เล่นไปเล่นมา แมนฯซิตี้ ทำท่าว่าจะเป็นทีมเรือใบสมฉายาคือ ลอยเท้งเต้งไม่แล่นฉิวอย่างที่ตั้งเป้าไว้เลยซักนิด
ซิตี้แพ้ถึง 5 จาก 7 นัดหลังในลีก ฟอร์มนอกบ้านย่ำแย่แพ้ซะ 4 จาก 6 นัด เกมรับเสียประตูง่าย พลาดแบบหมูตู้ ต่างจากช่วงแรกๆ ที่ สเวน โกรัน อีริคส์สัน เข้ามาคุมทีมเมื่อฤดูที่แล้วลิบลับ
ทีมชุดใหม่ในยุคกุนซือ มาร์ก ฮิวจ์ส เน้นเกมบุกมากขึ้น แผนการเล่นก็เปลี่ยนมาใช้แนวรุกเรียงแถวหน้ากระดาน 4-3-3 ซึ่งถือว่าใช้ได้ อย่างน้อยจำนวนประตูของ โรบินโญ่ ที่ซัดไปแล้ว 7 ลูกก็ยืนยันว่า แมนฯซิตี้บุกเก่งพอตัว
แต่ถ้าเกมรับยังเปื่อย เล่นเอาแต้มไม่ชัวร์ ฟอร์มในบ้าน-นอกบ้านแกว่งมากอย่างนี้ เรือใบสีฟ้าคงไปไม่ถึงไหน ยิ่งจุดหมายที่เคยตั้งไว้ต้องได้เล่นบอลยุโรปหรือถ้าให้แจ๋วคือ ซิวโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก มองสภาพตอนนี้แทบจะบอกได้เลยว่า ยากมาก
ไอ้ครั้นจะสรุปว่า ฝันไปเถอะก็แรงไปหน่อย
แมนฯซิตี้เสียแต้มมากเกินไป ยิ่งกว่านั้น มาร์ก ฮิวจ์ส ยังวางกองหลังไม่ลงตัว พยายามเปลี่ยนเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดแล้วก็ยังหาไม่เจอ คนที่เคยไว้ใจอย่าง ริชาร์ด ดันน์ ฟอร์มตก พวกที่ซื้อมาใหม่หลายคนก็ยังปรับตัวไม่เรียบร้อย
สภาพแบบนี้น่าหนักใจ มองเผินๆ คือ ตัวยังดีแต่กุนซือจัดให้เข้าที่เข้าทางไม่ได้
ผมเองบอกตามตรงว่า ชักไม่เชื่อมือมาร์ก ฮิวจ์ส
ถ้าเป้าหมายอยู่แค่กลางๆ อันดับเลขตัวเดียว ลุ้นไปยูฟ่าคัพกับหวังแชมป์บอลถ้วย ฮิวจ์สก็คงพอได้ แต่ไม่ใช่ทำทีมในสเกลใหญ่เป็นคนดูแลเมกะโปรเจ็คต์ แมนฯซิตี้ยุคอาบูดาบี เป็นเจ้าของ ผลงานต้องไปให้ไกลสุดสุดแบบนี้
แม้ว่า ชีค มันซูร์ เจ้าของทีมกับบอร์ดยังไว้ใจเขา แต่ดูแววแล้วไม่น่าอยู่นาน นอกจากจะได้จุดเปลี่ยนสำคัญ "ปล่อยของ" ให้เห็นชัดๆ พาทีมชนะบิ๊กแมตช์ซัก 2-3 เกมเท่านั้น
ที่แน่ๆ, อาทิตย์นี้ฮิวจ์สต้องทำทุกอย่างให้แมนฯซิตี้บุกชนะฮัลล์สถานเดียว
ซิตี้ต้องชนะเพื่อหยุดเลือด แต่ถ้าแพ้ขึ้นมามันก็หายนะชัดๆ
สภาพของทั้งสองทีมย่ำแย่พอกัน แพ้มา 3 นัดรวดเหมือนกัน ต่างกันตรงฮัลล์แพ้ทีมอย่าง เชลซี แมนฯยู โบลตัน และไม่มีใครคาดหวังอะไรมาก เก็บได้ 20 แต้มตั้งแต่โค้งแรกก็น่าทึ่งมากแล้ว
แมนฯซิตี้เป็นอีกกรณีนอกจากผลงานดิ่งเหว บรรยากาศในสโมสรยังตึงๆ ด้วยข่าวไม่ดี นักเตะขาดวินัย เอลาโน่ มีปัญหากับมาร์ก ฮิวจ์ส, โช หนีเที่ยวกลางคืน แถมสื่อยังเปิดประเด็นเรื่องทีมให้ความสนใจ โชเซ่ มูรินโญ่ อีกต่างหาก
ฮิวจ์สต้องหยุดช่วงราหูเข้าแทรกด้วย 3 แต้มในเกมนี้ ไม่งั้นสัปดาห์หน้าก็จะมีข่าวใหม่ๆ ออกมาอีก และสุดท้ายถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทีมงานอาบูดาบีก็จะถูกมองในที่สุดว่า รวยซะเปล่าแต่ไร้น้ำยา ไม่เป็นมืออาชีพในวงการฟุตบอล
ติดตามสถานการณ์ในค่ายเรือใบให้ดี ตอนนี้มันน่าสนุกกว่าเรื่องของเชลซี, ลิเวอร์พูลที่เจอทีมเล็ก ไม่ค่อยมีเสน่ห์ให้พูดถึงมากนัก