เปเยกรินี่ อยู่กับพี่ไม่มีรับ สวัสดีครับวันนี้เราจะลองมาวิเคราะห์รูปแบบการเล่นของยอดโค้ชเกมส์รุก มานูเอล เปเยกรินี่ ซึ่ง 2 นัดที่ผ่านมาทำไปแล้ว 5 ประตูเสียไป 1 อาจจะทำประตูเท่ากับทีมอื่นแต่สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจคือเกมส์รุกอันหลากหลายของ เปเยกรินี่ (เยอะหน่อยแต่อย่าเบื่อนะครับ อิอิ)

หลายคนอาจมองว่าสไตร์ของ เปเยกรินี่คือ ติกิตาก้า หรือป่าวสรุปคือไม่ใช่แต่อาจจะมีผสมอยู่บ้างเล็กน้อยผมไม่รู้ว่าเค้าเรียกแทคติคที่เปเยใช้เรียกว่าอะไรแต่ขอเรียกว่า Possession Football (โพเซสชั่น ฟุตบอล)  หรือบอลที่เน้นการครองบอลนะครับ บอลของเปเยกรินี่ต่างจาก ติกิตาก้า ยังไง ติกิตาก้า ทุกคนหมันเวียนสลับตำแหน่งไม่มีตำแหน่งตายตัว หน้า กลาง แบ็ก หรือแม้กระทั่งหลังเองก็สามารถขึ้นมาทำเกมส์รุกได้โดยการผ่านบอลไปๆมาๆกับพื้นที่จะไม่เน้นการโยนบอลหรือการเปิดบอลหรือการคลอสบอลเข้าไปแต่จะใช้ทักษะของนักเตะเวลาทำเกมส์รุกเน้นการลากเลื้อย และ การผ่านบอลทะลุช่องมากกว่าจะไม่เสี่ยงครอสบอลจากริมเส้นหรือโยนบอลสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด

อ่าวและสรุปมันต่างกันยังไง ติกิตาก้า ก็เคาะในที่แคบและแทคติคของเปเยก็เน้นต่อบอลในที่แคบ มันต่างกันครับ อย่างที่บอกไปข้างบน ติกิตาก้า ผ่านบอลไปมาโดยทุกคนหมุนสับตำแหน่งไม่มีตำแหน่งตายตัว แต่ โพเซสชั่น ฟุตบอล ของเปเยคือการเคาะบอลในที่แคบสั้นได้แม่นไม่ขาดจังหวะหาช่องทำเกมส์รุกให้รวดเร็วสามารถเปิดบอลจากริมเส้นได้แม่น การโจมตีสั้นสลับยาวไม่เคาะบอลให้เวียนหัวไปๆมาๆเหมือนติกิตาก้าแต่จะผ่านบอลสั้นๆอาจจะมีเน้นครองบอลบ้างแต่ทุกคนก็อยู่ตำแหน่งใครตำแหน่งมันไม่สลับสับเปลี่ยนเวียนหัวเหมือน บาซ่า หรือ บาเยิร์น 

เปเยกรินี่ชอบใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นระบบยืนพื้นในการทำทีมของเค้าคือเน้นการครองบอลให้เหนียวแน่นซึ่งการครองบอลของเค้าคือการต่อบอลที่แคบๆเท้าต่อเท้าได้แม่นยำยกตัวอย่างเกมส์ล่าสุดที่เจอกับหงส์แดง เปเย มักจะให้ลูกทีมขึ้นเกมส์และต่อบอลแถวริมเส้นและจะต้องมีผู้เล่นมากระจุกอยู่มุมที่เล่นอย่างน้อย 3-4 คนเพื่อเคาะบอลไปมาเช่นขึ้นที่แบ๊กฝั่งซ้าย กลิชี่ ได้บอล ก็จะมีซิลบา ยาย่า นาสรี่ เข้ามาประครองเกมส์ต่อบอลไม่ให้ขาดจังหวะและแดนกลางก็จะมี แฟร์นานโดเข้ามาคลุมพื้นที่ และ ขวาสุดก็จะเป็น ซาบาเลต้าที่จะยืนสูงฝั่งขวาคอยเปลี่ยนแกนเวลาจะโยกฟั่งโจมตี โดยมีตัวเชื่อมคือ แฟร์นานโด และโยเวติช และขณะที่โยกย้ายไปฝั่งขวา ซิลบา กะ นาสรี่ก็จะมาคอยช่วยประครองเกมส์ไม่ให้ขาดจังหวะ นึกภาพเอานะครับ อิอิ(พอดีโปรแกรมเกี่ยวกับรูปภาพมันเจ๊งครับเลยทำกราฟมาไม่ได้ต้องขอโทษสำหรับคนที่อ่านแล้วงงนะครับ)

ซิลบา ยาย่า นาสรี่ หนูโย ทั้ง 4 คนนี้เป็นตัวขับเคลื่อนเกมส์รุกคอยเติมเต็มตลอดโดยเฉพาะซิลบา ซิลบาจะรับตำแหน่งเป็นปีกพ่อมดที่ซ้ายทีขวาทีหน้าทีหลังทีเป็นตัวเชื่อมเกมส์ทั้งสนามของซิตี้ นาสรี่จะคอยบัญชาแถวๆข้างหน้ากับริมเส้นคู่กับโยเวติช ยาย่าเป็นตัวประคับประคองจังหวะคือหามุมยืนที่ไม่มีใครคอยประกบและจะเรียกบอลคอยคอนโทลเกมส์ให้มีความยืดหยุ่นตลอด   

การขึ้นจังหวะทำเกมส์รุก ซีซั่นที่แล้วรวมถึงซีซั่นนี้เปเยยังคงระบบครอสเปิดจากด้านข้างและตัวแปลสำคัญคือ ซาบาเลต้า กับ โคลาลอฟ 2 เซ็นเตอร์แบ็คที่คอยเติมเกมส์รุกที่เมามันส์ส่วนมากถ้าขึ้นฝั่งซ้ายจะเป็นการโจมตีโดยการผ่านบอลหรือโยนบอลเข้ามาจากริมเส้นเพราะโคล่ามีจุดเด่นอยู่ตรงนี้คือการผ่านบอลที่รวดเร็วแม่นยำ แต่การบุกฝั่งขวาจะเน้นการเข้าทำซะมากกว่าคือการประสานงานที่รวดเร็วโดยซาบาจะวิ่งทรอดแทรกหาช่องที่สามารถผ่านทะลุได้และเข้าตัดบอลและถึงจะผ่านบอลเข้ามาซึ่งว่าง่ายๆคือ ถ้าขึ้นตรงโคล่าจะเปิดตรงไหนมุมไหนก็ทางฝั่งซ้ายเพราะเป็นนักเตะที่เท้าหนักและวางบอลแม่นยำ แต่ถ้าฝั่งขวาของซาบา จะเน้นต่อบอลทะลุช่องหาจังหวะที่ชัวร์ที่สุดผ่านบอล 

สั้นสลับยาวการโจมตีที่น่ากลัวอีกอย่างของซิตี้คือการวางบอลยาวส่วนมากคนที่รับหน้าที่นี้คือ ยาย่า ตูเร่ ที่มีพรสวรรค์ในการมองเกมส์ไกลอ่านเกมส์ขาดวางบอลแม่นซึ่งหลายครั้งที่วางบอลยาวและทำให้เหล่าศูนย์หน้าปิดสกอร์ได้อย่างสวยงามซึ่งนี่เป็นอีกคนที่ ซิตี้ ยังขาดไม่ได้ และที่น่าประทับใจดูแล้วเพลินตาคือการโจมตีที่สวยงาม การประสานงานหน้าเขตโทษ การต่อบอลที่รวดเร็วและรู้ใจเข้าขากันเป็นอย่างดีทำให้เราเห็นการประสานงานเข้าโจมตีโดยบอลจังหวะเดียวที่ต่อกันได้แม่นเข้าขาจบสกอร์ได้อย่างสวยงามมาหลายครั้งในซีซั่นที่แล้วรวมถึงซีซั่นนี้ด้วย 

หมายเหตุ ในการโจมตีของเปเยกรินี่ทุกคนต้องยิงและจบสกอร์ได้ไม่ว่าหน้ากลางหลังผมไปดูสถิติมา 11 ตัวจริงที่ยืนพื้น กุน เชโก้ ซิลบา นาสรี่ ยาย่า แฟร์นันดิญโญ่ โคล่า ซาบา น้าเด กัปตัน ทุกคนที่พูดมาในซีซั่นที่แล้วยิงประตูได้หมดครบทุกคน ^^

การแก้เกมส์ที่ฉลาดและเด็ดขาด เปเยกรินี่แม้จะนำอยู่แต่ไม่ค่อยให้ลูกทีมผ่อนเครื่องจนกว่าจะสิ้นเสียงนกหวีด เปเยกรินี่ เป็นโค้ชอีกหนึ่งคนที่มีความฉลาดในการแก้เกมส์ซึ่งหลายครั้งกลับมายิงถล่มถลายในครึ่งสองโดยในพจนานุกรมของเค้าคือไม่มีคำว่าตั้งรับแม้จะเปลี่ยนตัวถึงจะเปลี่ยนตัวรุกออกก็จะเป็นการเติมตัวรุกเข้าไปไม่ใช่ตัวรับเพราะเค้าต้องคงระบบเกมส์รุกทั้ง 90 นาที ในการเจอทีมที่ตั้งรับเอารถบัสมาขวางแรกๆที่เข้ามาในฤดูกาลที่แล้วอาจจะยังไม่ชินกับเกมส์รับของทีมเล็กแต่มาในนัดหลังๆเค้ามีไม้เด็ดในการพังรถบัสตลอด ไม่ว่าจะเพิ่มเกมส์รุกในการยิงไกลและการวางตำแหน่งการโจมตีซึ่งต้องบอกว่าวางเกมส์ได้ขาดและยอดเยี่ยม อาทิเช่น นัดที่สโต๊ค คริสตันพาเรช และ วิลล่า ที่มาเยือนเอติฮัทในฤดูกาลที่แล้ว แต่ละทีมต้องน้ำตาตกกลับบ้านเพราะดันมาเน้นเกมส์รับตลอดทั้ง 90 นาที

และในสองนัดที่ผ่านมานี้ซิตี้เป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าฤดูกาลก่อนเกมส์รับที่เป็นจุดอ่อนก็สามารถแก้ไขได้เป็นอย่างดีในซีซั่นนี้ซึ่งไม่ต้องพูดไรมากเพราะลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีแนวรุกสปีดเร็วทักษะเยี่ยมจัดจ้านทุกตัวแต่การตัดบอลป้องกันการโจมตีที่แม่นและเฉียบขาดขึ้นของ ซิตี้ ทำให้แนวรุกของ หงส์แดง ต่างเล่นกันไม่ค่อยออกซึ่งต้องบอกว่าการซื้อตัว แฟร์นานโด มานั้นคุ้มทุกเม็ดเงินจริงๆโดยการประคองเกมส์รับให้ซิตี้ได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง ก็อมปานี กับ น้าเด ก็เข้าขากันมากขึ้น ส่วนแนวรุกไม่ต้องพูดถึง เด็ดขาด และ เฉียบขาดทุกตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องคอยติดตามกันไปยาวๆครับว่าเกมส์รุกที่ไม่มีผ่อนของเปเยจะใช้งานได้ผลดีผลิตสกอร์ได้มากมายอย่างซีซั่นที่แล้วได้มั้ยคอยติดตามกันครับ 

ปล.ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ www.mcfc.in.th