนักนอกจากเกมรับแล้วเกมรุกสืบเนื่องจาก เซร์คิโอ อาเกวโร่ ,ดาวิด ซิลบา รวมถึง ซามี นาสรี่ ต่างทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐานพังประตูได้น้อยลง ทำให้ ยาย่า ต้องสอดขึ้นมาซัลโวช่วยทีมเก็บแต้มสำคัญๆอยู่หลายเกมเลยทีเดียว

ยอดแย่: โจ ฮาร์ท

แม้มีดีกรีเป็นถึงผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษแต่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ฮาร์ท ซีซั่นนี้แตกต่างจากปีก่อนราวเป็นคนละคน นายด่านวัย 26 ประตูออกลูกเฟอะฟะและเล่นผิดพลาดให้เห็นบ่อย แม้ทีมเสียประตูน้อยสุดในลีกก็ตาม

อนาคต: คลุมเครือ

จากความล้มเหลวไม่ได้แชมป์อะไรติดไม้ติดมือเลยส่งผลต่อ โรแบร์โต้ มันชินี่ โดนปลดออกจากตำแหน่งตั้งแต่ยังไม่ทันจบฤดูกาล และโค้ชคนใหม่เข้ามาแทนหนีไม่พ้น มานูเอล เปเญกรินี่ บิ๊กบอสชาวชิลีที่ประกาศลาออกจาก มาลาก้า แม้เป็นโค้ชฝีมือดีแต่เคยล้มเหลวกับทีมใหญ่ เรอัล มาดริด มาแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถการันตีความสำเร็จ ซิตี้ จะกลับมาผงาดฟ้าหรือไม่


เชลซี

ตำแหน่ง: อันดับ 3

ผลประเมิน:น่าพอใจ

หลังสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยุโรปมาครองดูเหมือน โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ทำทีมมือขึ้นออกสตาร์ทได้อย่างสวยหรูชนะถึง 7 ใน 8 เกมไม่แพ้ใครเลยนำโด่งเป็นจ่าฝูงแต่พอพลาดท่าพ่ายคาบ้านต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูเหมือนสโมสรกู่ไม่กลับ ไม่ชนะ 7 นัดติดอันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงปลด ดิ มัตเตโอ ออกจากตำแหน่งจ้าง ราฟาเอล เบนิเตซ ที่กำลังว่างพอดีท่ามกลางเสียงต่อต้านจากแฟนบอลสิงห์บลูส์ แต่สุดท้ายเอลบอสสมองกลก้มหน้าก้มตาทำงานทำงานจนคืนฟอร์มโค้งสุดท้ายชนะถึง 6 จาก 8 นัดสุดท้ายแถมยังไม่แพ้ใครด้วยพร้อมทำให้ทีมผ่านเข้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ

ยอดเยี่ยม: ฆวน มาต้า

จะว่าไปแล้ว "สิงห์บลูส์" มีแข้งนักเตะยอดเยี่ยมได้รับการพิจารณาหลายคนไม่ว่าจะเป็น เอดิน อาซาร์ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ก็เล่นได้ดีเช่นเดียวกับ ดาวิด ลูอิซ ปราการหลังแซมบ้ารวมถึง แฟร้ง แลมพาร์ดที่เพิ่งสร้างสถิติกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร แต่สุดท้ายต้องยกให้ มาต้า เป็นนักเตะที่เล่นได้คงเส้นคงวาทุกนัดที่ลงสนาม

ยอดแย่: จอห์น เทอร์รี่

ถือเป็นฤดูกาลที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตของ เทอร์รี่ โดยเฉพาะภายหลังการมาของ ราฟา เบนิเตซ กุนซือจอมโรเตชั่นสวมสนับก้น "เจที" นั่งดูเพื่อนเล่นมากขึ้นประกอบกับอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดทำให้ท้ายฤดูกาลแทบ ไม่มีส่วนร่วมเลย เบ็ดเสร็จรวมกันลงสนามแค่ 14 นัดเท่านั้นน้อยมากทั้งๆที่มีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีม

อนาคต:สดใส

แม้ ราฟา ทำผลงานระดับน่าพอใจโชว์ฝีมือช่วย "สิงห์บลูส์" ไต่มาอยู่อันดับ 3 ดีกว่าฤดูกาลก่อนซึ่งจบแค่ที่ 7 พร้อมได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ แต่เอลบอสต้องหลีกทางให้ โจเซ่ มูรินโญ่ จะกลับมาคุมทีมอีกครั้ง ท่ามกลางการต้อนรับจากแฟนบอลรวมถึงบรรดานักเตะล้วนแต่ยินดีที่กุนซือสเปเชี่ ยล วันคัมแบ็ค


อาร์เซนอล

ตำแหน่ง: อันดับ 4

ผลประเมิน: สอบผ่านฉิวเฉียด

การขาดหายไปของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ส่งผลเสียหายต่อ "ปืนใหญ่" พอสมควรเริ่มต้นฤดูกาลอย่างกระท่อนกระแท่นจนถูกคู่แข่งร่วมเมือง สเปอร์ส ทำคะแนนทิ้งห่างถึง 8 คะแนนเมื่อเดือนมีนาคมจนดูเหมือนโอกาสวืดแชมเปี้ยนส์ ลีก มีสูง ก่อนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือขงเบ้งกระตุ้นลูกทีมเร่งเครื่องเต็มสปีดใน 10 นัดสุดท้ายเก็บชัยได้ถึง 8 นัดและไม่แพ้ใครจนกลับมายึดติดท็อป 4 คืนมาได้สำเร็จ


ยอดเยี่ยม: ซานติ กาซอร์ล่า

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือขงเบ้งขึ้นชื่อว่าตาแหลมคมมากมักมองดูใครไม่ค่อยพลาด กาซอร์ล่า ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แม้เพิ่งสัมผัสเกมลูกหนังพรีเมียร์ลีกเป็นปีแรกแต่สามารถปรับตัวเข้ากับทีม ได้อย่างรวดเร็วและกลายเป็นกำลังแข้งหัวใจหลักประจำทีมไปแล้วจากผลงาน 38 นัดยิง 12 ประตูพร้อมทำอีก 13 แอสซิสต์


ยอดแย่: บาการี่ ซานญ่า

โธมัส แฟร์มาเล่นที่แม้มีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมแต่เล่นได้อย่างน่าผิดหวังแต่ยอด แย่ต้องยกให้ ซานญ่า ไปครองนอนมา เพราะเกมรุกก็เลวร้ายบุกแต่ละครั้งแทบไม่ทำอะไรเลยเปิดบอลก็ไม่แม่นและทำให้ เกมรับก็รั่วอีกต่างหากกลายเป็นบ่อน้ำมันให้คู่แข่งฝั่งตรงข้ามขุดเจาะอย่าง ง่ายๆแถมสกัดบอลโฉ่งฉ่างอีกต่างหาก


อนาคต:ยังต้องลุ้น

ฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ เวนเกอร์ ตามสัญญาที่ผูกมัดในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แม้พาทีมไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกทุกปีไม่เคยพลาด แต่จากการที่สโมสรห่างหายความสำเร็จนานถึง 8 ปีเข้าไปแล้วทำให้นักเตะดีๆหลายคนที่มีความทะเยอะทยานกำลังพิจารณาโอนย้าย สังกัดเพื่อความสำเร็จในภายภาคหน้าตามรอยรุ่นพี่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่,เชสก์ ฟาเบรกัส และ เธียร์รี่ อองรี


ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์

ตำแหน่ง: อันดับ 5

ผลประเมิน:น่าพอใจ

แม้ปลด แฮร์รี่ เรดแนปป์ กุนซือตาปรือไปแล้วแต่การเข้ามาของคนรุ่นใหม่ไฟแรง อังเดร วิลลาส โบอาส มีส่วนช่วยกระตุ้น "ไก่เดือยทอง" ฮีกเหิมจนเคยติดท็อป 3 สลับกับ เชลซี,อาร์เซนอล ผลัดกันขึ้นผลัดกันลง แต่น่าเสียดายโค้งสุดท้ายเจอความร้อนแรงของสองคู่แข่งร่วมกรุงลอนดอนที่เดิน หน้าเก็บชัยเป็นว่าเล่นถีบ สเปอร์ส หล่นไปอยู่ที่ 5 ชวดโอกาสไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกอย่างน่าเจ็บใจ


ยอดเยี่ยม: แกเร็ธ เบล

จะเป็นใครไม่ได้นอกจากต้องยกให้ เบล คนนี้คนเดียวที่ต้องแบกรับภาระในฐานะตัวความหวังสูงสุดของทีม ด้วยความสามารถเฉพาะตัวทั้งเทคนิค,ความเร็ว,พลังและประสิทธิภาพการพังประตู รวมอยู่ในตัวเขาหมด โดยเฉพาะการซัลโวถึง 20 ประตูทั้งๆที่ไม่ใช่ตำแหน่งกองหน้าย่อมถือว่าไม่ธรรมดาจึงไม่แปลกใจที่เขา ได้แข้งเยี่ยมทั้งสองรางวัลจากเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันเองรวมถึงสื่อมวลชน ต่างก็ซูฮก


ยอดแย่: เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

อุตส่าห์จับเซ็นสัญญาถาวรเมื่อซัมเมอร์ปีก่อนเพราะต้องการพึ่งพาการพังประตู แต่ดาวยิงโตโกหวังอะไรไม่ได้เลย แม้อังเดร วิลลาส โบอาส บิ๊กบอสให้โอกาสลงสนามต่อเนื่องแต่กลับยิงได้เพียงแค่ 5 ประตูเท่านั้นถือว่าน้อยเกินไป


อนาคต:สดใส

แม้พลาดหวังยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกอย่างน่าเสียดายในนัดปิฤดูกาลแต่ อังเดร วิลลาส โบอาส บิ๊กบอสไม่มีอะไรต้องเสียใจเพราะทีมเก็บคะแนนมากถึง 72 คะแนนมากที่สุดเท่าที่เคยทำได้ ดังนั้น โบอาส สามารถสานต่อและพาทีมก้าวไปถึงจุดหมายท็อป 4


ลิเวอร์พูล

ตำแหน่ง: อันดับ 7

ผลประเมิน:ล้มเหลว

ภายหลังปลด เคนนี่ ดัลกลิช เพื่อเปิดทางให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามากุมบังเหียนด้วยความหวังผ่านเข้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกแต่การเปลี่ยนตำแหน่งโค้ชต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับลูกทีมกว่าจะเข้าใจ แท็กติกส์ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยเหตุนี้เองผลงานของ "หงส์แดง" ไม่คงเส้นคงวาและกว่าจะทุกอย่างเริ่มเข้าที่ต้องรอจนกระทั่งท้ายฤดูกาลซึ่ง สายเกินไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรั้งแค่ที่ 7 ไล่หลังเพื่อนร่วมเมือง เอฟเวอร์ตัน ถือเป็นสิ่งที่ "เดอะค็อป" บางส่วนรับไม่ได้


ยอดเยี่ยม: หลุยส์ ซัวเรซ

นับเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยพังประตูต่อเนื่อง 23 ประตูเข้าไปแล้วไม่เพียงแค่นั้นเขาเป็นกองหน้าที่ขยันทุ่มเทและสร้าง ประโยชน์ให้ทีมมาโดยตลอด น่าเสียดายที่ดันดีแตกในช่วงท้ายไปกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังเชลซีจนโดนแบนยาว 10 เกมพลาดล่าตาข่าย 4 นัดสุดท้าย


ยอดแย่: โจ อัลเลน

นี่คือศิษย์เอกของ บีร็อด ตั้งแต่สมัยอยู่ สวอนซี ด้วยกัน ดังนั้นการมาของ อัลเลน จึงถูกตั้งความหวังไว้สูงว่าจะพา "หงส์แดง" ปลดแอกเสียทีกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีกแต่สุดท้าย 15 ล้านปอนด์ที่สโมสรอุตส่าห์ลงทุนซื้อเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแทบไม่เกิด ดอกผลอย่างที่คาดหวังเอาไว้แถมต้องส่งนักเตะเข้าโรงหมอพักรักษาตัวอีกต่าง หาก


อนาคต:พอมีหวัง

แม้ได้เพียงแค่อันดับ 7 แต่เมื่อพิจารณารูปแบบการเล่นและปรัชญทำทีมของ ร็อดเจอร์ส ที่ปูพื้นฐานการเล่นสวยงาม ยิ่งหากได้นักเตะดีๆเข้ามาร่วมทีมน่าจะทำให้ "หงส์แดง" ติดปีกบินสูงกลับไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อันเป็นเป้าหมายสุงสุดอีกครั้ง


_________________

ที่มา soccersuck

เครดิต http://mcfc.in.th

Views: 861

Reply to This

Replies to This Discussion

หนอยบังอาจ มาว่า อนาคตเรือใบคลุมเครือ เด่วจัดเต็ม รับรองแชมป์มีแน่ๆ คอยดู อิอิ

ก็คลุมเครือจริงๆอะนะ  แต่ยังมีเวลาอีกเยอะ  ถ้าได้ ผจก ใหม่  อนาคตทิศทางก็จะแน่นอนเอง  เชลซีที่มันสดใสเพราะมันได้ มู แน่ๆของซิตี้ขนาด เปรเญ ก็ยังมีข่าวบาซ่าจะแย่งเลยรอดูอาทิตย์หน้าก็รู้เอง  เรือใบหมดทัวร์เมกาแล้วน่าจะประกาศตัว ผจก ใหม่

เอาจริงๆ ผมไม่คิดว่าเปเญกรีนี่ล้มเหลวกับเรอัลนะครับ ถึงแม้จะตกรอบ ชปล. และโกปา เดล เรย์แบบไม่จะเป็น แต่ก็พาเรอัลคว้ารองแชมป์ด้วยคะแนน 93 คะแนน ซึ่งตามแชมป์อย่างบาร์ซ่าแค่ 3 คะแนน และนี่ยังเป็นจำนวนคะแนนที่มากที่สุดที่เรอัลเคยทำได้

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ผลงานครับ แฟนบอลจะสรรเสริญเขาถ้าเขาชนะยูไนเต็ดไป-กลับ + คว้าแชมป์มากมาย แต่ก็อาจถูกเป็นเป้าโจมตีได้เช่นกันถ้าหากผลงานไม่ดี เป็นห่วงเรื่องภาษาครับ กลัวจะเป็นแบบรานิเอรี่ แต่ทีมเราก็มีนักเตะพูดสเปนเยอะนะ น่าจะพอไปได้

ปีนี้เป็นแบบที่กล่าวมาชัดเจน โจ ฮาร์ท พลาดเยอะมาก ลูกไม่น่าเสียก็เสีย ลูกน่าจะเสียดันเซฟได้ ถ้าฟอร์มดีสงสัยจะไม่เสียประตูเพราะปีนี้เจอแต่ละลูกง่าย ๆ ทั้งนั้น ลูกยาก ๆ กลับเซฟได้ เซ็ง จริง ๆ 

ใครไปวิเคราะห์รึ(ss)เเปลมาจากไหนฮะเนี่ย อยากบอกว่าเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่ทีเดียวเชียว

(จะมีต่างก็ตรงที่โจ ฮาร์ท กับ อเดบายอร์ ส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าเเย่ที่สุดของทั้งสองทีมนั้น )

ดูแล้วคนเขียนบทความนี้น่าจะเชียร์ สิงห์บลูส์ นะครับ เขียนสะดูดีเบยยยย

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.