''เรือใบสีฟ้า'' แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประกาศศักดาแชมป์เก่าและทำให้ผมดูแย่ไปเลยเมื่อไปกาชื่อพวกเขาทิ้งจากทีมเต็ง         555...อยากหัวเราะให้ตัวเองจริงๆ         555...ขอหัวเราะให้ใครบางคนที่รอซ้ำ คือแพ้แมนฯ ซิตี้ นะไม่ได้แพ้สวอนซี ซะหน่อย

        อุตะ..รู้สึกว่าชั่วโมงนี้จะออกตัวถี่เกินไปหน่อย แต่ขอให้ทุกท่านอย่าซีเรียสนะครับ สังคมไทย ดราม่าเยอะ และขาดอารมณ์ขัน
 
        เอะอะ ก็โพสต์ด่า เอะอะก็ใส่ร้ายป้ายสี...เอะอะ ก็เล่นการเมืองเพราะติดนิสัยเกมการเมือง คือใส่ร้ายป้ายสี คุ้นเคยกับแบบนั้นมาทั้งชีวิต ดังนั้นขออนุญาตเขียนไว้ตรงนี้เลยว่า คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เมื่อได้รับสารอย่าเชื่อโดยข่าวลือ
 
        เอ๊ะ...หงส์แพ้ถึงกับออกทะเลไปกับเรือใบเลยหรือนี่
 
        เปล่าครับ...รู้สึกว่าโลกทุกวันนี้มันชักจะยังไงอยู่นะครับ เอาเป็นว่าลองมาค้นหารายละเอียดของความพ่ายแพ้เกมแรกของซีซั่น ซึ่งมาเร็วกว่าที่คิด อีกทั้งความจริงเชื่อว่าลึกๆ แฟนหงส์คงไม่มั่นใจกับการเยือนเอติฮัด สเตเดี้ยม อย่างแน่นอน
 
        เรือใบ เจ้าถิ่นป้องกันแชมป์เจอกับรองแชมป์อย่างลิเวอร์พูล ด้วยชุดผู้เล่นที่เริ่มลงตัวมากขึ้น หมายถึงสภาพร่างกายนะครับ
 
        มานูเอล เปเยกรีนี่ จัด ซาบาเลต้า ลงสนามพร้อมกันกับ เดมิเคลิส, ก็องปานี และกลิชี่ อันเป็นแนวรับสุดแกร่ง แดนกลาง แฟร์นานโด กับ ยายา ตูเร่ ใช้ ดาบิด ซิลบา เป็นตัวรุก พร้อมทั้ง เชโก้, นาสรี่ และโยเวติช ที่ปีนี้น่าจะยึดตัวจริงได้ง่ายกว่าปีที่แล้ว
 
        ผมไม่ชอบโยเวติชเลยครับ ตั้งแต่สมัยอยู่ฟิออเรนติน่า เพราะแกชอบยิงหงส์ มันเหมือนหลอนนะครับ ขนาดไปอุ่นเครื่องที่อเมริกายังยิงหงส์เลย...นี่ยังตามมาหลอนกันอีก มันดูแปลกๆ ยังไงชอบกลสำหรับโยเวติชนะครับ
 
        แนวรุกของแมนฯ ซิตี้ ใช้ซิลบา ตัวฟรีแดนกลางเชื่อมกับ โยเวติช, นาสรี่ หมุนกันเล่น โดยมีเชโก้ ค้ำหน้า
 
        ส่วนหงส์แดงมีการเปลี่ยนด้วยการพัก ลูคัส เลวา แล้วใช้ โจ อัลเลน และตำแหน่งแบ็กซ้ายส่ง โมเรโน่ ลงสนามเกมแรก โยก เกล็น จอห์นสัน ไปที่เดิม และ มานกีโย พัก นอกนั้นชุดเดิม ในระบบ 4-3-3 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
 
        ถ้าเทียบตัวต่อตัวต้องยอมรับว่า แมนฯ ซิตี้ มีคุณภาพมากกว่า แต่เมื่อรวมกันเป็นทีมแล้วหงส์แดงสู้ได้ ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าจะแตกต่างคงเป็นเรื่องคุณภาพที่สามารถนำมาใช้ตัดสินเกม ยิงประตู หรือชัยชนะได้ เมื่อต้องการตรงนั้น
 
        20 นาทีแรกเห็นชัดว่าเกมการเล่นของทั้งสองทีมนั้นเป็นไปอย่างสูสี แถมออกไปทางหงส์แดงด้วยซ้ำที่คอนโทรลเกมเล่นแล้วมีจังหวะทะลุพื้นที่สุดท้าย ของซิตี้ได้มากกว่า ขณะที่ซิตี้เน้นการผ่านบอลลูกสั้น เล่นตามช่อง แต่ยังทลายการจัดกระบวนเกมรับของหงส์แดงสองชั้นไม่ได้ 
 
        เรียกว่าวางแผนมาแล้วได้ผลในเกมรับของทั้งสองทีม
 
        ฝั่งหงส์ แม้ครองบอลได้แต่ก็เจาะเข้าไปยากอยู่ ไม่มีการครองบอลนานหรือต่อเนื่องมากนัก เพราะเกมรับของซิตี้ดูแน่น รัดกุม ก็องปานี กับ เดมิเคลิส ประกบสเตอร์ริดจ์, สเตอร์ลิง ชิด ไม่ให้เล่นง่ายๆ แต่มันก็ยังพอมีจังหวะไปได้
 
        หงส์แดงก็มีโอกาสยิงจากจังหวะ พักอกของสเตอร์ลิง ที่เจอร์ราร์ดจ่ายให้สวยงามมาก แต่พอพลิกตัวสเตอร์ลิงรีบยิง เลยแป้กหาทิศทางไม่เจอ นี่แหละครับความเก๋า ความนิ่งที่ต้องปรับปรุง ถ้าจะเป็นนักเตะระดับท็อป จังหวะแบบนั้นต้องนิ่งนิดหนึ่ง
 
        พักอกลงพื้นสวยมาก เพียงแต่การหันหลังให้ประตูนั้นทำให้บางทีต้องรีบยิง เพราะกลัวโดนบล็อก โดนแย่ง แต่..เอาน่าไม่เป็นไรยังได้ยิง เพียงแต่ยิงไม่ดีเท่านั้น แค่ติงว่าถ้าเขานิ่งกว่านั้น น่าจะทำอะไรได้ดีกว่านั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเชิงเทคนิค
 
        อย่างไรก็ตามรูปเกมของหงส์แดงดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แมนฯ ซิตี้ ทำเกมรุกยากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน หงส์แดงมักเสียขบวนเมื่อเสียบอล แล้วแมนฯ ซิตี้ ตัดบอลแดนกลางและแดนหลังของตัวเองได้ พวกเขาขึ้นมาเป็นแผง ขึ้นมาทีละ 4-5 คน เร็วมาก
 
        เรือใบแสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ชัดเจนมากว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนเกมรับเป็นรุกได้เร็วมากมายเหลือเกิน
 
        นั่นคือจุดที่เห็นชัด...และอีกจุดหนึ่งคือการวางแผนเล่นเกมรับของเป เยกรีนี่ที่ใช้การคุมโซน หรือไม่ก็เพรสในแดนหน้าเพื่อให้หงส์ออกบอลยาก สลับกันไป และทำได้ดีเหลือเกิน ดีอย่างน่าใจหาย และดูเหมือนพวกเขาไม่มีวี่แววของความเบื่อหน่ายหรือถึงจุดพีก
 
        หรือผม...มองพลาดไปว่าพวกเขาอิ่มแล้ว ไม่อยากกินอะไรอีก
 
        ดูการเล่นแล้วผมน่าจะมองพลาดมั้งครับ 55 ไม่น่าถามคุณผู้อ่านอีก ดูพวกเขากระหายและอยากยิงหงส์แดงเป็นชุดๆ แม้ว่าทำไม่ได้ แต่พวกเขาป้องกันได้ดีเหลือเกิน ดูเจาะยาก เกมออกเบียด รอเหลือแค่ว่าใครจตะพลาดก่อนกัน

        และแล้วววว ความรู้สึกนั้นก็มาถึงในนาทีที่ 40 โมเรโน่ประเดิมสีเสื้อหงส์แดงเล่นดีมา 30 นาที ก็พลาดให้เห็นจากจังหวะช้า รอบอล โดนโยเวติชฉกได้แล้วสอยไม่เลี้ยง ลอดขามิโญเล่ต์ เรียบร้อยโรงเรียนอาบูดา โดน 1-0 
 
        จากความผิดพลาดส่วนตัวในการป้องกัน เพราะจะว่าไปลอฟเรนอุตส่าห์ชิงจังหวะโขกได้ก่อนซิลบา จะเล่นบอลต่อไป
 
        โอเค...พลาดแล้วพลาดไป จบครึ่งแรกที่ 1-0 แต่ครึ่งหลังนี่นะสิ แผงหลังหงส์แดงพยายามเดินหน้ามากขึ้น และนั่นคือเข้าทางของเปเยกรีนี่ที่น่าจะบอกลูกทีมว่า "เล่นเหมือนเดิม รอจังหวะหงส์บุกเข้ามา" เป็นการขุดบ่อล่อปลาเรียบร้อยครับ
 
        กองหลังหงส์เจอทีเด็ดบอลสั้น เล่นเร็ว และเจาะทางฝั่งซ้าย โมเรโน่ที่ยืนห่าง ยังจัดเกมรับไม่เป็นขบวนระยะห่างจากเส้นเขตโทษร่วมๆ 15 หลาเลยโดนเจาะทางนั้น บอลไหลมาเป็นทางและนักเตะเรือใบเติมเกมรุก 3-4 คน เสื้อฟ้ามากกว่าเสื้อแดงเลยมั้ง บอลมาจบที่โยเวติช 2-0 ตอนนั้นหลายคนคงปิดทีวีนอนกันหมดแล้ว
 
        เกมนะไม่เป็นรอง สู้ได้ แต่คุณภาพของแมนฯ ซิตี้ ในเกมรุกมาผนวกกับเกมรับที่ยังไม่รัดกุมดีนักของหงส์แดง เลยทำให้เสียศูนย์ โดนเจาะ โดนทะลวงง่ายๆ การโดนทีมระดับนี้นำ 2-0 มันยากในการไล่ตาม แม้ว่าหงส์เคยชนะซิตี้ด้วยสกอร์ 3-2 หลังจากโดนนำ 2-0
 
        การเปลี่ยนตัวเอามาร์โกวิชลงมาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของนักเตะคนนี้ เชื่อว่าเขาสามารถเล่นเกมและเป็นตัวจริงในอนาคตนะครับ ผมเชื่อว่าเขาจะทำให้พลังรุกหงส์แดงนั้นน่ากลัวขึ้น แต่คงต้องใช้เวลาในการปรับสักพักหนึ่ง ที่แน่ๆ แนวรุกมีตัวเลือกมากขึ้น
 
        สรุปนะครับ...แมนฯ ซิตี้ มีคุณภาพเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง เล่นตามแผน จุดอ่อนของพวกเขามีเรื่องเดียวที่ผมตั้งข้อสังเกตเอาไว้คือ "แรงจูงใจ" ถ้าพวกเขามีสิ่งนี้น้อย โอกาสป้องกันแชมป์อาจมีจำกัด ดังนั้นเปเยกรีนี่จะต้องปลุกเร้าและกระตุ้น ทำให้แรงจุงใจของนักเตะชุดนี้มีเหมือนเดิม
 
        ดูการเล่นของซิตี้แล้ว หลัง, กลาง และหน้า ยังปึ้กเหมือนเดิม และถ้าพวกเขามุ่งมั่นต่อไป ไล่ถล่มไปเรื่อยๆ ก็คงทำแต้มทิ้งห่างคู่แข่ง ...
 
        ปัญหาคือว่าเมื่อแชมเปี้ยนส์ ลีก มาถึง มันก็จะมีรายการใหญ่เล่นเพิ่มขึ้น การหมุนนักเตะและรักษาแรงจูงใจของซิตี้เอาไว้ให้ได้เหมือนเดิม นั้นคงเป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะปีก่อนพวกเขาเจอปัญหานี้มากวนใจทำให้ เล่นดีไม่ทุกเกม
 
        แมนฯ ซิตี้ มีจุดอ่อนเรื่องแรงจูงใจเท่านั้นเอง
 
        เรื่องทีม, นักเตะ, แท็กติก ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม และผมเองก็เสียฟอร์มที่ไปกาชื่อพวกเขาทิ้งเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน 555
 
        ส่วนหงส์แดง...ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล และความพ่ายแพ้ต่อทีมแชมป์ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะแพ้คุณภาพ ไม่ได้แพ้ทีมไม่มีคุณภาพหรือมาตรฐานต่ำกว่า และดีซะอีกที่แพ้เร็วตั้งแต่แรก ทำให้เห็นจุดบกพร่องและสามารถปรับปรุงตัวเองได้ดีขึ้น
 
        เกมรุก การคอนโทรลเกมโอเค ดีเหมือนเดิม ปรับเกมรับให้รัดกุม เพราะ ลอฟเรนนักเตะเชิงสูงก็มาเล่นกับทีมงานใหม่หมด ต้องนิดหนึ่งครับ
 
        แพ้นัดเดียว...อย่าใส่ใจ
        แพ้เรือใบ..ต้องยอมรับ
 
        ผมเชื่อว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะแก้ไขให้มันโอเคได้ และยังยืนยันว่าหงส์แดงร่วมลุ้นแชมป์กับพวกทีมเต็งต่อไป เพียงแต่ว่าเมื่อเจอทีมคุณภาพอย่างแมนฯ ซตี้ และเชลซี คุณจะเล่นผิดพลาดระดับเด็กเยาวชนไม่ได้เลย
 
        เท่าที่เห็นคือลิเวอร์พูลดี...แต่ยังไม่ดีพอหรืออาจจะกล่าวว่า "ยังไม่เนี้ยบ" นั่นเอง

_________________________________________

Cr.www.siamsport.