เตะกันไปครบแล้วทั้ง 8 คู่ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ตัวแทนจากประเทศอังกฤษ ลีกซึ่งมีผู้นิยมชมชอบมากที่สุดในโลก ส่อเค้าว่าจะไปกันไม่ได้ไกลอีกเช่นเคย เพราะไม่มีใครชนะกันได้สักทีม แถมแพ้คาบ้านไป 2 ราย

         เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ออกไปยันเสมอ ปารีส แซงต์แชร์กแมง แชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศส 1-1, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ลีกเมืองผู้ดีรายล่าสุด เปิดบ้านแพ้ บาร์เซโลน่า รองแชมป์ลา ลีกา สเปน 1-2 ส่วน อาร์เซน่อล ก็เฝ้ารังตัวเอง แต่ก็ยังพ่าย อาแอส โมนาโก 1-3 อย่าถามถึงตัวแทนอีกทีมซึ่งได้เล่นรายการนี้ แต่ล่าสุดเลือกไปเอาดีกับ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เรียบร้อยแล้ว แต่โอกาสพวกเขาจะประสบความสำเร็จในรายการนั้น น่าจะง่ายกว่าเพื่อนร่วมชาติบางค่ายที่อาจไม่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

         เหตุการณ์แบบนี้ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น พวกเขาเคยหลุดเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สโมสรในฤดูกาล 2011-12 แต่หลังจากเกมแรกออกสตาร์ทด้วยการพ่ายทั้งคู่ จึงต้องเหลือเพียงรายเดียวในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งคือ เชลซี ที่ต่อมากลายเป็นแชมป์แบบหืดจับ ฤดูกาล 2012-13 ยิ่งแย่กว่าคือไม่เหลือสโมสรเมืองผู้ดีในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทั้งๆออกสตาร์ทนัดแรกของรอบก่อนหน้านั้น ด้วยการเสมอ 1 (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) แพ้ 1 (อาร์เซน่อล) ก่อนมาแก้ตัวได้ด้วยการผ่านรอบ 16 ทีมได้ถึง 3 รายในหนึ่งปีต่อมา

         ฤดูกาล 2013-14 แมนฯ ยูไนเต็ด แก้ตัวสำเร็จ หลังพ่าย โอลิมเปียกอส จากกรีซ 0-2 ในนัดแรก ส่วน เชลซี กลับมาได้เช่นกัน จากเกมแรกซึ่งบุกไปเสมอ กาลาตาซาราย 1-1 แต่ อาร์เซน่อล พ่าย บาเยิร์น มิวนิค 0-2 ก่อนเสมอ 1-1  แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถูก บาร์เซโลน่า เชือดทั้ง 2 แมตช์ 0-2 กับ 1-2 คราวนี้อนาคต "เรือใบสีฟ้า" ส่อเค้าจะซ้ำรอย เพราะแพ้ บาร์ซ่า คาบ้านในเกมแรกเหมือนเคย และการไปเยือน คัมป์ นู วันที่ 18 มีนาคมนี้ ก็มีโอกาสปราชัยกลับมาแบบฤดูกาลก่อน ถ้าทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐานเชี่นที่เกิดขึ้นในนัดล่าสุด

         เชลซี ก็มีโอกาสทำเหมือนฤดูกาลก่อน ที่เริ่มต้นจากผลเสมอ และกลับมาชนะได้ในเกมที่ 2 แต่ต้องถาม แซงต์แชร์กแมง ด้วยน่ะ ว่ายอมหรือไม่ เพราะปีกลายพวกเขาก็หลุดเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เหมือนกัน ก่อนโดน เชลซี หวดตกรอบ (เกมแรก เชลซี แพ้ 1-3 แต่ชนะนัดสอง 2-0 ได้เข้ารอบด้วยกฏประตูทึมเยือน) ดังนั้นถ้ามาเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันที่ 11 มีนาคม แล้วพ่ายตกรอบเพราะทีมเดิมไปอีก นักเตะของทีมแชมป์ฝรั่งเศสคงเจ็บใจแย่ โดยเฉพาะ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังบราซิเลียน ซึ่งย้ายจากอังกฤษไปอยู่ปารีสในฤดูกาลนี้

         ส่วน อาร์เซน่อล เชื่อว่า หลายคนเริ่มทำใจแล้วว่าโอกาสรอดคงเหลือน้อย หลังโดน โมนาโก บุกมาเชือด 3-1 วันที่ 17 มีนาคม พวกเขามีหน้าที่ชนะอย่างน้อย 2 สกอร์ขึ้นไป โดยต้องทำ 3 ประตูด้วย (2-0 ตกรอบเพราะกฏประตูทีมเยือน) หรืออย่างน้อยควรชนะ 3-1 เพื่อลุ้นไปต่อเวลา หนสุดท้ายที่สโมสรจากอังกฤษ เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศพร้อมกัน 3 ราย คือฤดูกาล 2010-11 ตอนนั้นมี เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และ ท็อตต์แน่ม ฮ็อตสเปอร์ โดยคราวนั้น "ปีศาจแดง" ได้รองแชมป์ ส่วน เชลซี กับ สเปอร์ส ร่วงกันไปในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

         "ปืนใหญ่" ตกรอบนี้ 4 ปีซ้อนแล้ว ฤดูกาล 2010-11 แพ้ บาร์เซโลน่า ด้วยประตูรวม 2 นัด 3-4, ฤดูกาล 2011-12 แพ้ เอซี มิลาน ด้วยประตูรวม 2 นัด 3-4 ฤดูกาล 2012-13 รวม 2 นัดเสมอ บาเยิร์น มิวนิค 3-3 แต่ตกรอบด้วยกฏประตูทีมเยือน และฤดูกาล 2013-14 พ่าย บาเยิร์น ด้วยประตูรวม 2 นัด 1-3 จะน่าสงสารมาก หากต้องตกรอบนี้กันอีกหนึ่งฤดูกาล ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าปาฏิหารย์จะเกิดขึ้นเช่นกัน ไม่เช่นนั้นอนาคตของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็อาจถึงคราววิกฤติ เพราะสโมสรเก่าที่เขาเคยคุมนี่เอง

///////////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr.www.siamsport. ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เวปหลักแมนชิตี้ไทย :http://mcfcin.th/