แฟนบอล พอทสมัธ มีอันต้องกระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนานหลังจากทีมรักเพิ่งเปิดบ้านไล่ต้อนผู้มาเยือนอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบสบายเท้า 2-0 จากผลงานของ เกล็น จอห์นสัน และ เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน พร้อมกับทำแต้มหนีห่างโซนตกชั้นเป็น 4 แต้ม และเป็นเกมที่ เดวิด เจมส์ ผู้รักษาประตูของพอร์ทสมัธ สร้างสถิติลงสนามเป็นนัดที่ 536 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดทำลายสถิติเดิมของ แกรี่ สปีด ไปเรียบร้อย

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552
พอร์ทสมัธ 2 - 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : แฟร็ตตัน พาร์ค

เกมตกค้างพรีเมียร์ลีก ที่แฟร็ตตัน พาร์ค พอร์ทสมัธซึ่งมี พอล ฮาร์ท กุนซือขัดตาทัพประเดิมคุมทีมปรับทัพจากนัดก่อนที่แพ้ลิเวอร์พูลคารังสองราย โดยมี เจอร์เมน เพนแนนท์ ซึ่งยืมมาจากหงส์แดง กลับมาลงสนามหลังพลาดบู๊กับต้นสังกัดตามกฎ ขณะที่ นิโก้ ครานชาร์ ซึ่งนัดที่แล้วไม่ฟิตเท่าที่ควร ลงเล่นเป็นเพียงตัวสำรองก็กลับมาเป็นตัวจริง

นอกจากนี้นายทวาร เดวิด เจมส์ ก็สร้างสถิติลงเล่นมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก 536 นัด ทำลายสถิติเดิมของ แกรี่ สปีด ได้อีกต่างหาก

สำหรับแมนฯ ซิตี้ ปราศจาก ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ กับ ริชาร์ด ดันน์ ที่ถูกแบน จึงเป็นเอลาโน่ ที่ได้เสียบแทนเช่นเดียวกับ ชาโลม โลแกน ปราการหลังดาวรุ่งที่ถูกส่งลงสนามในทีมชุดใหญ่เป็นนัดแรก ส่วนปลอกแขนกัปตันตกเป็นของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี

เจ้าบ้านเริ่มเกมอย่างคึกคักและมีโอกาสตั้งแต่นาทีที่ 9 จากจังหวะที่ เกล็น จอห์นสัน ลากบอลบุกขึ้นกราบขวาแล้วตัดเข้าใน ถูกโลแกนเข้าปั๊มเอาไว้ แต่กลายเป็นดีบอลทะลักไปเข้าทางปืน ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่ยืนอยู่ในเขตโทษพอดี แต่ดาวเตะร่างโย่งซัดไปเข้าซอง เชย์ กิฟเว่น อย่างน่าเสียดาย

นาทีต่อมากองเชียร์ปอมปีย์ก็ได้ลุ้นกันตัวโก่งอีกเมื่อ เดวิด นิวเจนท์ โชว์ความแข็งแกร่งกระชากบอลจากกราบซ้ายบริเวณครึ่งสนาม หนีแนวรับแมนฯ ซิตี้ ทุกชีวิตจนหลุดเข้าเขตโทษได้ แต่จังหวะสุดท้ายถูกกิฟเว่นขยับตามไล่ปิดมุมมิดชิดทำให้ซัดออกเส้นหลังไปเอง

เกมของเจ้าบ้านยังเหนือกว่าชัดเจน กระทั่งนาทีที่ 19 ไนเจล เด ยองก์ ก็โดนจดชื่อข้อหายันใส่ครานชาร์น่าเกลียด

จวบจนนาทีที่ 22 เรือใบสีฟ้าจึงมีโอกาสทำเสียวบ้างจากการประสานงานทางกราบซ้ายที่ เวย์น บริดจ์ ไหลบอลเข้ามาให้ เคร็ก เบลลามี่ ป้ายต่อไปที่หน้าเขตโทษอีกทอด แต่เอลาโน่ซัลโวจากระยะ 24 หลาโด่งออกไป

ผ่านมาถึงนาทีที่ 27 ทีมเยือนซึ่งเริ่มทำเกมได้ดีขึ้นก็มาได้ลูกฟาวล์ทางริมกราบขวา ปาโบล ซาบาเลต้า จึงตักบอลเข้าไปหน้าปากประตู แต่ เนดุม โอนูโอฮา โถมโขกไม่แรงพอจึงถูกเจมส์คว้าทัน

ล่วงเข้าสู่นาทีที่ 34 เอลาโน่ก็ลองตะบันจากริมเขตโทษด้านขวา แต่บอลลอยไปเข้าซองเจมส์พอดี

ถัดจากนั้นเกมก็คลายความดุดันลงไปไม่มีจังหวะสร้างความอันตรายกันมากนัก กระทั่งนาทีที่ 42 ครานชาร์ก็ไปรวบ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ คว่ำทำให้เรือใบได้ลูกฟรีคิกระยะ 32 หลา แต่เอลาโน่วิ่งเข้าส่องไปให้เจมส์รับเข้าอก จบครึ่งแรกสกอร์จึงยังนิ่งอยู่ที่ 0-0

น.52 ปอมปีย์เริ่มครึ่งหลังอย่างคึกคัก เกล็น จอห์นสัน เลาะบอลไปทางขวากรอบโทษแล้วยิงยัดแต่เบาไป บอลเข้ามือ กิฟเว่น ง่ายๆ

น.56 จากนั้นไม่นาน เดวิด นิวเจนท์ ก็ทะลุไปทางขวาอีกครั้งแล้วยิงเรียด บอลผ่านหน้าประตูอออกไปทางเสาไกล

น.58 โอกาสของ แมนฯ ซิตี้ ก็พอมีเหมือนกันหลังจาก สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ แทงขึ้นทางขวาให้ เคร็ก เบลลามี่ สอดไปตวัดยิงข้ามคานไปอีก

น.70 มีประตูแรกในเกมนี้เป็นของเจ้าถิ่น เกล็น จอห์นสัน โชว์ลีลากระชากตัดจากริมเส้นทางขวาเข้ากลางหนี เวย์น บริดจ์ มายิงมุมแคบโดน กิฟเว่น ปัดออกมา บอลเด้งมาถึง จอห์นสัน อีกแล้วพาเลาะดึงจังหวะเข้ากลาง ก่อนซัดอีกหนเน้นๆ ไม่เหลือ 1-0

น.75 ไม่นานนักสกอร์บวกเป็น 2-0 จากเตะมุมทางขวา เจอร์เมน เพนแนนท์ วางเตะมุมเข้ากลางให้ เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน โขกเต็มหัวส่งบอลจมตาข่าย

เวลาที่เหลือ แมนฯ ซิตี้ พยายามรุกหนัก กระนั้นสุดท้ายก็ไม่สามารถทำสกอร์ตีไข่แตกได้ จบเกมเป็น ปอมปีย์ เปิดรังเก็บชัย 2-0 คว้า 3 แต้มไปครอง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์ - เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน - เจอร์เมน เพนแนนท์, นิโก้ ครานชาร์, อันเกลอส บาซินาส, ฌอน เดวิส - ปีเตอร์ เคร้าช์, เดวิด นิวเจนท์

แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น - ชาโลม โลแกน, เนดุม โอนูโอฮา, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เวย์น บริดจ์ - เอลาโน่, ไนเจล เด ยองก์, ปาโบล ซาบาเลต้า, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ - โรบินโญ่, เคร็ก เบลลามี่