ฟาดแข้ง เป่านกหวีด จะเรียกอย่างไรก็ได้สำหรับการรอคอยที่จะสิ้นสุดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้กับเกมการแข่งขันลีคดังๆของโลกทั้ง พรีเมียร์ลีค บุนเดสลีก้า กัลโช่ซีเรียอา ลาลีก้าสเปน รวมไปถึงในอีกหลายๆประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยนั้นคงต้องโฟกัสไปที่ พรัเมียร์ลีค ซึ่งมีฐานแฟนบอลกว้างขวางที่สุดกันเสียก่อน
ฤดูกาล 2012 – 2013 กำลังจะเริ่มระเบิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เหล่าพ่อค้าแข้งทั้งหลายกลับมาจากการพักผ่อนสุดสำราญ บ้างนอนอยู่บ้าน บ้างไปเที่ยวกับผองเพื่อน บ้างพาครอบครัวไปเที่ยว บ้างควงสาวๆไปเที่ยว แอร๊ย !!~ แต่ท้ายที่สุดก็กลับมารายงานตัวฝึกซ้อมกันทั่วหน้า รวมไปถึงกลับมาเพื่อขอย้ายทีม !? เมื่อมาถึงเวลานี้แล้วใครจะทำอะไรก็ต้องรีบทำเพราะเหลือเวลาเพียงแค่สองสัปดาห์สุดท้ายกับการเสริมขุมกำลังหรือการตัดรายจ่ายที่เป็นส่วนเกินทิ้งไป เรามาเช็คกันเล่นๆในทีมหัวตารางของลีคอังกฤษปีนี้กันดีกว่าว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไรบ้าง
** ค่าเงินที่นับในนี้คือปอนด์ เป็นค่าเงินของอังกฤษครับ ซึ่งจะมีความแข็งค่าของสกุลเงินมากกว่าเงินยูโรครับ**
แมนเชสเตอร์ซิตี้
จั่วหัวต้องให้เกรียติแชมป์เก่าเสียก่อน ด้วยความที่ฤดูกาลที่ผ่านมานั้นแสนดราม่า กระนั้นผลงานที่ยิงสลุด 93 ประตูเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของทีมเป็นอย่างดี ทว่าดูเหมือนซิตี้จะวางแผนลับๆกับการจดๆจ้องนักเตะพ่อค้าแข้งที่จะดึงมาเสริมทีม โดยส่วนใหญ่คาดเดากันที่ว่าจะดึงเหล่าพ่อค้าแข้งหน้าใสวัยกระเตาะเพื่อปั้นให้แกร่งและกลายเป็นกำลังในอนาคต แต่ดูเหมือนว่าตลาดซื้อขายรอบนี้จะมีคนอยากออกมากเสียกว่าอยากเข้านะนี่
นักเตะเข้า : แจ็ค ร็อดเวล (13.2m)
นักเตะออก : เวย์ บริด (ยืมตัว) , วลาดิเมียร์ ไวส์(1.58m) , โอเว่น ฮากริฟ(ปล่อยตัว) , สจร๊วด เทย์เรอ(ปล่อยตัว) , อาเหม็ด เบนาลี่(ปล่อยตัว) , แคร็ค คันนิ่งแฮม(500k)
เรียกได้ว่าแม้จะมีการปล่อยตัวไปเยอะทว่านักเตะเหล่านั้นก็ใช่จะเป็นนักเตะที่เหล่าแฟนบอลซิตี้รู้จักทั่วไปแต่อย่างไร บางคนอาจเข้าขั้นโลกลืมเสียแล้วก็เป็นได้ แต่กระนั้นก็ลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ได้กว่าแสนปอนด์ต่อสัปดาห์ แม้ยังเป็นที่เชื่อว่าจะมีพ่อค้าแข้งเดินเข้ามาบรรเลงฝีเท้ายังถิ่น อิติฮัด สเตเดี่ยม ทว่าหากมองเพียงขุมกำลังเก่าที่ไม่ได้สูญเสียตัวหลักไปก็ยังคงสถานะการเป็นตัวเต็งแชมป์ในฤดูกาลที่กำลังจะถึงอยู่ดี
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ทีมรองแชมป์พกความเครียดแค้นมาเป็นที่พร้อมกระชากคู่แข่งร่วมเมืองที่พวกเขาเหนือกว่ามาตลอดลงจากบัลลังแชมป์ มันเป็นเรื่องน่าขายหน้าแต่ไม่รู้ว่าหากมีหัวข้อให้เลือกระหว่าง ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล สำหรับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีคทางปีศาจแดงจะเลือกจิ้มให้ใครกันแน่(ฮ่าๆ) ต้องบอกว่าปีนี้ยูไนเต็ดเป็นทีมที่มีกำลังขับเคลื่อนสูงเอามากๆในตลาดนักเตะ โดยที่พวกเขายังคงรักษาแนวทางของการเสริมทีมที่มักจะมีความเขี่ยวในด้านการเงินเช่นเดิม
นักเตะเข้า : ชินจิ คากาวะ (14m) , นิค โพลเวล(6.6m)
นักเตะออก : ไมเคิล โอเว่น(ปล่อยตัว) , ปาร์ค จี ซุง(2.7m) , โอลิเวีย นอร์วูด(ปล่อยตัว) , ลีเซ่ บราว์(ยืม) , เซียน แมคกิทรี(ยืม) , เบนท์ อามอท(ยืม) , ฟาบิโอ เดอ ซิลวา(ยืม) , โทมัส คุสแซค(ปล่อยตัว) , แมตตี้ เจมส์(1.1m) , ริคเช่ เด เลน(1.1m) , พอล พ๊อกบา(ปล่อยตัว)
แม้จะเสียออกไปมากกว่านำเข้า แต่หากพิจารณารายชื่อนักเตะที่เดินออกไปแล้วนับไม่ไม่กระทบใดๆทั้งสิ้น กลับกันในด้านการเสริมทีมดูจะเป็นการยดระดับการเชื่อมต่อเกมโดยนำเข้ากองกลางตัวขับเคลื่อนเลือดซามูไรจากเสือเหลืองแดนเยอรมัน และจากช่วงปรีซีซั่นเรียกได้ว่าเขามีช่วงเวลาที่ดีมากๆกับยูไนเต็ดก่อนที่จะได้พบเจอกับเกมโหดของพรีเมียร์ลีคทีเดียว
อาเซนอล
ทีมอันดับ 3 จากปีที่แล้วที่โดนตีตรา ชี้หน้าด่าในช่วงต้นฤดูกาลว่าคงหมดแล้วสำหรับอาเซนอล ยังจำกันได้ถึงการกดดันให้ผู้จัดการทีมขงเบ้งฝรั่งเศสลาออกกัน ทว่าท้ายที่สุดเป็นนักเตะคู่บุญ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่เป็นดั่งจูล่งให้ขงเบ้งได้วางกลศึกพิชิตชัยจนเข้าป้ายอันดับ 3 ไปอย่างที่นักวิจารณ์หลายรายอ้าปากค้างกันทีเดียว
นักเตะเข้า : โอลิเวียร่า ชิรูด์(10.5m) , ลูคัส โพลดอสกี้(10.5m) , ซานติ คาซอล่า(16.7m)
นักเตะออก : คาร์ลอส เวียร่า(3.3m) , มิเกล อัลมูเนีย(ปล่อยตัว) , ไร เมอร์ฟี่(ปล่อยตัว) , กาวิน ฮ้อย(ปล่อยตัว) , เปรโด โบเตโญ่(ปล่อยตัว) , เรียว มิยาอิจิ(ยืม) , เบนิค อโฟเบ(ยืม) , โจล แคมป์เบล(ยืม)
เป็นปีที่น่าทึ่งมากกับการที่อาเซนอลมักจะเป็นเจ้าบุญจ้องแล้วก็จอมต่อราคาจนท้ายที่สุดมักพลาดท่าให้พวกเจ้าบุญทุ่มตัดหน้าฉกไปต่อหน้าต่อตามาหลายปี ทว่าปีนี้พวกเขาตบกียร์เร่งสปีดตั้งแต่นกหวัดการซื้อขายยังไม่ดัง มีการตกลงกันไปก่อนจะจบฤดูกาลก่อนเสียด้วยซ้ำ นอกจากนั้นยังแทบไม่ได้ยินชื่อเสียงการต่อราคาอันลือลั่นของอาเซนอลกันเลยในปีนี้ หรืออาเซนอลจะละทิ้งแนวทางเดิมกันแล้วนะ ?
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
เจ้าไก่เดือยทองตามคำเรียกของแฟนบอลชาวไทยนั้นคว้าอันดับที่ 4 มาครองได้อย่างยากลำบากทว่าเหมือนสวรรค์ไม่มีตาทำให้คำสาปแช่งของเขาไม่เป็นผล เชลซีเข้าป้ายซิวถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคไปแบบโต๊ะเซียนยังหัก!! พร้อมกับข่าวที่น่าจะสร้างความมึนงงกับการปลดผู้จัดการทีมที่น่าจะทำผลงานได้ดีที่สุดในรอบหลายปีของทีมอย่าง แฮรรี่ เรดแนป แล้วได้จัดจ้างอดีตคนตกงานจากค่ายเชลซีมาแทน การก้าวเข้ามาของ อังเดร วีลาส โบอาส มักสร้างกระแสได้เสมอ…….ช่วงปีที่แล้วเวลาเดียวกัน เชลซีเสียเงินไปกว่าสิบล้านเพื่อให้ได้ตัวเขามาครอบครอง ละต้องเสียเงินไปอีกนิดหน่อยกับการปลดเขาออกจากตำแหน่ง(เนื่องจากเชลซีเล่นแง่ไม่จ่ายเงินก้อน กล่าวคือหากจะได้รับค่าชดเชยครบจำนวนทาง โบอาส จะต้องว่างงานเป็นจำนวนเวลาที่ระบุในสัญญาจ้างเดิม เหมือนกับไม่ได้ไล่ออก แต่ไม่ต้องมาทำงาน !!) และในปีนี้เขากลับมาอยู่ใน ลอนดอน เช่นเดิมจะเป็นมหากาพย์ของการ รีเทริน ออฟ เดอะ คิง หรือไม่เราต้องมารอดูกัน
นักเตะเข้า : กลิฟี่ ซิกูสัน(8.8m) , แยน แฟทองเก้นท์(11m)
นักเตะออก : หลุยส์ ซาฮา(ปล่อยตัว) , สตีเว่น พีนาร์(5m) , เล็ดย์ลี่ คิง(รีไทร์), เวนราด ชอร์รูก้า(6.1m) , ไรอัน เนลสัน(ปล่อยตัว) , นิโคร ครานชาร์(6.1m) , เบน อัลวิค(ปล่อยตัว) , โบนกานิ คุมาโล(ยืม) , มันซิโม่ โลนโก(ยืม)
สำหรับเจ้าไก่เดือยทองมันน่าจะแน่แล้วกระมังสำหรับการที่อาจจะมีชื่อของแดนกลางคนสำคัญ ลูก้า โมดริช ในการย้ายออก จากที่เห็นมีการเสริมตำแหน่งเพียงแค่เล็กๆน้อย และยังไม่ได้ตอบโจทย์ในๆกับการแกปัญหาขาดกองหน้าในเลวานี้ได้เลย การจดๆจ้องๆ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ก็ยังดำเนินการต่อไปโดยมีเงื่อนไขของเวลาที่มากพอสำหรับการเจรจาให้สัมฤทธิ์ผล ต้องรอดูว่าการเคลื่อนไหวหลังจากนี้จะมีชื่อสเปอร์ไปเกี่ยวข้องกับนักเตะคนไหนอีก
นิวคาสเซิ่ล
คุณจะเชื่อไหมว่าทีมที่ขึ้นชื่อว่ามีเจ้าของพยายามเร่ขายทีมในช่วง 2 ปีก่อนแต่ขายไม่ออก แล้ว ทำการไล่ผู้จัดการทีมที่เหล่าแฟนบอลยังให้ความชื่นชอบออก กลับไปเอาใครก็ไม่รู้เข้ามาทำงานแทน ใช่มันคือละครของความสำเร็จที่ทุกคนมึนงง สาลิกาดง ก้าวพงาดน่าจะเป็นในรอบหลายปีทีเดียวกับการมีแต้มนำหน้าทีมที่ได้ชื่อว่าเป็น BIG4 เดิมอย่าง เชลซีและลิเวอร์พูล ทั้งๆที่พวกเขาคือทีมที่ไม่ได้อุดมไปด้วยผู้เล่นที่มีชื่อเสียง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังสร้างมันขึ้นมา นิวคาสเซิ่ล จัดการห่อของขวัญส่งกองหน้าราคา 35 ล้านปอนด์ไปให้ลิเวอร์พูลท่ามกลางคำถามในเชิงลบว่าใครจะมาทำประตูให้ทีม และจากนั้นด้วยวาทะอันลือลั่นของผู้จัดการทีม อลัน พาดิวซ์ ที่ประกาศกร้าวว่านักเตะทุกคนล้วนมีค่าตัวนั่นคือการเปิดเผยว่าพวกเขาพร้อมจะปล่อยตัวนักเตะที่เล่นกับทีมทุกคนไม่มีเว้น ทว่าใครจะกล้าลงทุนในเมื่อหลายๆทีมได้เห็นสภาพของกองหน้าค่าตัวแพงของลิเวอร์พูลกันไปแล้ว นิวคาสเซิ่ลสร้างตำนานแนวเถื่อนๆด้วยการบากบั่นต่อสู้ตามสภาพที่เขามี ด้วยแรงสปิริตที่นักเตะอาจรู้สึกว่าเจ้าของทีมนั้นพึ่งพามิได้เสียเลยจนทำความตื่นตะลึงไปทั่ว แม้พวกเขาจะเสียฟอร์มหน่อยที่พ่ายแพ้แทบจะหมดรูปให้กับแชมป์พรีเมียร์ลีคทว่ากับทีมอื่นๆนั้นพวกเขาอันตรายชนิดที่ว่าพร้อมจะคว่ำกระชากไม่ใช่เพียงแค่แต้มเดียวแต่เป็นสามแต้ม
นักเตะเข้า : โรมัน อมาฟิตาโน่(ฟรี) , เกล็น บิกิริมานะ(1.1m) , เคิลทีส กุ๊ด(453k)
นักเตะออก : ปีเตอร์ โรเวนครานซ์(ปล่อยตัว) , ทามัส คาดาร์(ปล่อยตัว) , อลัน สมิธ(ปล่อยตัว) , แดนนี่ กรัททรี่(ปล่อยตัว) , ลีออน เบสท์(3.3m) , ฟาร์เซอร์ ฟอรซ์เตอร์(2.2m) , เจฟ เฮนเดอร์สัน(ปล่อยตัว)
แทบไม่เห็นการขยับที่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่ นอกจากข่าวที่ติดตามจีบอดีตหัวหอกของพวกเขา แอนดี้ แคลโรล กลับมาร่วมทีมอีกครั้งแต่ล่าสุดเหมือนว่าจะล้มเหลวเมื่อลิเวอร์พูลไม่ยอมปล่อยออกมาในราคาถูกเป็นแน่แท้ ต้องมาดูว่าพวกเขาจะสร้างปาฏิหารแบบปีที่แล้วได้หรือไม่อย่างไร ในเมื่อหัวหอกจอมถล่มประตูชาวเซเนลกัลยังคงอยู่ทั้งคู่
เชลซี
ถ้าถามว่ามันเป็นครั้งที่ล้มเหลวที่สุดของเชลซีบนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีคใช่หรือไม่ ผมขอฟันธงว่าแน่นอน แม้จะเอาความหอมหวานของการได้แชมป์ถ้วยใหญ่เช่นยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคมากลบกระแสดังกล่าวไว้แต่เหมือนเจ้าของทีมชาวรัสเซียจะไม่มองข้าม พวกเขาจัดเงินจำนวนมากมายเพื่อดึงแข้งฝีเท้าดีมาเสริมทีม อาจเสริมทีมภายใต้ความเชื่อที่ว่าความบังเอิญมันไม่ได้มีกันบ่อยๆก็เป็นได้
นักเตะเข้า : มาร์โก มาริน(7m) , เอดิน อาซาร์ด(35.2m) , ออสก้า(28.1m)
นักเตะออก : โจเซ่ โบซิงวา(ปล่อยตัว) , โซโลมอน คาลู(ปล่อยตัว) , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา(ปล่อยตัว) , ไร เทเลอร์(ปล่อยตัว)
ดูที่ราคาค่าตัวและชื่อชั้นอาจพูดได้ว่าเชลซีจัดหนักแซงหน้าเหล่าทีมหัวตารางกันไปก่อน หากวัดกันที่เม็ดเงินน่าจะต้องมอบถ้วยให้กับทีมของเสี่ยชาวรัสเซียแต่ทว่าเชลซีมักประสบกับปัญหาที่เงินก็แก้ไขได้ยากยิ่งคือการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีม หรือต้องบอกว่าอยู่ไม่ครบเทอม ที่ออกแนวบ่อยเสียเหลือเกินจนหลายๆคนเริ่มขยาดไม่อยากมารับตำแหน่ง หากมาก็ย่อมมีเงื่อนไขแน่นอน ในแง่ของนักเตะคงไม่มีใครจะมองข้ามการเสริมทีมครั้งนี้ไปได้จะคงเหลือก็แต่คำถามตัวโตๆกับช่องว่าของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เพราะมันเป็นช่องว่างที่ใหญ่มากจนยากที่จะถมได้มิด
เอฟเวอร์ตัน
จะมีกี่ครั้งที่สีนำเงินจะได้เริงร่าในเมืองลิเวอร์พูล ? ด้วยแผนการเล่นของผู้จัดการทีมที่นักเตะเข้าใจเป็นอย่างดี แม้จะมีปัญหาด้านการเงินต้องขายนักเตะของพวกเขาเพื่อมาอุดรอยรั่วประจำ อีกทั้งในปีนี้เขาก็เสียดาวรุ่งที่ปลุกปั้นขึ้นมากับมือให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ไปอีก ต้องมาดูกันยาวๆอีกครั้งว่าพวกเขาจะสามารถทำอันดับได้เหนือกว่าคู่อริร่วมเมืองหรือไม่อย่างไร
นักเตะเข้า : สตีเฟ่น เพียร์นา(5m) , สตีเฟ่น ไนล์สมิธ(ฟรี)
นักเตะออก : มาคุส ฮันเนมาน(แขวนรองเท้า) , ทีม เคฮิล(1.1m) , แจ็ค ร็อดเวล(13.2m) , โจเซป โยโบ(2.2m) , เจมส์ แมคฟาเด้นท์(ปล่อยตัว)
น่าจะได้เงินกอนโดตไปบริหารทีมเลยทีเดียว ทว่าด้วยจำนวนนักเตะที่มีน้อยนิดคงต้องมาดูกันว่าพวกเขาจะซื้อแข้งรายใหม่มาเสริมหรืออาจเลือกดันนักเตะดาวรุ่งตามสไตล์กันแน่
ลิเวอร์พูล
ผมยอมรับว่าไม่ค่อยรู้ประวัติศาสตร์ของทีมนี้เท่าไหร่นัก เว้นไว้เรื่องที่ได้แชมป์ 18 สมัย ทว่านี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ดูกีฬาลูกหนังที่แพร่หลายนี้แล้วได้เห็นว่าทีมลิเวอร์พูลคว้าอันดับที่ 8 ไปครองหลังจบการแข่งขัน 38 นัด มันคงแทบเอาหน้ามุดหนีไปไว้ที่ไหนสักแห่งกันเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุใดกับคุณภาพทีมที่มีนักเตะติดทีมชาติกว่าครึ่งทีมถึงทำอันดับได้น่าอับอายเพียงนี้ เหตุดังกล่าวทำให้เกิดการสังเวยความอ่อนหัดและผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดการทีมและสต๊าฟมากหน้าหลายตาต่างโดนปลดทีละรายเรียกได้ว่าเหมือนรถที่ยกเครื่องใหม่และพร้อมจะขัดเงาด้วยการทำเข้านักเตะใหม่ๆ รอบนี้ถ้าเครื่องยังแรงไม่จริงเห็นทีต้องซื้อรถใหม่แล้วล่ะเจ้านาย~
นักเตะเข้า : ฟาบิโอ บอรินี่ (11.7m) , โจ อัลเลน(16.7m)
นักเตะออก : เดริ์ค เคร้าท์ (880k) , อัลเบอร์โต้ อควิลานี่(1.7m) , มักซี่ โรดรีเกซ(ปล่อยตัว) , แคร็ก เบลามี่(ปล่อยตัว) , สตีเฟ่น ดาบี้(ปล่อยตัว) , ดาวิด อโม(ปล่อยตัว)
เป็นทีมที่พยายามเหลือเกินกับการจะก้าวไปเล่นระบบ Tiki-Taka ซึ่งต้นตำหรับนั้นอยู่ที่แดนกระทิงดุ คงต้องดูว่าผู้จัดการทีมใหม่จะพาทีมไปได้ขนาดไหนในเมื่อพวกเขาศูนย์เงินไปมากมายและไม่พร้อมที่จะทิ้งเวลาเล่นๆ 2-3 ปีเฉกเช่นแมนเชสเตอร์ซิตี้ทำ
พอหอมปากหอมคอกันทีเดียวกับแปดทีมที่น่าจะชิงชัยกันในตำแหน่งของถ้วยยุโรปน้อยใหญ่ ใครคาดหวังและเชียร์ทีมไหนอย่าลืมส่งกำลังใจให้ทีมรัก และอย่างลืมนั่งแช่งที่คู่แข่งด้วยนะพวกเธอว์~
Credit : รูปภาพจากหลายๆแหล่ง (ผมหาผ่าน Google อะนะ)
Tags:
ยอมรับเลยนะครับว่า ตอนแรกช่วงแรกๆที่ทีมใหญ่ๆอย่างเชลซี กับแมนยูเสริมกันเข้ามา
แล้วแมนซิตี้เรายังไม่ได้ใครช่วงเตะปรีซีซั่น แต่ถึงตอนนี้ผม ไม่กลัวล่ะจากที่เห็นทีมซ้อม
อุ่นเครื่องดีวันดีคืน นัดล่าสุดเกมคอมมูนิตี้ชิลเราเปิดหัวได้ดีจริงๆ เอาชนะเชลซีแชมป์เอฟเอคัพ
(พ่วงด้วยแชมเปี้ยนลีก) เชลซีเสริมทัพน่ากลัวก้อจริง แต่ยังไม่ลงตัว อีกอย่าง ผจก คนนี้ยังเล่นมุกเดิมๆ
คาดว่า ใช้ได้กะบางเกมเท่านั้นล่ะครับ ยังงัยเราก้อดูดีมีอนาคต ไม่แปลกใจเลยที่เกจิหลายๆท่านให้เรา
ผมเองก้อคิดเช่นนั้น ส่วนยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก คงต้องดูกันครับ คาดว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าปีที่แล้สแน่นอน
แมนซิตี้สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่เชลจัดหนักจิง
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by