ทีมยอดเยี่ยมที่ไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก
ทีมยอดเยี่ยมที่ไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก
สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กัปตันไดนาโมยี่ห้อลิเวอร์พูลประกาศชัดปีนี้ขอลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอันเป็นรายการเดียวที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนตลอดชีวิตค้าแข้ง อย่างไรก็ตามยังมียอดนักเตะระดับแถวหน้าของวงการอยู่หลายคนที่ไม่เคยเฉียดใกล้โทรฟี่แห่งเจ้าลูกหนังบนเกาะอังกฤษจนสามารถจัดเป็นทีมได้ดังต่อไปนี้
ผู้รักษาประตู - เชย์ กิฟเว่น
ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของจอมหนึบชาวไอริชถูกจัดอยู่แถวหน้าของวงการสำหรับตำแหน่งนายทวารฝีมือไม่เป็นสองรองใคร กิฟเว่น สร้างชื่อตัวเองให้เป็นที่รู้จักสมัยเฝ้าเสาให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ฝีมือดีถึงขนาดที่ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมมหาเศรษฐียอมควัก 6 ล้านปอนด์ดึงมาเฝ้าเสาก่อนสูญเสียตัวจริงให้ โจ ฮาร์ท น่าเสียดายหลังเขาตัดสินใจย้ายไป แอสตัน วิลล่า 1 ปีให้หลัง "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง
เซนเตอร์ฮาล์ฟ - เจมี่ คาร์ราเกอร์
กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของลิเวอร์พูลที่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างในฐานะหัวใจนักสู้ผู้ไม่เคยยอมแพ้ทั้งในช่วงแรกโดนโจมตีอย่างหนักถึงความเอ๋อจนทีมเสียประตูอย่างไม่ควรจะเสียจนพัฒนาฝีเท้ายึดตำแหน่งตัวจริงถาวรกระทั่งประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครองเมื่อปี 2005 ก่อนตัดสินใจรีไทร์เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา กระทั่งปีนี้เขาได้แต่มองตาปริบๆดู "หงส์แดง" ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัว
เซนเตอร์ฮาล์ฟ - มาร์กแซล เดอไซยี่
นี่คืออีกหนึ่งตำนานทีมชาติฝรั่งเศสที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในระดับสโมสรซิวแชมป์เมเจอร์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 2 สมัยกับ มาร์กเซย และ เอซี มิลาน รวมถึงแชมป์สคูเด็ตโต้ 2 ครั้ง ส่วนทีมชาติเคยซิวแชมป์โลกกับแชมป์ยุโรปมาแล้ว แต่เป็นที่น่าเสียดายตลอดระยะเวลาค้าแข้งให้ "สิงห์บลูส์" ระหว่างปี 1998-2004 ไม่มีโอกาสสัมผัสโทรฟี่พรีเมียร์ก่อนที่ 1 ปีให้หลังจากเขาย้ายออกไป โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือไร้เพื่อนพายอดทีมแห่งกรุงลอนดอนฉลองชูถ้วย
เซนเตอร์ฮาล์ฟ - เล็ดลี่ย์ คิง
ปราการหลังอิงลิชชนผู้นี้ได้รับการยกย่องว่าเซนเตอร์ฮาล์ฟที่น่าจับตามองที่สุดและถือเป็นความหวังของประเทศชาติ น่าเสียดายที่ตลอดชีวิตค้าแข้งของเขาสภาพร่างกายเปราะบางเหลือเกินเจ็บบ่อยลงเล่น 2 นัดเจ็บไปอีก 3 เกมเป็นอย่างนี้เรื่อยมา ว่ากันว่าหากสุขภาพเขาแข็งแรงบางทีไม่แน่เขาอาจย้ายไปเล่นให้ทีมใหญ่ๆอย่าง แมนฯยูไนเต็ด หรือ เชลซี ที่เคยแสดงความสนใจอาจทำให้เขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเหมือนคนอื่นๆบ้าง
ปีกซ้าย - สตีฟ แม็คมานามาน
มิดฟิลด์ผมหยิกหยองผู้นี้อยู่ในยุคเจเนเรชั่นของ "หงส์แดง" ที่น่าจับตามองในสมัยนั้น ด้วยพรสวรรค์ติดตัวทั้งลีลากระชากลากเลื้อย,การสร้างสรรค์เกมรุกแถมสามารถสอดขึ้นมาพังประตูได้อีกด้วย น่าเสียดายตลอด 9 ปีในแอนฟิลด์ได้เพียงแค่แชมป์เอฟเอ คัพและลีกคัพเท่านั้นก่อนข้ามฟากไป เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จล้นหลามมีส่วนร่วมในแชมป์ลา ลีกา 2 สมัยและแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ครั้ง
ปีกขวา - แกเร็ธ เบล
แม้อดีตซูเปอร์สตาร์ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์แจ้งเกิดในตำแหน่งปีกซ้ายอันเป็นบทบาทที่สร้างชื่อและโดดเด่นเหลือเกินจนเมื่อปีที่แล้วคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมทั้่งสองสถาบันกระทั่ง เรอัล มาดริด ยอมทุ่มเป็นสถิติโลกเพื่อให้ได้ลายเซ็น ขณะที่ปัจจุบัน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซืออิตาเลี่ยนจับ เบล โยกไปเล่นปีกขวาและทำหน้าที่ได้ดีเสียด้วย
มิดฟิลด์ตัวกลาง - เชสก์ ฟาเบรกัส
อดีตกัปตันทีมอาร์เซน่อลถูกยกย่องว่าเป็นศิษย์เอกของ อาร์แซน เวนเกอร์ สำหรับ เชสก์ เข้าใจปรัชญาเกมรุกของกุนซือเมืองน้ำหอมอย่างลึกซึ้งรวมถึงเทคนิค,แท็กติกส์,สปิริตและเล่นได้เป็นธรรมชาติ แต่น่าเสียดายที่ "ปืนใหญ่" ร้างแชมป์มานานเกินไปจนในที่สุดแข้งสแปนิชทนไม่ไหวขอกลับคืนสู่ บาร์เซโลน่า
มิดฟิลด์ตัวกลาง - สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด
กัปตันไดนาโมได้รับการยกย่องจาก ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศสยกให้เป็นหนึ่งในแข้งระดับโลก "สตีวีจี" ถือเป็นแบบอย่างที่ดีซึ่งนักเตะรุ่นหลังควรทำตามในแง่ของความซื่อสัตย์จงรักภักดีรับใช้ ลิเวอร์พูล สโมสรแรกและสโมสรเดียวเท่านั้น หลังจากคว้าแชมป์ทั้งในและนอกประเทศโดยเฉพาะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ กับปาฎิหาริย์ที่กรุงอิสตันบูล ปีนี้ เจอร์ราร์ด เขยิบเข้าไปใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากกว่าครั้งไหนๆ
ศูนย์หน้า - จานฟรังโก้ โซล่า
ดาวยิงฉบับกระเป๋าถือเป็นนักเตะต่างชาติที่เข้ามาสร้างสีสันต่อวงการฟุตบอลอังกฤษต้องฮือฮาและทึ่งในความสามารถแม้เขาเป็นกองหน้าตัวเล็กมีส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 6 นิ้วแต่ชดเชยด้วยความแคล่วคล่องว่องไว,ไวพริบปฎิภาณ,การเล่นอันชาญฉลาดและความแข็งแกร่งซึ่งสามารถสู้กับกองหลังฝั่งตรงข้ามตัวใหญ่ๆ น่าเสียดายที่ โซล่า อยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ 7 ปีไม่เคยได้ชูโทรฟี่เลยไม่เหมือนยุคนี้ที่ "สิงห์บลูส์" กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีกลุ้นแชมป์แทบทุกปี
ศูนย์หน้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส
ในแง่ของเหรียญรางวัลหอกแก้มแดงถือเป็นแข้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนนึงได้แชมป์เวิลด์ คัพและแชมป์ยุโรปกับทีมชาติสเปนรวมถึงร่วมเป็นส่วนนึงในขุนพลสิงห์บลูส์ชุดสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครอง ขาดเพียงแค่พรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่เจ้าตัวถวิลหาอย่างมากอันเป็นสาเหตุนึงที่ตัดสินใจย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล มาเล่นในกรุงลอนดอน และปีนี้อาจจะสมหวังเพราะณ ปัจจุบันทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ นำเป็นจ่าฝูง
ศูนย์หน้า - ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
ไมน่าแปลกใจทำไมเดอะค็อปทั้งหลายยกให้เป็นพระเจ้าของพวกเขา สำหรับอดีตซูเปอร์สตาร์หงส์แดงแปะจมูกถือเป็นจิ๊กซอว์สุดท้ายเข้ามาเติมเต็มระบบการเล่น 3-4-3 โดยเฉพาะประสิทธิภาพการพังประตูไม่เป็นสองรองใครตลอดการเล่น ลิเวอร์พูล,ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจาะตาข่าย 230 ตุงบนเกาะอังกฤษ
ผู้รักษาประตู - เชย์ กิฟเว่น
ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของจอมหนึบชาวไอริชถูกจัดอยู่แถวหน้าของวงการสำหรับตำแหน่งนายทวารฝีมือไม่เป็นสองรองใคร กิฟเว่น สร้างชื่อตัวเองให้เป็นที่รู้จักสมัยเฝ้าเสาให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ฝีมือดีถึงขนาดที่ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมมหาเศรษฐียอมควัก 6 ล้านปอนด์ดึงมาเฝ้าเสาก่อนสูญเสียตัวจริงให้ โจ ฮาร์ท น่าเสียดายหลังเขาตัดสินใจย้ายไป แอสตัน วิลล่า 1 ปีให้หลัง "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง
เซนเตอร์ฮาล์ฟ - เจมี่ คาร์ราเกอร์
กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของลิเวอร์พูลที่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างในฐานะหัวใจนักสู้ผู้ไม่เคยยอมแพ้ทั้งในช่วงแรกโดนโจมตีอย่างหนักถึงความเอ๋อจนทีมเสียประตูอย่างไม่ควรจะเสียจนพัฒนาฝีเท้ายึดตำแหน่งตัวจริงถาวรกระทั่งประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครองเมื่อปี 2005 ก่อนตัดสินใจรีไทร์เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา กระทั่งปีนี้เขาได้แต่มองตาปริบๆดู "หงส์แดง" ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัว
เซนเตอร์ฮาล์ฟ - มาร์กแซล เดอไซยี่
นี่คืออีกหนึ่งตำนานทีมชาติฝรั่งเศสที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในระดับสโมสรซิวแชมป์เมเจอร์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 2 สมัยกับ มาร์กเซย และ เอซี มิลาน รวมถึงแชมป์สคูเด็ตโต้ 2 ครั้ง ส่วนทีมชาติเคยซิวแชมป์โลกกับแชมป์ยุโรปมาแล้ว แต่เป็นที่น่าเสียดายตลอดระยะเวลาค้าแข้งให้ "สิงห์บลูส์" ระหว่างปี 1998-2004 ไม่มีโอกาสสัมผัสโทรฟี่พรีเมียร์ก่อนที่ 1 ปีให้หลังจากเขาย้ายออกไป โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือไร้เพื่อนพายอดทีมแห่งกรุงลอนดอนฉลองชูถ้วย
เซนเตอร์ฮาล์ฟ - เล็ดลี่ย์ คิง
ปราการหลังอิงลิชชนผู้นี้ได้รับการยกย่องว่าเซนเตอร์ฮาล์ฟที่น่าจับตามองที่สุดและถือเป็นความหวังของประเทศชาติ น่าเสียดายที่ตลอดชีวิตค้าแข้งของเขาสภาพร่างกายเปราะบางเหลือเกินเจ็บบ่อยลงเล่น 2 นัดเจ็บไปอีก 3 เกมเป็นอย่างนี้เรื่อยมา ว่ากันว่าหากสุขภาพเขาแข็งแรงบางทีไม่แน่เขาอาจย้ายไปเล่นให้ทีมใหญ่ๆอย่าง แมนฯยูไนเต็ด หรือ เชลซี ที่เคยแสดงความสนใจอาจทำให้เขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเหมือนคนอื่นๆบ้าง
ปีกซ้าย - สตีฟ แม็คมานามาน
มิดฟิลด์ผมหยิกหยองผู้นี้อยู่ในยุคเจเนเรชั่นของ "หงส์แดง" ที่น่าจับตามองในสมัยนั้น ด้วยพรสวรรค์ติดตัวทั้งลีลากระชากลากเลื้อย,การสร้างสรรค์เกมรุกแถมสามารถสอดขึ้นมาพังประตูได้อีกด้วย น่าเสียดายตลอด 9 ปีในแอนฟิลด์ได้เพียงแค่แชมป์เอฟเอ คัพและลีกคัพเท่านั้นก่อนข้ามฟากไป เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จล้นหลามมีส่วนร่วมในแชมป์ลา ลีกา 2 สมัยและแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ครั้ง
ปีกขวา - แกเร็ธ เบล
แม้อดีตซูเปอร์สตาร์ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์แจ้งเกิดในตำแหน่งปีกซ้ายอันเป็นบทบาทที่สร้างชื่อและโดดเด่นเหลือเกินจนเมื่อปีที่แล้วคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมทั้่งสองสถาบันกระทั่ง เรอัล มาดริด ยอมทุ่มเป็นสถิติโลกเพื่อให้ได้ลายเซ็น ขณะที่ปัจจุบัน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซืออิตาเลี่ยนจับ เบล โยกไปเล่นปีกขวาและทำหน้าที่ได้ดีเสียด้วย
มิดฟิลด์ตัวกลาง - เชสก์ ฟาเบรกัส
อดีตกัปตันทีมอาร์เซน่อลถูกยกย่องว่าเป็นศิษย์เอกของ อาร์แซน เวนเกอร์ สำหรับ เชสก์ เข้าใจปรัชญาเกมรุกของกุนซือเมืองน้ำหอมอย่างลึกซึ้งรวมถึงเทคนิค,แท็กติกส์,สปิริตและเล่นได้เป็นธรรมชาติ แต่น่าเสียดายที่ "ปืนใหญ่" ร้างแชมป์มานานเกินไปจนในที่สุดแข้งสแปนิชทนไม่ไหวขอกลับคืนสู่ บาร์เซโลน่า
มิดฟิลด์ตัวกลาง - สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด
กัปตันไดนาโมได้รับการยกย่องจาก ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศสยกให้เป็นหนึ่งในแข้งระดับโลก "สตีวีจี" ถือเป็นแบบอย่างที่ดีซึ่งนักเตะรุ่นหลังควรทำตามในแง่ของความซื่อสัตย์จงรักภักดีรับใช้ ลิเวอร์พูล สโมสรแรกและสโมสรเดียวเท่านั้น หลังจากคว้าแชมป์ทั้งในและนอกประเทศโดยเฉพาะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ กับปาฎิหาริย์ที่กรุงอิสตันบูล ปีนี้ เจอร์ราร์ด เขยิบเข้าไปใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากกว่าครั้งไหนๆ
ศูนย์หน้า - จานฟรังโก้ โซล่า
ดาวยิงฉบับกระเป๋าถือเป็นนักเตะต่างชาติที่เข้ามาสร้างสีสันต่อวงการฟุตบอลอังกฤษต้องฮือฮาและทึ่งในความสามารถแม้เขาเป็นกองหน้าตัวเล็กมีส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 6 นิ้วแต่ชดเชยด้วยความแคล่วคล่องว่องไว,ไวพริบปฎิภาณ,การเล่นอันชาญฉลาดและความแข็งแกร่งซึ่งสามารถสู้กับกองหลังฝั่งตรงข้ามตัวใหญ่ๆ น่าเสียดายที่ โซล่า อยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ 7 ปีไม่เคยได้ชูโทรฟี่เลยไม่เหมือนยุคนี้ที่ "สิงห์บลูส์" กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีกลุ้นแชมป์แทบทุกปี
ศูนย์หน้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส
ในแง่ของเหรียญรางวัลหอกแก้มแดงถือเป็นแข้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนนึงได้แชมป์เวิลด์ คัพและแชมป์ยุโรปกับทีมชาติสเปนรวมถึงร่วมเป็นส่วนนึงในขุนพลสิงห์บลูส์ชุดสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครอง ขาดเพียงแค่พรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่เจ้าตัวถวิลหาอย่างมากอันเป็นสาเหตุนึงที่ตัดสินใจย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล มาเล่นในกรุงลอนดอน และปีนี้อาจจะสมหวังเพราะณ ปัจจุบันทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ นำเป็นจ่าฝูง
ศูนย์หน้า - ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
ไมน่าแปลกใจทำไมเดอะค็อปทั้งหลายยกให้เป็นพระเจ้าของพวกเขา สำหรับอดีตซูเปอร์สตาร์หงส์แดงแปะจมูกถือเป็นจิ๊กซอว์สุดท้ายเข้ามาเติมเต็มระบบการเล่น 3-4-3 โดยเฉพาะประสิทธิภาพการพังประตูไม่เป็นสองรองใครตลอดการเล่น ลิเวอร์พูล,ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจาะตาข่าย 230 ตุงบนเกาะอังกฤษ
Replies to This Discussion
-
Permalink Reply by Boy hardcore city on
-
ช่วงนี้ปิดฤดูกาลครับ เลยเอามาแก้เหงา อิอิ
-
-
น้าเชย์ อยู่ต่อสักปีก็ได้แล้ว เศร้าจริง
© 2024 Created by thaiMCFC.
Powered by
