เมื่อคืนผมได้ติดตามเกมนิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่จะเปิดทีวีช่อง 7 สี ทิ้งไว้เพื่อดูฟุตบอลรายการ AFF Suzuki Cup 2008 ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเวียดนาม เสียมากกว่า ก็คงจะแสดงความคิดเห็นต่อฟอร์มการเล่นของทีม เรือใบสีฟ้า ซึ่งลงเตะในเวลาไล่เลี่ยกันไม่ได้มาก แต่กับผลที่ออกมา(เสมอ1-1)ในการบุกเยือน ฟูแล่ม ต้องบอกว่าเป็นผลการแข่งขันที่น่าพอใจในระดับหนึ่งแล้ว
จริงอยู่ ถ้าคุณต้องการเห็นทีมขึ้นไปนั่งแท่นบนหัวตารางเทียบเคียงกับทีมยักษ์ใหญ่แล้ว การเจอกับทีมอย่าง ฟูแล่ม จำเป็นต้องเก็บ 3 คะแนนเพียวๆเท่านั้น เพียงแต่สถานะของ แมน ซิตี้ ในเวลานี้ยังไม่ใช่ทีมใหญ่นี่ครับ เป็นเพียงทีมระดับกลางๆ ไม่ต่างจากฟูแล่มมากนัก
การแสดงความมุ่งมั่นภายใต้ทัศนคติที่ต้องการเอาชนะคู่แข่งในทุกๆเกมส์เป็นสิ่งดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูศักยภาพของทีมโดยรวมด้วย อีกทั้งการยอมรับว่า ฟูแล่ม มิใช่หมูให้เชือดง่ายๆ ก็เป็นอะไรที่เราควรให้เครดิต ฟูแล่มเป็นทีมที่เล่นในบ้านได้ดีครับ เคยเอาชนะ อาเซน่อล(ฟูลทีม) อีกทั้งยังเคย เสมอ ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงมาแล้วอีกต่างหาก
แมน ซิตี้ ในทุกวันนี้มีความทะเยอทะยานเหลือเฟือ จากเจ้าของทีมผ่องถ่ายไปถึงแฟนบอล ความคาดหวังจึงสูงลิบ เจอทีมเล็กต้องชนะสถานเดียว เจอทีมใหญ่ก็หวังชนะอีกนั่นแหละ เพียงแต่อาจมียืดหยุ่นหน่อยว่าเจ๊าก็ยังดีวะ เหล่านี้เป็นมุมมองของแฟนๆที่คุ้นเคยกับบรรยากาศการเชียร์ทีมใหญ่ๆมาก่อนแล้วทั้งนั้น คุ้นเคยกับชัยชนะ(จริงไหม???) แต่การเชียร์ทีมเรือใบเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ต่างออกไป ถึงเวลานี้เราควรตระหนักและทำใจให้คุ้นเคยกับความพ่ายแพ้เอาไว้บ้าง
มาร์ค ฮิวจ์ อาจทำผลงานได้ดีเมื่อครั้งยังคุม แบล๊คเบิร์น แต่นั่นก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างออกไป สไตล์ของ ฮิวจ์ รู้ๆกันว่า เน้นความแข็งแกร่งของร่างกายเข้าบดขยี้คู่แข่ง ทรัพยากรในทีมกุหลาบไฟ มีคุณสมบัติพร้อม นักเตะในตำแหน่งตัวรุกทั้งหลายก็สามารถเล่นเกมรับได้ดี เกื้อกูลกันทั้งรุก และรับ ทำให้เกิดความสมดุลย์ ผลงานจึงออกมาดี
ต่างจากสถานการณ์ภายใต้ชายคา ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อกลุ่มทุนจากอาบูดาบีประกาศแนวทางชัดเจนว่าต้องการพาทีมขึ้นรั้งอันดับหนึ่งในปฏพีให้จงได้ บรรดาเต้ยของวงการลูกหนังโลก ถ้าจะให้เอ่ยขึ้นมาแต่ละชื่อก็ถือได้ว่าเป็นทีมที่มีเกมบุกจัดจ้านด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด เชลซี บาเซโลน่า เรอัล มาดริด อินเตอร์ฯ มิลาน ฯลฯ เหล่านี้คือทัศนะบวกกับความทะเยอทะยาน ของเจ้าของทีมและแฟนบอลที่อยากเห็นเรือใบสีฟ้าก้าวขึ้นไปถึงจุดนั้นด้วยเกมรุกที่เนียนตาควบคู่ไปกับเกมรับที่สมบูรญ์แบบ
เพียงแต่ในมุมมองของผู้จัดการทีมที่รู้จักศักยภาพของทีมตัวเองดีที่สุด ณ เวลานี้ อาจไม่คิดเช่นนั้น
การมีนักเตะเชิงรุกที่อ่อนหัดในเกมรับอยู่ล้นทีม ไม่เปิดโอกาสให้ฮิวจ์สามารถทำอะไรได้ถนัดเหมือนสมัยที่คุม แบล๊กเบิร์น สักเท่าไหร่นัก จะให้เน้นรับก็ไม่เข้าตาแฟนบอล อีกทั้งนักเตะเก่งๆที่มีก็ทำได้ไม่ดี จะรุกเต็มตัว หลังก็โหว่ แพ้มาก็ถูกวิจารณ์ถึงการจัดตัว ก็ไม่แปลกหรอกครับที่เห็นฮิวจ์พยายามลองจับนู่นผสมนี่ให้เกิดความลงตัวมากที่สุด หากคิดจะรับก็ต้องใช้นักเตะที่รับได้ดีลงเล่น สร้างรากฐานจากตรงนี้ด้วยทรัพยากรผู้เล่นที่จำกัดจำเขี่ย ตามสไตล์ที่ตัวกุนซือถนัด เพื่อผลักดันสโมสรให้ก้าวขึ้นไปเป็น ยอดทีม ตามแบบฉบับของ ฮิวจ์ เอง
ยอดกุนซือ ไม่ได้โด่งดังมาตั้งแต่เกิด ไม่ได้มีตราสัญลักษณ์ฟ้าผ่า ที่กลางหน้าผากดั่งชะตาฟ้าลิขิตให้เป็น เหมือนในภาพยนต์แฟนตาซี บางเรื่อง
ความสำเร็จต้องใช้เวลาครับ
River.
Tags:
-
▶ Reply to This