พรีเมียร์ลีก ยังคงอุดมไปด้วยนักเตะซุป'ตาร์ดังๆ มากมาย ซึ่งมีหลายคนที่ ฟอร์มดีมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน หลายคนเพิ่งย้ายเข้ามาแล้วเล่นได้ดี แต่ก็ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถทำผลงานที่ดีอย่างที่ทุกๆ คนหวังไว้ได้

ไม่ ว่าจะเป็นเพราะการขาดความมั่นใจ, ขาดความฟิต, ไม่ค่อยได้ลงสนาม หรือ ไม่สามารถจัดการกับความกดดันได้ ก็ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้นักเตะเหล่านั้นต้องจมกับเสียงวิจารณ์ใน ปัจจุบัน

และในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปดูรายชื่อ นักเตะท่าดี แต่ทีเหลว ประจำครึ่งฤดูกาลแรกของพรีเมียร์ลีกกัน

7. มาริโอ บาโลเตลลี

​ มาริโอ บาโลเตลลี ถูกซื้อมาด้วยความหวังว่า จะมาช่วยเติมเต็มการขาดหายไปของ หลุยส์ ซัวเรซ ได้บ้าง แต่ทุกอย่างมันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย

ช่วง หลังๆ เกรียนโอ้ ได้ถูกดร็อปไป แต่ก่อนหน้านี้เมื่อเขาลงเล่น เขาก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่าๆที่เคยทำได้ทั้งกับในทีมขาติและกับในสโมสร เก่าๆ ได้เลย

นักเตะทีมชาติอิตาลียังไม่สามารถยิงได้แม้แต่ 1 ประตูในพรีเมียร์ลีก และหลังจบฤดูกาลถ้าฟอร์มของเขายังไม่กระเตื้อง ก็คงต้องบอกลาหงส์แดง เก็บของไปที่อื่นได้เลย

6. ยายา ตูเร

​ ยายา ตูเร คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากไม่มีเขา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คงจะไม่ได้แชมป์ลีกสมัยที่สองเป็นแน่แท้

อย่างไรก็ตาม จุดขายของเขาในการทำได้ดีหน้ากรอบเขตโทษ กลับไม่สามารถแสดงแสนยานุภาพในซีซั่นนี้ได้เลย โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูกาล

ด้วยอายุ 30 แถมยังต้องกรำศึกหนักกับสโมสรและทีมชาติ เราจึงอาจจะไม่ได้เห็น ตูเร ในร่างเทพอย่างซีซั่นก่อนอีกแล้ว

5. โรแบร์โต โซลดาโด

​ โรแบร์โต โซลดาโด มีค่าตัวถึง 26 ล้านปอนด์ ในครั้งที่ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ดึงเขามาจาก บาเลนเซีย ในปี 2013 แต่เขาก็ยังไม่ได้สร้างความคุ้มทุนให้กับทีมได้เลย

ในฤดู กาลนี้ เขาทำได้เพียง 1 ประตูในลีก จากการลง 12 นัด แถมยังโดนรุ่นน้องอย่าง แฮร์รี เคน เบียดขึ้นมาเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของทีมอีกด้วย

จากที่กล่าวมาจึงได้มีข่าวลือหน้าหูว่า แดเนียล เลวี ประธาน สโมสร เตรียมเฉดหัวเขาออกจากเล้าไก่ในเดือนนี้

4. ซิมง มินโญเลต์

​ผู้รักษาประตูชาวเบลเยี่ยม ต้องพบกับวิกฤติการณ์ในการขาดศรัทธาของแฟนบอล จนต้องเสียตำแหน่งตัวจริงให้ แบร็ด โจนส์ มาแล้ว

แต่โชคยังดีเมื่อ โจนส์ เจ็บไปทำให้เขายังได้โอกาสที่จะมากอบกู้ศรัทธาของตัวเองกลับคืนมาอยู่

มิ นโญเลต์ ย้ายมาจากซันเดอร์แลนด์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และด้วยความงุ่มง่ามเงอะงะ อีกทั้งยังมีปัญหาในลูกยาว และการสั่งการเพื่อน จึงทำให้บรรดาแฟนๆ และกูรู ต่างออกมาฟันฉับว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะเป็นมือหนึ่งของหงส์แดง

3. โรเมลู ลูกากู

​ มีเรื่องเล่าว่าพลังของ โรเมลู ลูกากู อยู่ที่ผม เมื่อเขาตัดผมไป จึงไม่สามารถแสดงพลังราวกับม้าคึกเมื่อฤดูกาลก่อน ให้ เอฟเวอร์ตัน ในฤดูกาลนี้ได้เลย

เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาต้องแบกรับ ตำแหน่งนักเตะค่าตัวแพงสุดของสโมสร ด้วยค่าตัว 28 ล้านปอนด์จาก เชลซี ต่างกับที่เขามาเล่นด้วยความมั่นใจใน กูดิสัน ปาร์ค ในซีซั่นที่ผ่านมา

ในฤดูกาลนี้ กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยม เพิ่งยิงได้ 6 ประตู จากการลงสนาม 21 นัดเท่านั้นเอง

2. วอยเชียค เชสนี

​ นายทวารชาวโปแลนด์ โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนักในซีซั่นนี้ แต่แฟนๆ ก็ยังพอรับได้ แต่เมื่อเกมที่แพ้ต่อ เซาธ์แฮมป์ตัน ไป 2-0 ที่เขามีส่วนรับผิดชอบทั้งสองประตู ผ่านไป ก็ได้มีแฟนๆ บางส่วนเริ่มแอนตี้เขาเข้าให้แล้ว

ในตอนนี้ เชสนี ต้องเสียตำแหน่งให้ ดาวิด ออสปินา ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ด้วยฟอร์มในสนาม รวมถึงจากพฤติกรรมที่เขาเคยโดนปรับจากสโมสรหลังไปสูบบุหรี่มาก่อนหน้านี้

1. ราดาเมล ฟัลเกา

​ ราดาเมล ฟัลเกา เข้ามาถิ่น ปีศาจแดง ด้วยการแบกป้ายศูนย์หน้าระดับโลกเข้ามาด้วย แต่เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง และการที่ยังไม่สามารถระเบิดฟอร์มออกมาได้ ทำให้อนาคตของเขาเริ่มไม่แน่นอนเสียแล้ว

มีข่าวว่า ปีศาจแดง จะเซ็นเขาอย่างถาวรหลังจบฤดูกาล แต่ข่าวนี้ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อสโมสรยังมองไม่เห็นความคุ้มทุน ซึ่งตรงกับปากคำของเอเยนต์นักเตะ ที่ออกมาเผยว่า เขาไม่รู้ว่าในปีหน้า ฟัลเกา จะได้เล่นสโมสรใด

แต่ตอนนี้ยังมีโอกาสที่สตาร์โคลัมเบียอาจ ได้อยู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อ หากสามารถเค้นฟอร์มเหมือนตอนอยู่ แอตเลติโก มาดริด ออกมาได้ หรือถ้าไม่หลังจบฤดูกาลเราจะได้เห็นเขาย้ายทีมแน่นอน

_____________________^^_________________

Cr.www.90min. ตามข่าวสารทีมได้ที่เวปหลักแมนชิตี้ไทย :http://mcfc.in.th/