เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทอตแนม ฮอตสเปอร์ มีงานฉลองครบรอบ 125 ปี ของสโมสร
ก่อนเกมพบกับแอสตัน วิลลา มีขบวนพาเหรดอดีตนักเตะและผู้จัดการทีม นำความคึกคักมาสู่ไวท์ ฮาร์ทเลน
ผลการแข่งขันกลับน่าผิดหวัง มาร์ติน โอนีล กุนซือแอสตัน วิลลา เกือบนำทีมมาทำลายงานฉลองของเจ้าถิ่น หลังจากยิงนำห่างถึง 4-1
มาร์ติน โยล บิ๊กบอสไก่เดือยทองถึงกับกุมขมับ สีหน้าเครียด อาจจะนั่งนึกถึงอนาคตของตัวเองมากกว่าเกมในสนาม
แม้นักเตะสเปอร์สจะรวมพลังฮึดไล่ตีเสมอ 4-4 ในช่วงทดเวลาเจ็บ สร้างความยินดีปรีดาให้กองเชียร์ที่นำธงสีฟ้าขาวมาโบกสะบัด ราวกับคว้าชัยชนะในบอลถ้วย
แต่ภาพรวมก็ยังเป็นเรื่องที่น่าหนักใจอยู่ดี โยลอาจโดนเด้งได้ทุกเมื่อ ถ้าเกมรับยังรั่วแบบนี้
โดยเฉพาะพอล โรบินสัน ที่มีส่วนในการเสียประตู 2 ลูก ดูแล้วไม่สมกับดีกรีนายทวารมือ 1 ทีมชาติอังกฤษเลย
หากเป็นทีมที่ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูง ก็ไม่ น่าวิตกอะไร แต่ผู้บริหารสเปอร์สต้องการเห็นทีมไปเล่นแชมเปียนส์ลีกให้ได้ หลังจากคว้าอันดับ 5 มา 2 ปีติดต่อกัน
นักเตะสเปอร์สยังเป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็ก หนุนหลังโยล ส่วนใหญ่เคารพและยอมรับฝีมือของโยล แต่นั่นไม่สำคัญเท่าผลงานที่ออกมา
โยลใช้เงินสโมสรไปมากในฤดูกาลนี้ การซื้อ ดาร์เรน เบนท์ มาจากชาร์ลตัน 16 ล้านปอนด์ ทำท่าจะไม่คุ้ม
ถึงที่สุดแล้วเมื่อต้องการประตู โยลต้องพึ่ง เจอร์เมน เดโฟ ที่ลงสนามเมื่อไหร่ มีโอกาสทำสกอร์ มากกว่าเบนท์
ในขณะที่ตัวเต็งสอดแทรก “บิ๊กโฟร์” อย่างสเปอร์ส ผลงานตกต่ำผิดคาด
“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาแรงเหลือเชื่อเช่นกัน
ผลงานการคัดเลือกนักเตะเข้าสู่ทีมของสเวน โกรัน อีริกสัน ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย
คอลัมนิสต์ในอังกฤษที่เคยโจมตีอีริกสันสมัยคุมทีมชาติอังกฤษ ถึงกับแสดงสปิริตเขียนคอลัมน์ ขอโทษ ที่ปรามาสฝีมือของกุนซือชาวสวีดิชผู้นี้
โดยเฉพาะเอลาโน มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลที่สเวนไปคว้ามาจากชัคตาร์ โดเนสต์ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ โชว์ฟอร์มเป็น “เพลย์เมกเกอร์” หรือจอมทัพในแดนกลางได้อย่างสุดยอด
หากดูฟอร์มของแมนฯยู ที่ทำประตูคู่แข่งไม่ค่อยได้ นักเตะอย่างเอลาโนนี่ล่ะครับ ที่เหมาะจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกของแมนฯยู
คือ สามารถทำชิ่ง จ่ายบอลตามช่องให้เพื่อน เล่นง่ายๆ สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้ตลอด เวลา แถมยังยิงฟรีคิกได้เฉียบขาดอีกด้วย
แต่เฟอร์กี้เลือกที่จะซื้อแอนเดอร์สัน นักเตะแซมบ้ามาเพื่อเล่นตำแหน่งนี้ ด้วยค่าตัวถึง 17 ล้านปอนด์ มากกว่าเอลาโนเท่าตัว
นอกจากเอลาโนแล้ว นักเตะรายอื่นๆในทีมก็เริ่มปรับตัวเล่นกันอย่างเข้าขามากขึ้นเรื่อยๆ
ผมเคยเขียนไปว่า เกมนอกบ้าน เรือใบอาจจะชนะคู่แข่งยากสักหน่อย แต่เกมในบ้านต้องเน้น 3 แต้ม ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ 12 แต้มเต็มจากการเล่นที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ 4 นัด รั้งอันดับ 3 ของตารางอย่างเท่
ในจังหวะที่เชลซีแผ่ว เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับสเปอร์สที่หวังจะติด 1 ใน 4 ไปเล่นแชมเปียนส์ ลีก กลับปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไป
นอกเหนือจาก “บิ๊กโฟร์” ที่ประกอบด้วย แมนฯยู, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล และเชลซี ผมยังมองไม่เห็นว่า ทีมไหนจะเหนือกว่าแมนฯซิตี้
ทีมเดียวเท่านั้นที่มีศักยภาพที่จะทำแต้มเขี่ยเรือใบหลุดจาก 4 อันดับแรก นั่นก็คือ เชลซี
แต่ถ้าเชลซีไม่ฟื้น หรือพลิกสถานการณ์ช้าเกินไป ไม่แน่เหมือนกันนะครับ แมนฯซิตี้อาจทำเซอร์ไพรส์ไปเล่นแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้าก็เป็นได้.
โต้ บ้านแหลม
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ