บลูมูน"เครื่องยังไม่ติด เรือเจ๊าซีเอสเคเอ"

แฟนไทยช็อคเมื่อเห็นซิตี้ทีมรักถูกตีเสมอครึ่งหลังหลังเป็นฝ่ายนำสองประตู

สวัสดีครับแฟนๆ เรือใบสีฟ้าทุกท่าน วันนี้ผมขอวิเคราะแมตช์ที่เรือใบสีฟ้าแล่นไปเยือนยอดทีมแดนหมีขาว ซีเอสเคเอ มอสโคว์

ผลการแข่งขันออกมาอย่างสุดช็อกเมื่อทางแมนซิตี้ที่ออกนำไปก่อน 2-0 กลับโดนตีเสมอท้ายเกม 2-2 เป็นเหตุให้แฟนๆชาวไทยหลับกันไม่ลงเลยทีเดียว

เรื่องราวช็อคสุดๆ เกิดขึ้นเพราะอะไร มาดูกันครับ

นัดนี้ เปเยกรินี่ บอสใหญ่ของเราจัดทัพในระบบ 4-4-2 ซึ่งได้กลับมาใช้หน้าคู่ เชโก้-กุน ส่วนปีกสองข้างเป็นหน้าที่ซิลบากับมิลเนอร์ ในขณะที่แดนกลาง ยาย่า ตูเร่ กับ เฟอร์นันโด ส่วนแผงแนวรับ แบ็กคู่ซ้าย โคลารอฟ ขวาซาบาเลต้า เซ็นเตอร์คู่ก็คอมพานี่และม็องกาล่า

ครึ่งแรก ซิตี้ครองเกมไว้ได้หมดในช่วง 10 นาทีแรก แต่ต้องบอกครับว่าทางด้านซีเอสเคเอรู้แกวเราแน่นอนว่าจะมาไม้ไหน คงเพราะได้เจอกันเมื่อปีที่ ทำให้เจ้าบ้านพอจะดักทางซิตี้ ได้ และนัดนี้ก็เน้นเล่นรัดกุมคุมพื้นที่ไว้ในแดนตัวเองแทบทั้งหมดเลย ทำให้ซิตี้ครองเกมผ่านบอล เคาะบอลกันไปมาได้สบายเท้า

ด้านการคุมเกม ซิตี้มีจังหวะจบน้อยมากเพราะเมื่อเราค่อยๆ ดันเกมรุก ทางมอสโคว์ก็ก็ยิ่งกำชับเกมรับให้มากขึ้น จนซิตี้เจาะลำบากและหาจังหวะจบยาก แต่กลับกันใน 10 นาทีแรกกลับเป็นทางซีเอสเคเอ มอสโคว์มีโอกาสทองถึง 2-3 ครั้งในการจบ แต่ก็ไม่สามารถจบได้ ซึ่งนี่เป็นการเตือนซิตี้ว่าเกมสวนกลับของเจ้าบ้านมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขนาดไหน

หลังจากนั้น ซิตี้ก็เริ่มกลยุทธ์เกมรุก บุกมอสโคว์ทั้งซ้ายและขวา ซึ่งนัดนี้เปเยกรินี่เน้นกำชับเปิดจากริมเส้นมากกว่าซึ่งมีโคลารอฟเป็นตัวชูโรงในการเปิดริมเส้นฝั่งซ้าย เพราะการวางเท้าที่หนักแน่นและแม่นยำ ต้องบอกครับว่าในนัดนี้ทั้งสองฝั่งเน้นเอาชัวร์กันมาก

เวลาซิตี้ครองบอลทำเกมรุกก็ไม่รุกโฉ่งฉ่าง และจะไม่ยอมเสียการครองบอลเด็ดขาด เวลาผ่านบอล ส่งบอลก็ต้องชัวร์จริงๆ ถึงจะส่ง เช่นเดียวกับซีเอสเคเอที่แม่นยำเท้าต่อเท้า

ที่สังเกตคือ นักเตะซิตี้ไม่ค่อยมีใครไล่บอลซึ่งก็เป็นสไตล์การตั้งการ์ดรับของซิตี้อยู่แล้ว แต่คราวนี้ที่แตกต่างออกไป ซิตี้ตั้งการ์ดรับเน้นรับลึกจนเปิดพื้นที่ให้ทางด้านผู้เล่นซีเอสเคเอ เล่นกันสบาย อาศัยจังหวะดักบอลและชิงบอลคืนมาเลือกที่จะไม่ไล่และไม่เพลสซิ่ง

แต่เกมในครึ่งแรกนี้ก็ยังเป็นของซิตี้ที่เป็นฝ่ายครองเกม ในเมื่อเกมริมเส้นไม่ค่อยได้ผล คราวนี้ก็เลยเป็นการเจาะตามช่องการเล่นของมอสโคว์ ซึ่งครึ่งแรกก็ได้เน้นมาร์คจุดผู้เล่นยืนตายตัวไม่เข้าบีบหรือเพลสซิ่งเหมือนกัน นี่นับเป็นการเปิดพื้นที่ให้ซิตี้เล่นได้สบาย เพราะแนวรุกของซิตี้สไตล์เปเยกรินี่คือ ผู้เล่นทุกคนเคลื่อนที่หาช่องทำเกมกันอยู่ เราเลยเห็นการประสานงานสวยๆ ของ ยาย่า ซิลบา เชโก้ กุน ที่เล่นแค่ 4-5 จังหวะจบสกอร์ ซิตี้ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 28 ต้องชมครับว่าผู้เล่น ซิตี้ ใจเย็นกันมาก เล่นเคาะหาช่องจนเจาะกำแพงเหล็กของซีเอสเคเอได้

เกมแดนกลางของซิตี้แกร่งขึ้นเมื่อมียาย่าบัญชาเกมแดนกลาง รูปเกมของซิตี้ดูจะลื่นไหลมากครับ และเกมรุกของซิตี้ก็เริ่มเห็นผลอีกเมื่อยาย่า เจ้าเก่าเปิดบอลยาวให้ซาบาเลต้าโหม่งคืนให้กุนที่ผ่านบอลไปสวยๆ และมิลเนอร์ได้สไลด์จบสกอร์ไปแบบคลาสสิค ทำให้ซิตี้ขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 37 หลังจากนั้นซิตี้ก็มีจังหวะที่จะได้สกอร์เพิ่มอีก แต่จังหวะจบไม่คมพอเลยทำให้ครึ่งแรกทำสกอร์ได้ 2-0

ครึ่งสอง บอกตรงๆ ครับ ผมแทบไม่อยากเชื่อสายตา เมื่อเห็นรูปเกมเปลี่ยนกลับสลับขั่ว เจ้าบ้านบีบพื้นที่เล่นเกมเพลสซิ่งมากขึ้น เน้นเกมรุก แต่ซิตี้เปิดฉากเล่นเกมรุกได้ไม่นาน พอเข้าสู่นาทีที่ 50 รูปเกมก็เปลี่ยนไป ซิตี้เสียการครองบอลง่ายขึ้นเพราะมอสโคว์เน้นเพลสซิ่ง ในขณะที่ซิตี้เน้นเกมรับ เล่นรัดกุมคุมพื้นที่ ซึ่งต่างจากครึ่งแรกที่เล่นกันเหมือนกระหายประตูมากๆ

อย่างที่ผมบอกไปครับว่า นัดนี้ซิตี้เล่นเกมรับแบบรับกันลึกๆ ขนาดกองหน้าต้องลงมาช่วยและเปิดพื้นที่ให้มอสโคว์ เล่นเกมรุกกันมากขึ้น ซิตี้อาศัยการดักบอลการอ่านเกมที่แม่นยำที่ผมเห็นในนัดนี้มีคอมพานี่แลัซาบาเลต้า ผมขอชมสองคนนี้มากครับ เพราะมีวินัยในเกมรับดีมาก ส่วนม็องกาล่า ผมคิดว่ามีอะไรบางอย่างต้องปรับเล็กน้อย

มอสโคว์เลือกเจาะทั้งสองฝั่ง ซ้ายขวา แต่จะเน้นไปทางขวาซึ่งเป็นตำแหน่งของโคลารอฟ เจ้าบ้านเล่นเกมรุกได้โดดเด่นกว่าซิตี้ คงเพราะซิตี้เริ่มเน้นเกมรับผ่อนเกมรุก

ในครึ่งสองเห็นได้ชัดครับว่าเปเยกรินี่ดึงเกมโดยการจ่ายบอลเคาะบอลกันไปๆ มาๆ แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นแทคติกเกมรับหรือเคาะบอลฆ่าเวลากลายเป็นว่าทางด้าน ซีเอสเคเอเจาะเกมรับของซิตี้ได้ด้วยการผ่านไหลบอลมาตามช่องและสามารถจบเป็นสกอร์เป็น 2-1

เกมดูน่าจะเข้มข้นขึ้น แต่เกมก็ยังออกมารูปแบบเดิม ผมคิดว่าทางเปเยกรินี่อาจจะเน้นผลการแข่งเพราะรู้ว่าเกมสวนกลับของมอสโคว์ร้ายกาจรวดเร็วว่องไว จึงเลือกที่เน้นกำชับเกมรับเสียมากกว่า ทั้งยาย่าและเฟอร์นันโดก็ถอยต่ำลงมามาก ทำให้เกมแดนกลางของซิตี้ดูอ่อนลงครับ

ซิตี้ก็ยังเน้นเคาะไปเคาะมา มีลูกฮึดบ้างในการที่จะรุก แต่กลับกลายเป็นว่าจะเปิดก็ไม่เปิด ส่งบอลคืนหลัง พอดูทีมรักของผมแล้วก็รู้สึกหวาดเสียวกับการจ่ายบอลแต่ละครั้งของซิตี้

ด้วยการเล่นที่ไม่เป็นทรงทำให้มอสโคว์เดินเกมบุกและแล้วเรื่องสุดช็อกก็เกิดขึ้นเมื่อเสียงนกหวีดดังจากท่านเปาระบุว่า การฟาลว์ของโคลารอฟมาจากกรอบเขตโทษของซิตี้

แลัวทัพเรือก็โดนซัดเข้าไปอีก 1 ตุง ทำให้เจ้าบ้านตีเสมอมาเป็น 2-2

หลังจากนั้นซิตี้เดินหน้าเกมรุกอย่างต่อเนื่องซึ่งผมดูแล้วก็ตกใจอีกครับกับการจ่ายบอลของซิตี้ ซึ่งรีบร้อนจนสไตล์การเล่นที่สวยงามหายไป และสุดท้ายก็ไม่สามารถเพิ่มสกอร์กันได้จบไปด้วยผลเสมอ 2-2

สรุปรูปเกมสั้นๆ ว่า แมตช์นี้เป็นบอลคนละครึ่งจริงๆ ครึ่งแรก ซิตี้เน้นเอาประตูมาให้มากที่สุด เล่นเกมรุกสนุกและเมามัน โดยมี ยาย่า ซิลบา โคลาลอฟ เป็นตัวชูโรงขับเคลื่อนเกม ซิตี้เน้นการเจาะหาช่องเคาะบอลเล่นกันอย่างใจเย็นครองเกมคุมเกมไว้ได้แทบทั้งเกมและด้วยประสิทธิภาพเกมรุกที่ดุดันทำให้ซิตี้ขึ้นนำมา 2 ประตู

แต่ในครึ่งสอง รูปเกมซิตี้เปลี่ยนไปเน้นเกมรับมากขึ้น ทำให้เสียสองประตู คนที่ผมยกให้เขาในแมตช์นี้และเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุด ขอยกให้กัปตันคอมพานี่ของเราที่อ่านเกมตลอดเวลา 90 นาทีถ้าไม่ได้กัปตัน รับรองครับว่ามีเสียวเยอะกว่านี้แน่

ถึงนัดนี้จะเสมอ แต่เราก็ยังมีอีกหลายนัดครับในเวทียุโรป ผมว่าต้องมีสักเกมที่สามารถพลิกโกงความตายให้ซิตี้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมได้ และอย่างเปเยกรินี่ระบุไว้ครับว่า แฟนๆคือแรงขับเคลื่อนสำคัญของทีม ดังนั้นแฟนชาวไทยต้องช่วยกันเชียร์ทีมนี้ที่เรารักกันต่อนะครับ อย่าเพิ่งถอดใจง่ายๆ

สำหรับเกมหน้า เราจะเปิดบ้านต้อนรับเวสต์แฮม ยูไนเต็ต ซึ่งผมดูแล้วนับว่าไม่ใช่งานง่ายของซิตี้แน่ๆกับฟอร์มการเล่นของขุนค้อนในเวลานี้ บิ๊กแซมน่าจะหาวิธีที่จะรับมือซิตี้ได้แน่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไม่ว่าจะบอลลีก บอลถ้วย ขุนค้อนก็แพ้ให้กับซิตี้ทุกเกม ปีนี้บิ๊กแซมน่าจะจัดเต็มเกมรับแน่ๆ แต่ผมเชื่อครับว่า ซิตี้มีเกมรุกที่ดุดันพอที่จะกำราบขุนค้อน ณ เวลานี้ได้

ขอให้แฟนๆ ลืมฝันร้ายในครั้งนี้ และเตรียมรับฝันดีที่จะมากันครับ

วันนี้ขอลามิตรรักนักเชียร์ชาวไทยไปก่อน สวัสดีครับ

MCFC