Members

คอลัมน์น่าสนใจ :: แมตช์ชิงแชมป์??



     เชลซี - แมนฯ ซิตี้ ถูกมองว่าน่าจะเป็นแชมป์ชิงแชมป์กลายๆ แต่ถ้ามีผลแพ้ชนะเกิดขึ้น รับประกันได้ว่าผู้แพ้พบกับความเสียหายใหญ่หลวง

        ถ้าเชลซีแพ้แต้มเหลือ 2 มันจะทำให้พวกเขาถูกมองว่ายังไม่ชัวร์ขนาดนั้น และมีโอกาสผิดพลาดได้อีก ถ้าเป็นแมนฯ ซิตี้ แพ้แต้มห่าง 8 โอกาสไล่ล่าแชมป์กับเชลซีย่อมถูกมองว่าเริ่มไกลออกไปจากความเป็นจริง

        แน่นอนครับ...นี่ไม่ใช่นัดตัดสินแชมป์

        มันพึ่งเป็นนัดที่ 23 เท่านั้นยังเหลืออีก 15 นัด ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นเชลซีนำ 2 หรือ 8 แต้ม แต่ถ้าจะบอกว่ามันคือโอกาสดีที่ไม่เชลซีหรือแมนฯ ซิตี้ ต้องการชนะเพื่อกุมความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์

        มันน่าจะออกมาด้วยเงื่อนไขนี้

        สำหรับ โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่มีโอกาสไหนดีไปกว่านี้อีกแล้วที่จะดำเนินการลงโทษแมนฯ ซิตี้ ให้หลาบจำ โดยเฉพาะกับผลการแข่งขันที่พร้อมเป็นใจทั้งชนะและเสมอแบ่ง 1 คะแนน นั่นเท่ากับตัดโอกาสแมนฯ ซิตี้ ไปในตัว

        จากนั้นขึ้นกับตัวของพวกเขาเองแล้ว

        เช่นกันครับ ''เรือใบสีฟ้า'' ต้องท่องจำขึ้นใจว่ามันขึ้นกับตัวของพวกเขาเองที่ต้องใช้โอกาสนี้ในการลด ช่องว่างลงเหลือ 2 ไม่งั้นจะต้องไปยืมมือคนอื่นมาช่วย เหมือนปีที่ผ่านมาที่พวกเขาลุ้นแชมป์กับลิเวอร์พูลแล้วเป็น เชลซี กับ คริสตัล พาเลซ ช่วยสงเคราะห์ให้

        แบบนั้นไม่น่าเกิดขึ้นสองปีติดต่อกันนะครับ

        ว่ากันถึงเชลซีก่อนลงสนามมีข่าวไม่สู้ดีเกิดขึ้น นอกเหนือไปจากการยกเลิกการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีตามด้วยการพิจารณาโทษ ดีเอโก คอสต้า ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า ''ผิด'' ในการย่ำ เอ็มเร่ ชาน ของลิเวอร์พูลในศึก ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศนัดสอง

        ผลการพิจารณาโทษโดยคณะกรรมการอิสระ พิจารณาระเบียบและวินัยนักเตะออกไปที่หน้าข่าวแล้วนะครับ

        ตามกระแสข่าวยืนยันว่าน่าจะโดนลงโทษ 3 นัด โดยเป็นผลในเกมที่พบกับแมนฯ ซิตี้ ทันที ถ้าอุทธรณ์ภายใน 24 ชั่วโมงเกรงว่าจะไม่ทันนะสิครับ แล้วอาจโดนเพิ่มไปอีก 1 นัดเป็น 4 เพราะดูตามรูปการณ์ทั้งหลักฐานต่างๆ พบว่า ''ผิด'' ละครับ

        เมื่อมีการคาดกันว่า คอสต้า ''ผิด'' และจะโดนแบน 3 นัด เริ่มจากนัดที่พบกับแมนฯ ซิตี้ นั่นย่อมทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ คิดแผนอื่นในการรับมือ ''เรือใบ'' ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา อาจมาเป็นตัวเป้ายืนค้ำสร้างความกดดันหรือเป็นตัวหลอกให้แดนกลางทะลุขึ้นไป ทำประตู

        นั่นอาจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่อีกหนึ่งตำแหน่งคือจอมแอสซิสต์อย่าง เชส ฟาเบรกาส ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดเตะกับลิเวอร์พูลเมื่อกลางสัปดาห์ เขาเจ็บต้นขา ตามข่าวนี่บางสื่อบอกน่าจะลงได้ บางสื่อบอก 50-50

        ถ้าลงไม่ได้ รามิเรสจะมายืนกลางกับมาติช ถ้าลงได้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ชุดเดิมของพวกเขา ซึ่งไม่น่าจะปรับเปลี่ยนอะไรมากจากกลางสัปดาห์ที่เหนื่อยกับหงส์แดงอยู่พัก ใหญ่ๆ

 

 

        ดูการจัดทีมของมูรินโญ่แล้ว เขาปรับสองสามตำแหน่งอย่างเซนเตอร์ฮาล์ฟนั้นเวลานี้ ซูม่า เข้าคู่กับ จอห์น เทอร์รี่ และ แกรี่ เคฮิลล์ สังเวยตำแหน่งให้ เพราะไปพลาดแบบน่าเกลียดนัดแพ้สเปอร์ส 3-5 ส่วนแบ็กซ้ายลุ้นว่า ฟิลิเป้ ลุยส์ จะถูกอัซปิลิกวยต้าแย่งตำแหน่งได้หรือไม่

        แนวรุกนอกจาก อาซาร์, ออสการ์ แล้ว วิลเลี่ยน น่าจะยืนระยะต่อไป โดย อันเดร เชือร์เล่ รอโอกาสที่ข้างสนาม ตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหา กูร์กตัวส์กลับมาเฝ้าเสาตามเดิมครับ

        แมนฯ ซิตี้ ผู้มาเยือนมีปัญหาเดียวคือ ยาย่า ตูเร่ ยังติดภารกิจแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ทำให้แดนกลางของพวกเขาปรับตัวแบบเลือกไม่ถูกเหมือนกัน โดยเฉพาะนับจากโดนมิดเดิ้ลสโบรช์เขี่ยตกรอบเอฟเอ คัพ อย่างเจ็บแสบ

        แฟร์นานโด กับ แฟร์นันดินโญ่ น่าจะมีคนหนึ่งคนใดนั่งดูนะครับ ไม่น่าจะยืนด้วยกัน ตรงนี้จะมี เจมส์ มิลเนอร์ มาช่วยแดนกลาง โดยมีซิลบาเป็นหัวใจในเกมรุก ขณะที่หน้าสามคน กุน อเกวโร่, โยเวติช และนาบาส ยืนเป็นสามประสาน

        ข้างหลังก็องปานีจะจับคู่กับเดมิเคลิส เพื่อใช้ประสบการณ์ช่วยเบรกเกมรุกเชลซี แบ็กสองข้างกลิชี่กับซาบาเลต้าเหมือนเดิม

        โดยสถิตินั้นต้องยอมรับว่าเชลซีเจ้าบ้านดูดีกว่าพอตัวครับ แค่มูรินโญ่เจอกับเปเยกรีนี่ ทั้งในสเปนและที่อังกฤษนั้นเขาชนะ 7 จาก 11 ครั้งที่พบกัน และล่าสุดเชลซีชนะ 4 แพ้ 2 จาก 8 ครั้งที่พบกับซิตี้

        อีกทั้งยังเป็นทีมที่ชนะแมนฯ ซิตี้ มากที่สุดในลีกเทียบเท่ากับอาร์เซน่อลคือ 22 ครั้ง

        ส่วนสถิติที่งดงามของเชลซีคือการชนะรวดในบ้านตัวเองปีนี้ใน พรีเมียร์ลีกคือยาพิษเหมือนกันนะครับ มันอาจถูกหยุดได้ด้วยทีมใหญ่อย่างแมนฯ ซิตี้ ด้วยผลเสมอหรือบุกมาชนะก็ได้ มันมีโอกาสเป็นเช่นนั้น

        ไม่ต้องคิดมากนะครับเรื่องสถิติมันมีการพูดกันว่าคือความได้ เปรียบเชิงจิตวิทยาของทีมที่สถิติดีกว่าเท่านั้นเอง ถ้าว่ากันถึงฟอร์มและวิธีการเล่นที่จะเอาแพ้ชนะกันผมคิดว่ามันน่าสนใจมากที่ สุดในเวลานี้

        เริ่มจากเชลซีจากแผน 4-2-3-1 และความลงตัวของพวกเขาทำให้ยืนระยะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้ มีหลุดบ้างจนทำให้แต้มหกเรี่ยราด แมนฯ ซิตี้ ไล่มาทันแต่ก็โดนยืดไปอีกครั้งหนึ่ง จุดนี้หลายคนมองว่าเชลซีมีโอกาสนำไปเรื่อยๆ จนคู่แข่งท้อไปเอง

        ถ้าดูจาก 22 เกมที่ผ่านมาพวกเขาพลาดในนัดแพ้สเปอร์สเละเทะ และนั่นมันคืออุบัติเหตุ ซึ่งปีหหนึ่งจะเกิดขึ้นสักครั้ง แพ้แบบงงๆ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ถึงวันนี้ยังมึนๆ อยู่ว่า พวกเขาแพ้สเปอร์สได้อย่างไร

        ประเด็นคือว่า...วันนั้นพวกเขาโดนยิงเป็นเข้าไม่ได้แพ้เพราะแท็ก ติกเป็นรอง แต่มันเป็นเพราะจังหวะทำของสเปอร์ส ทำแล้วได้ประตูทันที ความคมของ แฮร์รี่ เคน ทำให้เชลซีแพ้ นั่นคือสิ่งที่มูรินโญ่น่าจะระวังตัวมากขึ้นเมื่อต้องเจอกับทีมคุณภาพอย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่ไม่สามารถกะพริบตาในความผิดพลาดได้เลย

 

 

        ผมเชื่อว่า มูรินโญ่ วางแผนนัดนี้เล่นเพื่อไม่แพ้ครับ ผลเสมอทำให้แมนฯ ซิตี้ เสียเปรียบมากกว่าเชลซี แต้มยังห่างเท่าเดิม และแมนฯ ซิตี้ เองต้องลุ้นให้เชลซีพลาดในขณะที่ตัวเองต้องชนะและทำให้ได้

        การวางแท็กติกเพื่อผลเสมอของ มูรินโญ่ คือการรับในแดนแต่ไม่ลึกถึงเขตโทษแล้วแต่จังหวะครับ ในทางเดียวกันพวกเขาพร้อมโต้เข้าหาแมนฯ ซิตี้ ตลอดเวลา เพื่อยิงประตูให้ได้ นั่นคือดาบสองคมที่ มูรินโญ่ มักใช้ในการเจอกับทีมใหญ่

        บุกอย่างระวังตัว...มีเกมโต้กลับที่เป็นหัวใจ และรับอย่างอดทนเพื่อผลเสมอ

        ทางฝั่ง เปเยกรีนี่ ไม่มีทางอื่นนอกจากเดินหน้าเข้าหาและใช้ความคล่องตัว เทคนิคของนักเตะเข้าโจมตีเชลซี และพยายามไปให้ถึงหน้าเขตโทษให้ได้เพราะความเก่งของ เรือใบอยู่ที่กรอบโทษคู่แข่งขัน ถ้าเมื่อใดเชลซีปล่อยให้ แมนฯ ซิตี้ ล้อมกรอบเอาไว้หน้าเขตโทษ เมื่อนั้นพวกเขามีโอกาสเสียประตู

        เป็นไปได้คือเชลซีต้องยันไม่ให้แมนฯ ซิตี้ มาไกลถึงหน้าเขตโทษ เล่นเลยครึ่งสนามมาเท่านั้น แล้วพวกเขาหาจังหวะบีบเข้าตัดบอล แย่งบอล หรือทำให้ซิตี้เสียบอล เพื่อตีโต้กลับทันที ไม่งั้นพวกเขาแย่แน่นอน

        จุดนี้ผมเชื่อว่า มูรินโญ่ น่าจะวิเคราะห์วันที่โดนสเปอร์ส สอย 5-3 วันนั้นพวกเขาชะล่าใจและปล่อยให้สเปอร์สมาถึงหน้ากรอบโทษของตัวเอง จึงโดนลงโทษ เกมกับแมนฯ ซิตี้ น่าจะรัดกุมมากกว่า และไม่เปิดพื้นที่ให้พวกเขามากนัก

        ถ้าเกมยืดเยื้อ ดูตื้อๆ มูรินโญ่ก็ไม่ต้องกังวลใจอะไร เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการอยู่แล้ว ตรงกันข้ามถ้ามีโอกาสเผด็จศึกได้ คงไม่ลังเลใจที่จะจัดเกมรุกโต้กลับเล่นงานทางด้านแมนฯ ซิตี้ ทันทีนะครับ

        ที่อังกฤษหลายสำนักระบุว่าเชลซีน่าจะเฉือนชนะแมนฯ ซิตี้ ในวันที่ไม่มี ยาย่า ตูเร่ ได้ แต่ผมมองต่างนะครับ ผมมองว่าโอกาสชนะมีเท่ากับเสมอสำหรับเชลซี เพราะมูรินโญ่ต้องการเบรกแต้ม แมนฯ ซิตี้

        เขาชอบวางแผนเล่นเกมแบบชัวร์และแน่นอนมากกว่าจะเล่นเกมแบบมี สีสัน บุกเป็นบ้าเป็นหลัง เขาเน้นความแน่นอนด้วยการเล่น 1 คะแนน แต่ต้องทำให้กองหลังไม่ถูกกดดันและรับภาระหนักมากต่อตัวรุกของซิตี้      

        ที่เหลือคือโบนัสครับ...สำหรับชัยชนะ      

        เกมนี้อาจจะออกมาน่าเบื่อสำหรับแฟนบอลที่รักสีสันในเกมรุก และดราม่าในเกม ผมไม่เชื่อว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบ สเปอร์ส ชนะ เชลซี 5-3 อีกนะครับ นัดนี้มูรินโญ่เน้นมากและต้องการตัดแต้มแมนฯ ซิตี้

        ถ้าตามแผนก็ตัด 2 แต้ม คือผลเสมอ ถ้าเกินแผนของเขาเรือใบจะโดนตัด 3 แต้มแล้วมาเพิ่มให้เชลซีนำ 8 แต้ม

        ส่วนกรณีที่พวกเขาพลาดท่า แพ้....ผมไม่คิดว่ามันอยู่ในหัวสมองของ โชเซ่ มูรินโญ่ ด้วยเพราะเขาเน้นว่าเชลซีจะไม่แพ้แมนฯ ซิตี้ ในเกมนัดที่ถูกมองว่าชิงแชมป์กลายๆ ส่วนออกมาหน้าเสมอหรือชนะ

        อีกเรื่องหนึ่งครับ...และผมก็เชื่อว่าแมนฯ ซิตี้ จะไม่ชนะเกมนี้ด้วยเช่นกันครับ

___________________^^__________________
Cr.www.siamsport.
ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เวปหลักแมนชิตี้ไทย :http://mcfc.in.th/

Views: 285

Reply to This

Replies to This Discussion

ตื่นเต้นครับ วันนี้แล้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ยังไงซะก้อขอสามแต้มนะครับเรือใบสีฟ้า เพื่อลดช่องว่างให้เหลือ 2 สู้ๆๆๆๆ

มุมมองต่างกันผมเชื่อว่าซิตี้อย่างน้อยก็เสมอ ถ้าลูกแรกมาเร็วผมว่าไม่ต่ำสองลูก

ลุยมานเลยยยยย

ไม่ง่ายหรอกนะเกมนี้....

เพราะจากที่ผ่านมาทรงบอลซิตี้ยังแกว่งนอกซะจากว่าเลนด้วยฟอร์ฒที่สุดยอดจริงๆ....

สำหรับมูคือชิงถ้าชนะ สำหรับมะนวยคือต่ออายุการลุ้นแชมป์

อย่าพลาดนะครับ แมนซิตี้สู้ๆๆๆ
ซิตี้ต้องTop form เท่านั้นสำหรับ3แต้ม

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.