Members

นี่คือปรัชญาง่ายที่สุด สำหรับทีมที่คิดจะเป็นแชมป์รายการสำคัญ 

        
        ก่อนหน้านี้เล็กน้อย อาร์เซน่อลกับลิเวอร์พูล สองทีมที่กำลังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเหมือนกันลงแข่งขันไปก่อน จริงอยู่ว่าทั้งคู่เก็บสามคะแนนได้ แต่ก็เป็นสามคะแนนที่ไม่น่าประทับใจเอาซะเลย

        อาร์เซน่อลยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บ ส่วนหงส์แดงก็เจียนอยู่เจียนไป ได้สามแต้มชนิดไม่น่าจะได้ด้วยซ้ำ
 
        ดังนั้น แฟนฟุตบอลจึงจับตามองที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าว่าพวกเขาจะผ่านงานยากๆ ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค ได้หรือไม่ จะหืดจับเหมือนปืนกับหงส์หรือเปล่า?
 
        แต่หลังจากจบเกมการแข่งขันทุกคนก็ต้องยอมรับโดยดุษฎีเลยว่า ทีมเรือใบสีฟ้าเขาแน่จริงๆ
 
        แมนฯ ซิตี้ นั้นเวลาเล่นในสนามพวกเขาไม่จำเป็นต้องหวือหวา ไม่ต้องมาชงมาโชว์สเต็ปเท้าอะไรกันมากมาย จริงอยู่ ซิตี้อาจเล่นไม่ได้สวยงามเหมือนทีมอื่นๆ แต่เรื่องประสิทธิภาพนั้นไม่มีใครทาบได้
 
        ก่อนจะไปที่ผลการแข่งขัน เราจะย้อนไปดูเรื่องของไลน์อัพกันก่อนครับ
 
        เกมนี้ มานูเอล เปเยกรีนี่ จัดทัพด้วยการใช้ เอดิน เชโก้ คู่กับ สเตฟาน โยเวติช ซึ่งก่อนหน้านี้กุนซือชาวชิลีประกาศแล้วว่า เขาจะใช้งานโยเวติชเป็นตัวจริง เพราะผลงานของดาวเตะมอนเตเนโกรคนนี้เด่นจริงๆ ในช่วงปรีซีซั่น ลงเล่น 6 เกม ยิงไป 5 ประตู
 
        แผงมิดฟิลด์ยังเป็นหน้าเดิมๆ แต่จุดที่น่าสนใจคือการลงเป็นตัวจริงทันทีของแฟร์นันโด กองกลางตัวรับรายใหม่ที่ซื้อมาจาก เอฟซี ปอร์โต้ ด้วยราคา 12 ล้านปอนด์
 
        ลองจับตาดูมิดฟิลด์รายนี้ให้ดีนะครับ แฟร์นันโดเป็นกองกลางประเภทตัวรับธรรมชาติ คือเป็นพวกเล่นเกมบุกไม่เป็นเลย แต่ถ้าถามเรื่องเกมรับต้องบอกว่าแน่นปึ้ก
 
        ซีซั่นที่แล้วกับปอร์โต้ เขาลงสนาม 28 นัด แต่ไม่มีประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว ก็น่าจะทำให้เห็นแล้วว่า หน้าที่ของเขาคือการป้องกันประตู ไม่ได้มีหน้าที่ขึ้นไปเติมเกมรุกเหมือนมิดฟิลด์คนอื่นๆ
 
        ฉายาของแฟร์นันโด คือ The Octopus หรือ ไอ้ปลาหมึกยักษ์ครับ ซึ่งฉายานี้ถูกตั้งโดยแฟนๆ ของปอร์โต้ เพราะสไตล์การเล่นของแฟร์นันโดคือจะไล่ตามพัวพันกับแนวรุกของคู่แข่ง โดยไม่ยอมให้หลุดไปง่ายๆ ราวกับปลาหมึกที่จะเอาหนวดรัดเป้าหมายอย่างเหนียวแน่น
 
        การมีคนที่เล่นเกมรับโดยตรงแบบนี้ก็มีข้อดีสองข้อ คือ 1. เซนเตอร์แบ็กจะงานเบาขึ้นเยอะเพราะมีตัวตัดเกมช่วยก่อนแล้ว และ 2. ทำให้มิดฟิลด์คนอื่นๆ วาดลวดลายได้เต็มที่ในเกมรุกโดยไม่ต้องพะวงเกมรับจนเกินไป
 
        ในทีมแมนฯ ซิตี้ มีมิดฟิลด์กลางสนามหลายคนก็จริง แต่ทั้งหมดก็เป็นประเภท Box-to-Box คือมีบทบาททั้งเกมรุกและเกมรับ ดังนั้น แฟร์นันโดนี่ถือว่าเป็นกลางรับขนานแท้แค่คนเดียวของทีมเลยก็ว่าได้
 
        เมื่อก่อนซิตี้ก็มี ฆาบี การ์เซีย ครับ แต่ขานั้นก็เชื่องช้า เชิงบอลไม่ดี คือถ้าให้เทียบกันจริงๆ ดูจากทรงแล้ว แฟร์นันโดดูหน่วยก้านดีกว่า และเก่งกว่าแน่ๆ
 
        เอาเป็นว่า ทีมเรือใบได้ตัวมาเสริมทัพด้วยราคาแค่ 12 ล้านปอนด์ ยังไงก็คุ้มครับ
 
        ขณะที่แผงแบ็กโฟร์ของ แมนฯ ซิตี้ มีประเด็นน่าสนใจเล็กๆ คือการจับเอา กาแอล กลิชี่ ไปยืนเป็นแบ็กขวา สาเหตุก็เพราะ ปาโบล ซาบาเลต้า และ บาการี่ ซาญ่า ยังไม่ฟิตพอ
 
        ตอนแรกคาดว่าเปเยกรีนี่ส่งกลิชี่ลงมาเล่นแค่ขัดตาทัพ แต่ไปๆ มาๆ กลิชี่กลับเล่นแบ็กขวาได้ดีเหลือเชื่อ ดีมากจนเจ้าตัวติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ ของบีบีซี เลยทีเดียว เผลอๆ นี่อาจจะกลายเป็นอาวุธใหม่ของซิตี้ก็ได้ในอนาคต
 
        นี่คือแผงไลน์อัพของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งเราจะเห็นเลยว่ามีนักเตะใหม่แค่คนเดียวเท่านั้นที่ลงสนามก็คือ แฟร์นันโด ส่วนคนที่เหลือเป็นนักเตะตัวหลักมาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว
 
        การมีผู้เล่น 10 คน ที่ซ้อมด้วยกันมาทั้งปี ทั้งหมดจึงรู้ใจกันเป็นอย่างดี คือไม่มีอะไรต้องมาปรับจูนกัน และนั่นทำให้เกมของ แมนฯ ซิตี้ มีประสิทธิภาพและคว้าสามแต้มได้อย่างไม่ยากนัก
 
        "โค้ชตุ้ม" รังสิวุฒิ ชโลปถัมภ์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย วิเคราะห์ว่า แมนฯ ซิตี้ นี่ล่ะถือเป็นเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์ลีกอย่างแท้จริง เพราะขนาดไม่ได้ส่งตัวหลักลงครบครัน ยังเอาชนะได้ง่ายๆ แล้วถ้าส่งตัวหลักแบบจัดเต็มจะน่ากลัวขนาดไหน
 
        ที่สำคัญโค้ชตุ้มย้ำว่าเกมนี้ ยาย่า ตูเร่ ยังเล่นไม่ระเบิดฟอร์มที่สุดยอดของตัวเองออกมาด้วยซ้ำ
 
        ตลอด 90 นาที เราจะเห็นได้เลยครับ ว่านัดนี้ตูเร่ถอยลงมายืนเป็นมิดฟิลด์กึ่งๆ ตัวรับ คือยืนอยู่เหนือกว่าแฟร์นันโดนิดเดียวเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจก็คือเจ้าตัวไม่มีบทบาทกับเกมรุกเลย
 
        ไม่มีแอสซิสต์ ไม่มีการบุกเข้าเขตโทษเพื่อจบสกอร์ ไม่มีการยิงไกล ไม่มีจังหวะทะลุทะลวง ตลอดทั้งเกมยาย่าได้ยิง 1 ครั้งเท่านั้น คือจังหวะฟรีคิกแต่ก็หลุดกรอบ
 
        ว่ากันง่ายๆ คือ นิวคาสเซิ่ลไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่มีเกมรับแข็งแกร่งอะไร ต่อให้ตูเร่ไม่เติมเกมบุก ยังไงก็เจาะได้อยู่ดี (และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ)
 
        สรุปคือในนัดนี้เรายังไม่ได้เห็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เอาจริงแบบที่สุดครับ แต่ถึงแบบนั้นพวกเขาก็ยังคว้าสามแต้มได้อย่างสวยงาม
 
        ซึ่งในเกมต่อไปที่ซิตี้เจอกับลิเวอร์พูล เราน่าจะได้เห็น แมนฯ ซิตี้ ที่เน้นมากกว่านี้แน่นอน
 
        ขณะที่นิวคาสเซิ่ล ผลงานในซีซั่นที่แล้ว 8 เกมสุดท้ายพวกเขาแพ้ไป 7 แฟนๆ แม็กพายส์ตอนนั้นถือว่าสิ้นหวังจนถึงขีดสุด
 
        แต่พอเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ แม้เกมแรกจะแพ้ก็เถอะ แต่ดูจากตัวผู้เล่นที่พวกเขาซื้อเข้ามาในช่วงซัมเมอร์ ก็ต้องยอมรับว่าทีมดูดีมีอนาคต
 
        เรมี่ กาแบลล่า ราคา 8 ล้านปอนด์ จากมงต์เปลลิเย่ร์ คือผู้เล่นที่มีแววดีมากๆ กล้าลาก กล้าเลื้อย กล้าล็อกหลบ อารมณ์คล้ายๆ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ตอนกำลังฟอร์มฮอตๆ
 
        เอ็มมานูเอล ริวิแยร์ หน่วยก้านใช้ได้ แต่จังหวะยิงยังมั่วซั่วไปบ้าง, แจ็ค โคลแบ็ค ได้มาฟรีๆแบบสุดคุ้ม เป็นมิดฟิลด์ถนัดซ้ายที่วางบอลแม่นๆ เกมกับ แมนฯ ซิตี้ ก็สร้างจังหวะหวาดเสียวได้ตลอด ส่วน ดารีล ยันมาต แบ็กขวาจากเฟเยนูร์ด ก็เล่นได้เสมอตัว ยังแทน มาติเยอ เดอบูชี่ ไม่ได้ แต่ก็มีโอกาสพัฒนาได้แน่นอน
 
        ขณะที่เจ้าหนู โรลันโด้ แอรอนส์ ที่ถูกดันขึ้นมาจากอะคาเดมี่ของทีม เกมนี้ได้โอกาสประเดิมสนามเป็นนัดแรกก็ดูมีทักษะไม่เบา เอาไปขัดเกลาอีกหน่อยรับรองว่าใช้การได้แน่
 
        อยากให้จับตาดูแอรอนส์คนนี้ให้ดีครับ ด้วยวัยแค่ 18 ปี แต่แฟนๆ นิวคาสเซิ่ลต่างยกย่องเขาให้เป็น นิว ราฮีม สเตอร์ลิง เลยทีเดียว ด้วยความที่รูปร่างก็ใกล้กัน สไตล์การเล่นก็คล้ายกัน แถมยังมีพื้นเพจากจาเมกาเหมือนกันอีกต่างหาก


 
        ในภาพรวมแล้วนิวคาสเซิ่ลไม่ได้เล่นแย่ครับ เพียงแต่พวกเขาโชคร้ายเท่านั้น ที่ต้องมาเจอกับคู่แข่งขันที่แกร่งเกินไปอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้นเอง
 
        เกมต่อไปที่จะไปเยือนวิลล่า ผมว่าทีมแม็กพายส์ไม่แพ้ครับ ถ้าเล่นได้แบบนี้ และถ้ากองหน้าจบสกอร์ได้คมๆ รับรองมีลุ้นบุกไปชนะได้เลย
 
        สำหรับบทสรุปที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เกมแรกของฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาแข็งแกร่งมากพอที่จะป้องกันแชมป์ได้อีกหนึ่งปี
 
        แมนฯ ซิตี้ ไม่จำเป็นต้องซื้อผู้เล่นมากมาย ถ้าหากเทียบกับทีมใหญ่ลุ้นแชมป์ทั้ง 5 เราจะเห็นได้เลยว่า แมนฯ ซิตี้ ใช้งบประมาณน้อยที่สุดกว่าใครเพื่อน
 
        มานูเอล เปเยกรีนี่ ไม่ได้ดิ้นรนในตลาดซื้อขายมากมายเหมือนกับทีมอื่น เขาใจเย็น และเลือกซื้อในจุดที่จำเป็นเท่านั้น โดยผู้เล่นส่วนใหญ่ยังเป็นตัวหลักจากปีที่แล้ว
 
        ก็เข้าใจเปเยกรีนี่นะครับ
 
        ว่าของที่ดีอยู่แล้ว เราก็ไม่มีความจำเป็นต้องดิ้นรนไปเปลี่ยนแปลงมัน จริงมั้ยครับ

 วิศรุต

Credit : siamsport

Views: 449

Reply to This

Replies to This Discussion

เห็นด้วยทุกประการครับ อิอิ

เน้นทุกเกมครับ เกมไหนตบเด็กได้ตบไปเลย เกมไหนเด็กสู้ ก้ออย่าประมาท ใช้ความเก๋าเข้าช่วย ยิงเสร็จหนี เก็ย 3 แต้ม บางเกมชนะ 5 -6 ลูกก้อมันส์ แต่บางเกมชนะ 1-0 ก้อเอาครับ  3 แต้มเหมือนกัน สู้ๆค้าบ

555 ใช่ ๆ ไม่หวือหวา ปีนี้ขอเน้น ๆ นักเตะเจ็บน้อย ๆ พอละ

ใช่ ไม่ต้องหวือหว่า เเต่สมํ่าเสมอ เเละ เเน่นอน

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.