Members

  อัลล์ ซิตี้ 2 - แมนฯ ซิตี้ 4         เรื่องดวงอาจมีส่วนกับเกมฟุตบอลอยู่บ้าง 

        แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งสำคัญกว่าคือความสามารถของนักเตะ รวมทั้งการวางแผนของกุนซือข้างสนาม
 
        เหมือนกับที่เกิดขึ้นบนสังเวียนเคซี สเตเดี้ยม เพราะที่สุดแล้ว ทีมที่ดีกว่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายบุกเอาชนะฮัลล์ ซิตี้แบบไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก แม้เกือบโดนเรื่องดวงเล่นงานเข้าให้
 
        กับสถานการณ์ที่เป็นรองจ่าฝูงอย่างเชลซีอยู่ถึง 5 แต้ม แน่นอนทีมของ มานูเอล เปเยกรีนี่ มองถึงชัยชนะในนัดนี้
 
        จริงอยู่ทีมเรือใบสีฟ้ามีเกมหนักรออยู่กลางสัปดาห์ กับการเปิดบ้านรับมือโรม่า ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กระนั้นเกมลีกย่อมเป็นอะไรที่มองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะกับการเป็นทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์
 
        กุนซือชาวชิเลียนจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามแบบไม่พะวงเกมกลางสัปดาห์
 
        นักเตะตัวจริง 5 คนเปลี่ยนแปลงจากเกมถล่มเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 7-0 ในแคปปิตอล วัน คัพ 3 วันก่อนหน้านั้น
 
        ผู้รักษาประตูมีการเปลี่ยนแปลงจาก โจ ฮาร์ท มาเป็น วิลลี่ กาบาเยโร่ มือกาวตัวใหม่ชาวอาร์เจนไตน์ ทว่ามองเรื่องศักยภาพระหว่างนายทวารทั้งสองไม่ได้แตกต่างกันอย่างใด
 
        ในแนวรับ ปาโบล ซาบาเลต้า ชดใช้โทษใบแดงจากเกมเสมอเชลซี ตั้งแต่เกมบอลถ้วยจึงมาประจำการทางฝั่งขวา ขณะที่ กาแอล กลิชี่ เบียด อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ลงมาอยู่ทางซ้าย
 
        คู่ปราการหลังตัวกลางยังใช้ แว็งซ็องต์ ก็องปานี กัปตันทีม กับ เอเลียควิม ม็องกาล่า เหมือนเคย
 
        เช่นเดียวกับแดนกลาง และคู่กองหน้ายึด 6 ผู้เล่นจากแมตช์เสมอเชลซี ทั้ง ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันดินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก้ และ เซร์คิโอ อกวยโร่ "กุน" กองหน้าตัวเก่ง
 
        ฝั่งฮัลล์ ซิตี้หวังสร้างเซอร์ไพรส์ในแมตช์นี้ให้ได้
 
        โดยขุมกำลังตัวจริงที่พักแมตช์พลิกแพ้เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-3 ในเกมแคปปิตอล วัน คัพ ทั้งๆ ที่นำอยู่ 2-1 จนมาโดน 2 ประตูในนาทีสุดท้าย และทดเวลาบาดเจ็บ กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา
 
        เป็นที่มาของการเปลี่ยนทีมถึง 10 คนด้วยกัน
 
        มีแค่ เลียม โรซีเนียร์ แบ็กขวารับหน้าที่ตัวจริงต่อเนื่อง ส่วน อัลลัน แม็คเกรเกอร์ ผู้รักษาประตู, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เคอร์ติส เดวิส และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ประจำการในแนวรับ
 
        แดนกลางขยับ อาเหม็ด เอลโมฮามาดี้ มาเดินเกมร่วมกับ ทอม ฮัดเดิลสตัน, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ และ เจค ลิเวอร์มอร์
 ส่วนแดนหน้า นิกิช่า เยลาวิช ล่าตาข่ายร่วมกับ อาเบล เอร์นานเดซ แล้วยังได้รับข่าวดีเมื่อ กัสตอน รามิเรซ อีกหนึ่งตัวรุกชาวอุรุกวัยสลัดอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองด้วย
 
        ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้นแมนฯ ซิตี้เดินหน้าเข้าใส่ทันที
 
        ทีมเรือใบต้องการยิงประตูออกนำ และปิดเกมให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้เปลี่ยนนักเตะตัวหลักออกไปพักในช่วงท้ายเกม เพื่อรักษาสภาพความสดในการลงฟัดกับทีมหมาป่าโรมในอีก 3 วันข้างหน้า
 
        อันเป็นที่มาของการทะยานนำตั้งแต่หัววัน
 
        บอลที่แนวรับเดอะ ไทเกอร์ส สกัดกันไม่ขาดลอยโด่งมาเข้าหัว ปาโบล ซาบาเลต้า ที่เอาชนะการแย่งโหม่งกับ เจค ลิเวอร์มอร์ แล้วโขกไปตกต่อหน้าต่อตา อเกวโร่ "กุน" หมุนตัวยิงคนเดียวแบบไร้ตัวประกบ
 
        แน่นอนโดนจ่อๆ แบบนี้หมดสิทธิ์ที่แม็คเกรเกอร์จะป้องกันเอาไว้ได้
 
        เท่านั้นไม่พออีก 4 นาทีให้หลัง เรือใบได้ประตูที่ 2 แบบทันด่วน โดย เอดิน เชโก้ ที่ครองบอลอยู่ทางกราบซ้ายของกรอบเขตโทษ หาช่องหลบ เลียม โรซีเนียร์ แล้วเมื่อมีจังหวะหัวหอกบอสเนียฯ ปั่นด้วยขวาด้วยน้ำหนัก และทิศทางอันสมบูรณ์แบบเข้าประตูไป
 
        กุมความได้เปรียบ 2 ลูกตั้งแต่ไก่โห่ หลายคนคิดว่านี่คงเป็นเกมยำใหญ่ของทีมเรือใบแน่นอน
 
        ที่ไหนได้ให้หลังจากนั้นอีก 10 นาทีฮัลล์ ซิตี้ได้ประตูตีไข่แตกแบบมีโชค โดยเริ่มจากบอลที่ อาเหม็ด เอลโมฮามาดี้ จ่ายบอลตัดหลัง กาแอล กลิชี่ ให้ เลียม โรซีเนียร์ หลุดขึ้นทางกราบขวาแบบโล่งๆ
 
        เขามีเวลามากพอสำหรับการบรรจงเปิดบอลเข้ากลาง จน เอเลียควิม ม็องกาล่า ต้องพยายามโหม่งสกัด
 
        บอลเจ้ากรรมดันผิดเหลี่ยมพุ่งเสียบตาข่ายชนิดที่ วิลลี่ กาบาเยโร่ ได้แต่ใช้สายตาป้องกัน กระนั้นหากปราการหลังค่าตัวแพงไม่โหม่งสกัดเอาไว้ อาเบล เอร์นานเดซ ก็รออยู่หน้าประตูแล้ว
 
        ประตูนี้ช่วยเพิ่มกำลังใจให้เหล่าขุนพลเจ้าถิ่นได้มากโข
 
        ทีนี้เจ้าบ้านกล้าเปิดเกมแลกอย่างมั่นใจ และมาได้ประตูตีเสมอจากจุดโทษที่เป็นอีกครั้ง เอเลียควิม ม็องกาล่า ทะเล่อทะล่าพยายามสกัดบอล แต่ดันยันเข้าไปเต็มอกของ โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ จนเสียลูกจุดโทษ
 
        อาเบล เอร์นานเดซ ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไปในการดวลเป้าครั้งนี้
 
        สถานการณ์ที่สกอร์กลับมาเท่ากัน แล้วต้องเริ่มต้นกันใหม่ คนที่ตกเป็นแพะอย่างไร้ข้อสงสัยคือปราการหลังชาวฝรั่งเศส ผู้มีส่วนกับ 2 ประตูที่เสียไป จนมีคำถามถึงความเชื่อมั่นของตัวเขากับเวลาที่เหลือของเกม
 
        เปเยกรีนี่ยังคงเชื่อมั่นในตัวแนวรับรายนี้เช่นเดียวกับนักเตะ 11 ตัวแรกจนไม่มีการเปลี่ยนตัวช่วงพักครึ่ง
 
        แมนฯ ซิตี้ยังตั้งหน้าตั้งตาบุก และหาโอกาสกลับขึ้นไปนำจากเกมบุกทั้งการเจาะเข้าทำ, ลูกตั้งเตะ หรือแม้กระทั่งลูกยิงไกลของ ยาย่า ตูเร่ ที่พุ่งไปชนเสาเต็มๆ ในช่วงเริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน
 
        พอเห็นท่าไม่ดีนายใหญ่ชาวชิเลียนต้องขยับบ้าง โดนให้ เฆซุส นาบาส ลงมาช่วยเกมบุกในแดนกลาง แล้วถอด แฟร์นันดินโญ่ ออกไป
 
        และแค่ 2 นาทีจากนั้นความพยายามของทีมเยือนสำเร็จผล ดาบิด ซิลบา ลากเลื้อยอยู่หน้าเขตโทษแล้วไหลบอลออกทางซ้ายให้ เอดิน เชโก้ ยิงหักข้อด้วยซ้าย แม้เป็นการยิงที่ไม่แรงมากนัก แต่กับทิศทางแบบเป๊ะๆ บอลค่อยๆ กลิ้งเข้าเสาสอง หมดปัญญาที่อัลลัน แม็คเกรเกอร์ จะปัดถึง
 
        ประตูนี้เปลี่ยนโฉมหน้าของเกมอีกครั้ง
 
        ฮัลล์ ซิตี้ไม่อาจเน้นเกมรับได้อีกแล้ว พวกเขาต้องเดินหน้าแบบเต็มตัวเพื่อทวงคืน ด้วยการส่งทั้ง กัสตอน รามิเรซ กับ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ลงแทนที่ อาเบล เอร์นานเดซ กับ เจค ลิเวอร์มอร์
 
        อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนทั้งคู่ลงมาไม่อาจช่วยทีมได้
 
        แล้วกลับเป็นตัวสำรองของฝั่งแมนฯ ซิตี้ อย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ยิงประตูปิดฝาโลง ซึ่งต้องชมมิดฟิลด์วัย 36 ปี ที่สามารถพาตัวเองจากกลางสนามสอดเข้าเขตโทษเพื่อจบสกอร์ลูกเปิดของ ปาโบล ซาบาเลต้า ได้อย่างอย่างเหมาะเจาะ
 
        4 ประตูในการลงเล่น 3 นัดให้ทีมเรือใบสีฟ้า พิสูจน์ว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยังไม่หมดพิษสง
 
        ขณะที่ผลการแข่งขันที่ออกมา แม้แมนฯ ซิตี้ ต้องโดน 2 ประตูตีเสมอในครึ่งแรกแบบโชคร้ายสุดๆ กระนั้นด้วยศักยภาพของนักเตะ และการแก้เกมที่เหนือชั้นกว่าของกุนซือ ทีมที่ดีกว่าย่อมเป็นฝ่ายกำชัย

"เอล นินโญ่"

ที่มา สยามกีฬา

Views: 326

Reply to This

Replies to This Discussion

สั้นๆ เรือเก่งครับ อิอิ

เรือเราทําได้

ทีมอื่นกับอึ้งกิมกี่ นี่มันเรือยอร์ชหรือนี่ แม่เจ้า

แน่นอนที่สุด...

..เชียร์ม็องกาล่า ยังก้อต้องเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูเพราะเห็นศักยภาพของเขาชัดเจน..

..เช่นเดียวกับเจ้าปลาหมึกยักษ์เฟอร์นานโด้..

..2 นักเตะใหม่ที่ได้มานี้ คือภาพใหม่ของซิตี้ที่แกร่งเต็มแผ่น ^^

.......ม็องกาลาไม่นับลูกที่เสียก็ยังดูดีอยู่.........

...ม็องกาล่า  และ เฟอนานโด้  คือคำคำตอบและเป็นกุญแจสำคัญ  ในการไล่ล่า ถ้วยบิ๊กเอียร์   

...นอกจากเกมส์ที่เจอเสื้อใต้แล้วเรือใบแพ้ 0:1   หลังจากนี้ จะไม่เป็นเช่นนั้นอีก  เชื่อมั่นอย่่างนั้นจริงๆ

...เรือใบ น่าจะไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย แชมป์เปียนลีก    ท่านเปเญ่ต้องทำได้แน่

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.