Members

จัดหนักก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ กับข้อมูลตลาดซื้อขาย ณ ปัจจุบัน (ข้อมูล 8 ทีมแย่งตำแหน่งถ้วยยุโรป)

ฟาดแข้ง  เป่านกหวีด  จะเรียกอย่างไรก็ได้สำหรับการรอคอยที่จะสิ้นสุดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้กับเกมการแข่งขันลีคดังๆของโลกทั้ง  พรีเมียร์ลีค  บุนเดสลีก้า  กัลโช่ซีเรียอา  ลาลีก้าสเปน  รวมไปถึงในอีกหลายๆประเทศ   แต่สำหรับประเทศไทยนั้นคงต้องโฟกัสไปที่  พรัเมียร์ลีค  ซึ่งมีฐานแฟนบอลกว้างขวางที่สุดกันเสียก่อน

 

ฤดูกาล 2012 – 2013 กำลังจะเริ่มระเบิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้  เหล่าพ่อค้าแข้งทั้งหลายกลับมาจากการพักผ่อนสุดสำราญ  บ้างนอนอยู่บ้าน  บ้างไปเที่ยวกับผองเพื่อน  บ้างพาครอบครัวไปเที่ยว  บ้างควงสาวๆไปเที่ยว แอร๊ย !!~   แต่ท้ายที่สุดก็กลับมารายงานตัวฝึกซ้อมกันทั่วหน้า  รวมไปถึงกลับมาเพื่อขอย้ายทีม !?   เมื่อมาถึงเวลานี้แล้วใครจะทำอะไรก็ต้องรีบทำเพราะเหลือเวลาเพียงแค่สองสัปดาห์สุดท้ายกับการเสริมขุมกำลังหรือการตัดรายจ่ายที่เป็นส่วนเกินทิ้งไป   เรามาเช็คกันเล่นๆในทีมหัวตารางของลีคอังกฤษปีนี้กันดีกว่าว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไรบ้าง

** ค่าเงินที่นับในนี้คือปอนด์  เป็นค่าเงินของอังกฤษครับ  ซึ่งจะมีความแข็งค่าของสกุลเงินมากกว่าเงินยูโรครับ**

 

แมนเชสเตอร์ซิตี้

จั่วหัวต้องให้เกรียติแชมป์เก่าเสียก่อน   ด้วยความที่ฤดูกาลที่ผ่านมานั้นแสนดราม่า  กระนั้นผลงานที่ยิงสลุด 93 ประตูเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของทีมเป็นอย่างดี   ทว่าดูเหมือนซิตี้จะวางแผนลับๆกับการจดๆจ้องนักเตะพ่อค้าแข้งที่จะดึงมาเสริมทีม โดยส่วนใหญ่คาดเดากันที่ว่าจะดึงเหล่าพ่อค้าแข้งหน้าใสวัยกระเตาะเพื่อปั้นให้แกร่งและกลายเป็นกำลังในอนาคต แต่ดูเหมือนว่าตลาดซื้อขายรอบนี้จะมีคนอยากออกมากเสียกว่าอยากเข้านะนี่

 

นักเตะเข้า : แจ็ค ร็อดเวล (13.2m)

นักเตะออก : เวย์ บริด (ยืมตัว) , วลาดิเมียร์ ไวส์(1.58m) , โอเว่น ฮากริฟ(ปล่อยตัว) , สจร๊วด เทย์เรอ(ปล่อยตัว) , อาเหม็ด เบนาลี่(ปล่อยตัว) , แคร็ค คันนิ่งแฮม(500k)

 

เรียกได้ว่าแม้จะมีการปล่อยตัวไปเยอะทว่านักเตะเหล่านั้นก็ใช่จะเป็นนักเตะที่เหล่าแฟนบอลซิตี้รู้จักทั่วไปแต่อย่างไร  บางคนอาจเข้าขั้นโลกลืมเสียแล้วก็เป็นได้   แต่กระนั้นก็ลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ได้กว่าแสนปอนด์ต่อสัปดาห์   แม้ยังเป็นที่เชื่อว่าจะมีพ่อค้าแข้งเดินเข้ามาบรรเลงฝีเท้ายังถิ่น  อิติฮัด  สเตเดี่ยม  ทว่าหากมองเพียงขุมกำลังเก่าที่ไม่ได้สูญเสียตัวหลักไปก็ยังคงสถานะการเป็นตัวเต็งแชมป์ในฤดูกาลที่กำลังจะถึงอยู่ดี

 

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

ทีมรองแชมป์พกความเครียดแค้นมาเป็นที่พร้อมกระชากคู่แข่งร่วมเมืองที่พวกเขาเหนือกว่ามาตลอดลงจากบัลลังแชมป์  มันเป็นเรื่องน่าขายหน้าแต่ไม่รู้ว่าหากมีหัวข้อให้เลือกระหว่าง  ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล  สำหรับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีคทางปีศาจแดงจะเลือกจิ้มให้ใครกันแน่(ฮ่าๆ)   ต้องบอกว่าปีนี้ยูไนเต็ดเป็นทีมที่มีกำลังขับเคลื่อนสูงเอามากๆในตลาดนักเตะ  โดยที่พวกเขายังคงรักษาแนวทางของการเสริมทีมที่มักจะมีความเขี่ยวในด้านการเงินเช่นเดิม

นักเตะเข้า : ชินจิ คากาวะ (14m) , นิค โพลเวล(6.6m)

นักเตะออก : ไมเคิล โอเว่น(ปล่อยตัว) , ปาร์ค จี ซุง(2.7m) , โอลิเวีย นอร์วูด(ปล่อยตัว) , ลีเซ่ บราว์(ยืม) , เซียน แมคกิทรี(ยืม) , เบนท์ อามอท(ยืม) , ฟาบิโอ เดอ ซิลวา(ยืม) , โทมัส คุสแซค(ปล่อยตัว) , แมตตี้ เจมส์(1.1m) , ริคเช่ เด เลน(1.1m) , พอล พ๊อกบา(ปล่อยตัว)

 

แม้จะเสียออกไปมากกว่านำเข้า  แต่หากพิจารณารายชื่อนักเตะที่เดินออกไปแล้วนับไม่ไม่กระทบใดๆทั้งสิ้น  กลับกันในด้านการเสริมทีมดูจะเป็นการยดระดับการเชื่อมต่อเกมโดยนำเข้ากองกลางตัวขับเคลื่อนเลือดซามูไรจากเสือเหลืองแดนเยอรมัน  และจากช่วงปรีซีซั่นเรียกได้ว่าเขามีช่วงเวลาที่ดีมากๆกับยูไนเต็ดก่อนที่จะได้พบเจอกับเกมโหดของพรีเมียร์ลีคทีเดียว

 

อาเซนอล

ทีมอันดับ 3 จากปีที่แล้วที่โดนตีตรา  ชี้หน้าด่าในช่วงต้นฤดูกาลว่าคงหมดแล้วสำหรับอาเซนอล  ยังจำกันได้ถึงการกดดันให้ผู้จัดการทีมขงเบ้งฝรั่งเศสลาออกกัน   ทว่าท้ายที่สุดเป็นนักเตะคู่บุญ  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  ที่เป็นดั่งจูล่งให้ขงเบ้งได้วางกลศึกพิชิตชัยจนเข้าป้ายอันดับ 3 ไปอย่างที่นักวิจารณ์หลายรายอ้าปากค้างกันทีเดียว

นักเตะเข้า : โอลิเวียร่า ชิรูด์(10.5m) , ลูคัส โพลดอสกี้(10.5m) , ซานติ คาซอล่า(16.7m)

นักเตะออก : คาร์ลอส เวียร่า(3.3m) , มิเกล อัลมูเนีย(ปล่อยตัว) , ไร เมอร์ฟี่(ปล่อยตัว) , กาวิน ฮ้อย(ปล่อยตัว) , เปรโด โบเตโญ่(ปล่อยตัว) , เรียว มิยาอิจิ(ยืม) , เบนิค อโฟเบ(ยืม) , โจล แคมป์เบล(ยืม)

 

เป็นปีที่น่าทึ่งมากกับการที่อาเซนอลมักจะเป็นเจ้าบุญจ้องแล้วก็จอมต่อราคาจนท้ายที่สุดมักพลาดท่าให้พวกเจ้าบุญทุ่มตัดหน้าฉกไปต่อหน้าต่อตามาหลายปี   ทว่าปีนี้พวกเขาตบกียร์เร่งสปีดตั้งแต่นกหวัดการซื้อขายยังไม่ดัง  มีการตกลงกันไปก่อนจะจบฤดูกาลก่อนเสียด้วยซ้ำ  นอกจากนั้นยังแทบไม่ได้ยินชื่อเสียงการต่อราคาอันลือลั่นของอาเซนอลกันเลยในปีนี้  หรืออาเซนอลจะละทิ้งแนวทางเดิมกันแล้วนะ ?

 

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์

เจ้าไก่เดือยทองตามคำเรียกของแฟนบอลชาวไทยนั้นคว้าอันดับที่ 4 มาครองได้อย่างยากลำบากทว่าเหมือนสวรรค์ไม่มีตาทำให้คำสาปแช่งของเขาไม่เป็นผล เชลซีเข้าป้ายซิวถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคไปแบบโต๊ะเซียนยังหัก!!   พร้อมกับข่าวที่น่าจะสร้างความมึนงงกับการปลดผู้จัดการทีมที่น่าจะทำผลงานได้ดีที่สุดในรอบหลายปีของทีมอย่าง  แฮรรี่  เรดแนป  แล้วได้จัดจ้างอดีตคนตกงานจากค่ายเชลซีมาแทน   การก้าวเข้ามาของ  อังเดร วีลาส โบอาส  มักสร้างกระแสได้เสมอ…….ช่วงปีที่แล้วเวลาเดียวกัน  เชลซีเสียเงินไปกว่าสิบล้านเพื่อให้ได้ตัวเขามาครอบครอง  ละต้องเสียเงินไปอีกนิดหน่อยกับการปลดเขาออกจากตำแหน่ง(เนื่องจากเชลซีเล่นแง่ไม่จ่ายเงินก้อน  กล่าวคือหากจะได้รับค่าชดเชยครบจำนวนทาง  โบอาส จะต้องว่างงานเป็นจำนวนเวลาที่ระบุในสัญญาจ้างเดิม   เหมือนกับไม่ได้ไล่ออก  แต่ไม่ต้องมาทำงาน !!)  และในปีนี้เขากลับมาอยู่ใน  ลอนดอน  เช่นเดิมจะเป็นมหากาพย์ของการ รีเทริน ออฟ เดอะ คิง  หรือไม่เราต้องมารอดูกัน

 

นักเตะเข้า : กลิฟี่ ซิกูสัน(8.8m) , แยน แฟทองเก้นท์(11m)

นักเตะออก : หลุยส์ ซาฮา(ปล่อยตัว) , สตีเว่น พีนาร์(5m) , เล็ดย์ลี่ คิง(รีไทร์), เวนราด ชอร์รูก้า(6.1m) , ไรอัน เนลสัน(ปล่อยตัว) , นิโคร ครานชาร์(6.1m) , เบน อัลวิค(ปล่อยตัว) , โบนกานิ คุมาโล(ยืม) , มันซิโม่ โลนโก(ยืม)

 

สำหรับเจ้าไก่เดือยทองมันน่าจะแน่แล้วกระมังสำหรับการที่อาจจะมีชื่อของแดนกลางคนสำคัญ  ลูก้า โมดริช ในการย้ายออก  จากที่เห็นมีการเสริมตำแหน่งเพียงแค่เล็กๆน้อย  และยังไม่ได้ตอบโจทย์ในๆกับการแกปัญหาขาดกองหน้าในเลวานี้ได้เลย   การจดๆจ้องๆ  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  ก็ยังดำเนินการต่อไปโดยมีเงื่อนไขของเวลาที่มากพอสำหรับการเจรจาให้สัมฤทธิ์ผล  ต้องรอดูว่าการเคลื่อนไหวหลังจากนี้จะมีชื่อสเปอร์ไปเกี่ยวข้องกับนักเตะคนไหนอีก

 

นิวคาสเซิ่ล

คุณจะเชื่อไหมว่าทีมที่ขึ้นชื่อว่ามีเจ้าของพยายามเร่ขายทีมในช่วง 2 ปีก่อนแต่ขายไม่ออก  แล้ว  ทำการไล่ผู้จัดการทีมที่เหล่าแฟนบอลยังให้ความชื่นชอบออก  กลับไปเอาใครก็ไม่รู้เข้ามาทำงานแทน   ใช่มันคือละครของความสำเร็จที่ทุกคนมึนงง  สาลิกาดง  ก้าวพงาดน่าจะเป็นในรอบหลายปีทีเดียวกับการมีแต้มนำหน้าทีมที่ได้ชื่อว่าเป็น BIG4 เดิมอย่าง  เชลซีและลิเวอร์พูล  ทั้งๆที่พวกเขาคือทีมที่ไม่ได้อุดมไปด้วยผู้เล่นที่มีชื่อเสียง  แต่ตอนนี้พวกเขากำลังสร้างมันขึ้นมา   นิวคาสเซิ่ล   จัดการห่อของขวัญส่งกองหน้าราคา 35 ล้านปอนด์ไปให้ลิเวอร์พูลท่ามกลางคำถามในเชิงลบว่าใครจะมาทำประตูให้ทีม  และจากนั้นด้วยวาทะอันลือลั่นของผู้จัดการทีม  อลัน  พาดิวซ์  ที่ประกาศกร้าวว่านักเตะทุกคนล้วนมีค่าตัวนั่นคือการเปิดเผยว่าพวกเขาพร้อมจะปล่อยตัวนักเตะที่เล่นกับทีมทุกคนไม่มีเว้น  ทว่าใครจะกล้าลงทุนในเมื่อหลายๆทีมได้เห็นสภาพของกองหน้าค่าตัวแพงของลิเวอร์พูลกันไปแล้ว   นิวคาสเซิ่ลสร้างตำนานแนวเถื่อนๆด้วยการบากบั่นต่อสู้ตามสภาพที่เขามี   ด้วยแรงสปิริตที่นักเตะอาจรู้สึกว่าเจ้าของทีมนั้นพึ่งพามิได้เสียเลยจนทำความตื่นตะลึงไปทั่ว   แม้พวกเขาจะเสียฟอร์มหน่อยที่พ่ายแพ้แทบจะหมดรูปให้กับแชมป์พรีเมียร์ลีคทว่ากับทีมอื่นๆนั้นพวกเขาอันตรายชนิดที่ว่าพร้อมจะคว่ำกระชากไม่ใช่เพียงแค่แต้มเดียวแต่เป็นสามแต้ม

 

นักเตะเข้า : โรมัน อมาฟิตาโน่(ฟรี) , เกล็น บิกิริมานะ(1.1m) , เคิลทีส กุ๊ด(453k)

นักเตะออก : ปีเตอร์ โรเวนครานซ์(ปล่อยตัว) , ทามัส คาดาร์(ปล่อยตัว) , อลัน  สมิธ(ปล่อยตัว) , แดนนี่  กรัททรี่(ปล่อยตัว) , ลีออน  เบสท์(3.3m) , ฟาร์เซอร์  ฟอรซ์เตอร์(2.2m) , เจฟ  เฮนเดอร์สัน(ปล่อยตัว)

 

แทบไม่เห็นการขยับที่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่  นอกจากข่าวที่ติดตามจีบอดีตหัวหอกของพวกเขา  แอนดี้ แคลโรล กลับมาร่วมทีมอีกครั้งแต่ล่าสุดเหมือนว่าจะล้มเหลวเมื่อลิเวอร์พูลไม่ยอมปล่อยออกมาในราคาถูกเป็นแน่แท้   ต้องมาดูว่าพวกเขาจะสร้างปาฏิหารแบบปีที่แล้วได้หรือไม่อย่างไร  ในเมื่อหัวหอกจอมถล่มประตูชาวเซเนลกัลยังคงอยู่ทั้งคู่

 

เชลซี

ถ้าถามว่ามันเป็นครั้งที่ล้มเหลวที่สุดของเชลซีบนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีคใช่หรือไม่  ผมขอฟันธงว่าแน่นอน   แม้จะเอาความหอมหวานของการได้แชมป์ถ้วยใหญ่เช่นยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคมากลบกระแสดังกล่าวไว้แต่เหมือนเจ้าของทีมชาวรัสเซียจะไม่มองข้าม  พวกเขาจัดเงินจำนวนมากมายเพื่อดึงแข้งฝีเท้าดีมาเสริมทีม   อาจเสริมทีมภายใต้ความเชื่อที่ว่าความบังเอิญมันไม่ได้มีกันบ่อยๆก็เป็นได้

 

นักเตะเข้า : มาร์โก มาริน(7m) , เอดิน อาซาร์ด(35.2m) , ออสก้า(28.1m)

นักเตะออก : โจเซ่  โบซิงวา(ปล่อยตัว) , โซโลมอน  คาลู(ปล่อยตัว) , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา(ปล่อยตัว) , ไร  เทเลอร์(ปล่อยตัว)

 

ดูที่ราคาค่าตัวและชื่อชั้นอาจพูดได้ว่าเชลซีจัดหนักแซงหน้าเหล่าทีมหัวตารางกันไปก่อน  หากวัดกันที่เม็ดเงินน่าจะต้องมอบถ้วยให้กับทีมของเสี่ยชาวรัสเซียแต่ทว่าเชลซีมักประสบกับปัญหาที่เงินก็แก้ไขได้ยากยิ่งคือการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีม  หรือต้องบอกว่าอยู่ไม่ครบเทอม  ที่ออกแนวบ่อยเสียเหลือเกินจนหลายๆคนเริ่มขยาดไม่อยากมารับตำแหน่ง  หากมาก็ย่อมมีเงื่อนไขแน่นอน  ในแง่ของนักเตะคงไม่มีใครจะมองข้ามการเสริมทีมครั้งนี้ไปได้จะคงเหลือก็แต่คำถามตัวโตๆกับช่องว่าของ  ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา  เพราะมันเป็นช่องว่างที่ใหญ่มากจนยากที่จะถมได้มิด

 

 

เอฟเวอร์ตัน

จะมีกี่ครั้งที่สีนำเงินจะได้เริงร่าในเมืองลิเวอร์พูล ?   ด้วยแผนการเล่นของผู้จัดการทีมที่นักเตะเข้าใจเป็นอย่างดี  แม้จะมีปัญหาด้านการเงินต้องขายนักเตะของพวกเขาเพื่อมาอุดรอยรั่วประจำ  อีกทั้งในปีนี้เขาก็เสียดาวรุ่งที่ปลุกปั้นขึ้นมากับมือให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ไปอีก  ต้องมาดูกันยาวๆอีกครั้งว่าพวกเขาจะสามารถทำอันดับได้เหนือกว่าคู่อริร่วมเมืองหรือไม่อย่างไร

 

นักเตะเข้า : สตีเฟ่น เพียร์นา(5m) , สตีเฟ่น ไนล์สมิธ(ฟรี)

นักเตะออก : มาคุส ฮันเนมาน(แขวนรองเท้า) , ทีม  เคฮิล(1.1m) , แจ็ค  ร็อดเวล(13.2m) , โจเซป โยโบ(2.2m) , เจมส์ แมคฟาเด้นท์(ปล่อยตัว)

 

น่าจะได้เงินกอนโดตไปบริหารทีมเลยทีเดียว  ทว่าด้วยจำนวนนักเตะที่มีน้อยนิดคงต้องมาดูกันว่าพวกเขาจะซื้อแข้งรายใหม่มาเสริมหรืออาจเลือกดันนักเตะดาวรุ่งตามสไตล์กันแน่

 

ลิเวอร์พูล

ผมยอมรับว่าไม่ค่อยรู้ประวัติศาสตร์ของทีมนี้เท่าไหร่นัก  เว้นไว้เรื่องที่ได้แชมป์ 18 สมัย   ทว่านี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ดูกีฬาลูกหนังที่แพร่หลายนี้แล้วได้เห็นว่าทีมลิเวอร์พูลคว้าอันดับที่ 8 ไปครองหลังจบการแข่งขัน 38 นัด    มันคงแทบเอาหน้ามุดหนีไปไว้ที่ไหนสักแห่งกันเลยทีเดียว  เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุใดกับคุณภาพทีมที่มีนักเตะติดทีมชาติกว่าครึ่งทีมถึงทำอันดับได้น่าอับอายเพียงนี้  เหตุดังกล่าวทำให้เกิดการสังเวยความอ่อนหัดและผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดการทีมและสต๊าฟมากหน้าหลายตาต่างโดนปลดทีละรายเรียกได้ว่าเหมือนรถที่ยกเครื่องใหม่และพร้อมจะขัดเงาด้วยการทำเข้านักเตะใหม่ๆ   รอบนี้ถ้าเครื่องยังแรงไม่จริงเห็นทีต้องซื้อรถใหม่แล้วล่ะเจ้านาย~

 

นักเตะเข้า : ฟาบิโอ บอรินี่ (11.7m) , โจ อัลเลน(16.7m)

นักเตะออก : เดริ์ค เคร้าท์ (880k) , อัลเบอร์โต้ อควิลานี่(1.7m) , มักซี่ โรดรีเกซ(ปล่อยตัว) , แคร็ก เบลามี่(ปล่อยตัว) , สตีเฟ่น ดาบี้(ปล่อยตัว) , ดาวิด อโม(ปล่อยตัว)

เป็นทีมที่พยายามเหลือเกินกับการจะก้าวไปเล่นระบบ Tiki-Taka  ซึ่งต้นตำหรับนั้นอยู่ที่แดนกระทิงดุ  คงต้องดูว่าผู้จัดการทีมใหม่จะพาทีมไปได้ขนาดไหนในเมื่อพวกเขาศูนย์เงินไปมากมายและไม่พร้อมที่จะทิ้งเวลาเล่นๆ 2-3 ปีเฉกเช่นแมนเชสเตอร์ซิตี้ทำ

 

พอหอมปากหอมคอกันทีเดียวกับแปดทีมที่น่าจะชิงชัยกันในตำแหน่งของถ้วยยุโรปน้อยใหญ่  ใครคาดหวังและเชียร์ทีมไหนอย่าลืมส่งกำลังใจให้ทีมรัก  และอย่างลืมนั่งแช่งที่คู่แข่งด้วยนะพวกเธอว์~

 

Credit : รูปภาพจากหลายๆแหล่ง (ผมหาผ่าน Google อะนะ)

 

Views: 1226

Reply to This

Replies to This Discussion

ยอมรับเลยนะครับว่า ตอนแรกช่วงแรกๆที่ทีมใหญ่ๆอย่างเชลซี กับแมนยูเสริมกันเข้ามา

แล้วแมนซิตี้เรายังไม่ได้ใครช่วงเตะปรีซีซั่น แต่ถึงตอนนี้ผม ไม่กลัวล่ะจากที่เห็นทีมซ้อม

อุ่นเครื่องดีวันดีคืน นัดล่าสุดเกมคอมมูนิตี้ชิลเราเปิดหัวได้ดีจริงๆ เอาชนะเชลซีแชมป์เอฟเอคัพ

(พ่วงด้วยแชมเปี้ยนลีก) เชลซีเสริมทัพน่ากลัวก้อจริง แต่ยังไม่ลงตัว อีกอย่าง ผจก คนนี้ยังเล่นมุกเดิมๆ

คาดว่า ใช้ได้กะบางเกมเท่านั้นล่ะครับ ยังงัยเราก้อดูดีมีอนาคต ไม่แปลกใจเลยที่เกจิหลายๆท่านให้เรา

ผมเองก้อคิดเช่นนั้น ส่วนยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก คงต้องดูกันครับ คาดว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าปีที่แล้สแน่นอน

แมนซิตี้สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่เชลจัดหนักจิง

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.