Members

ข้างในกับข้างนอก

http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/150421a9u58910.jpg



      ในความฮาของข้างนอก ความตลกขบขันของบรรดาแฟนบอลภายนอกที่มีต่อลิเวอร์พูล มีต่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มีต่อ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

 

        ไม่ต้องสงสัย ข้างในแอนฟิลด์ ข้างในหัวอกเจอร์ราร์ด ในความรู้สึกนึกคิดของร็อดเจอร์ส

        คือความเศร้าหมองและผิดหวังอย่างถึงที่สุด

        อาจใช่ที่ฟุตบอลน็อกเอาต์นัดเดียว อะไรก็เกิดขึ้นได้ ความพลิกล็อกเป็นของคู่กับเอฟเอ คัพ อยู่เสมอ แต่เมื่อวัดกันถึง "มาตรฐาน" ของลิเวอร์พูล กับแอสตัน วิลล่า แล้ว ถึงอย่างไรลิเวอร์พูลก็เหนือกว่าชัดเจน

        ลิเวอร์พูลอาจแกว่งในช่วงหลัง แพ้แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้อาร์เซน่อล แต่นั่นก็เป็นการแพ้ทีมที่อยู่ ''เหนือกว่า'' แพ้ตามระเบียบความเหมาะสม มาตรฐานของพวกเขายังดีกว่าทีมที่เหลือรองลงไปอีกนับสิบ เห็นได้จากเกมตบนิวคาสเซิ่ล 2-0 ก่อนหน้านี้

        ทว่า ก็อย่างที่ร็อดเจอร์สบอก - ลิเวอร์พูลเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานไปเองในเกมนี้ รวมถึงว่าไม่สามารถป้องกัน "โจ๊กเกอร์" ไพ่ทีเด็ดที่ ทิม เชอร์วู้ด ส่งลงมาอย่าง แจ็ค กรีลิช ได้

        กรีลิช? เจ้าหนูตัวรุกวัย 19 เพิ่งจะมาเป็นตัวจริงในยุคของเชอร์วู้ดนี่เอง ก่อนหน้านี้เป็นสำรองมาตลอดในทีมของ พอล แลมเบิร์ต และก็ได้เล่นรวมแล้วแค่สิบกว่านัด และการส่งลงน้ำเป็นตัวจริงในเกมสำคัญกับลิเวอร์พูลก็ได้ผลออกมาอย่างน่าปลาบ ปลื้ม ความเร็ว และเซนส์บอลของกรีลิชเล่นงานเกมรับหงส์แดงได้อย่างชะงัด มีส่วนร่วมกับทั้งสองประตูที่ได้

        จึงเป็นอันว่าแคมเปญ Get Gerrard to Wembley สิ้นสุดลงตรงนี้ - เพียงรอบตัดเชือก ไม่ใช่นัดชิงชนะเลิศอย่างที่มุ่งหวัง

        และกำลังจะทำให้การปิดฉากของเจอร์ราร์ดกับลิเวอร์พูล แย่ที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้

        ด้วยเพราะผลของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเดียวกัน

        ช่องว่างที่ถูกถ่างออกเป็น 7 แต้ม แม้ลิเวอร์พูลจะยังเหลือคิวเตะตกค้าง 1 นัด แต่ก็ต้องยอมรับโดยดีว่า ตั๋วเข้าร่วมแชมเปี้ยนส์ ลีก ใบสุดท้ายอยู่ในมือแมนฯ ซิตี้ แล้ว

        อดเข้าชิงบอลถ้วยไม่พอ วี่แววจบแค่อันดับ 5-6 ยังสูงลิบ

        จะมีนักเตะคนไหนโชคร้ายกว่าเจอร์ราร์ดอีกไหม?

        ร็อดเจอร์สยังคู่ควรกับหน้าที่การงานในแอนฟิลด์อยู่หรือเปล่า?

        อย่างที่ว่าไปลิเวอร์พูล ตามหลังแมนฯ ซิตี้ 7 แต้มแล้ว

        ภายหลังปรากฏสกอร์ แมนฯ ซิตี้ 2 - เวสต์แฮม 0

        ไม่มีปัญหาและความพลิกล็อกใดๆ เกิดขึ้นที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันเมฆครึ้มสลับแดดเปรี้ยง

        ซิตี้อาจจะอาการหนักก็จริงในระยะหลัง ถูกเขี่ยจากรองจ่าฝูงหล่นปุ๊มาอยู่ที่ 4 บอลถงบอลถ้วยตกรอบเกลี้ยง มานูเอล เปเยกรีนี่ ต้องทำงานท่ามกลางความกดดันสูงลิบก็จริง

 http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O150421H7N5R.jpg

 

        แต่เวสต์แฮมมาเยือนนัดนี้ในสถานะที่ "หนักกว่ากันมาก"

        ทั้งเหย้าและเยือน ชนะนัดเดียวจาก 10 เกม

        เกมเยือน 8 นัดหลัง ชนะใครไม่เป็น

        ชนะเกมเยือนสุดท้าย 2-1 เวสต์บรอมวิช ธ.ค. 2014

        แพ้นัดเยือนมา 2 เกมติด - แพ้อาร์เซน่อล 0-3, แพ้เลสเตอร์ 1-2

        แซม อัลลาร์ไดซ์ เหมือนเพียงทำงานฆ่าเวลา รอให้ซีซั่นจบๆ ไป จะได้หางานใหม่ ผละตัวเองออกจากเจ้าของทีมที่ยุ่มย่ามข้ามหัว ไม่เท่านั้น สภาพทีมก็มีปัญหา หนึ่งในตัวความหวังสูงสุด ดิอาฟร่า ซาโก้ ตามไปสมทบ แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่ห้องพยาบาล

        เมื่อมาเยือนด้วยความหนักกว่ากันมากเช่นนี้ เกมกลางสนามจึงไม่อาจหาแง่มุมไหนให้เกิดความพลิกผันได้เลย

        1-0 อาเดรียน เตะเปิดเกม เฆซุส นาบาส เอาชนะลูกกลางอากาศเหนือ อารอน เครสส์เวลล์ ก่อนเปิดโค้งเข้ากลาง เจมส์ คอลลินส์ เตะสกัดผิดเหลี่ยมย้อยเข้าประตู

        2-0 ยาย่า ตูเร่ พุ่งสไลด์ตัดลูกมาเข้าทาง เซร์คิโอ อเกวโร่ เลี้ยงขึ้นหน้าก่อนปาดออกขวาให้นาบาสตบคืนย้อนกลับมา กุน อเกวโร่ ซัดสวนตัวอาเดรียนง่ายๆ

        ทั้งที่คู่เซนเตอร์แบ็กเป็นคู่ที่แย่ที่สุดเท่าที่จะส่งลง - เอเลียควิม "ไม่รู้วิธีเล่นเซนเตอร์" ม็องกาล่า (นิยามโดย แกรี่ เนวิลล์) ยืนคู่กับ มาร์ติน เดมิเคลิส ผู้เลยจุดสูงสุดมาหลายปี เมื่อกัปตัน แว็งซ็องต์ ก็องปานี บาดเจ็บ แต่แนวรุกเวสต์แฮมก็แย่เกินกว่าจะทำอะไรได้ โอกาสดีสุดมีแค่การลุยเดี่ยวของ เอ็นเนร์ วาเลนเซีย ไปซัดบานผ่านเสาประตูเท่านั้น

        แง่ร้ายเดียวที่ซิตี้มีจากเกมนี้คือปัญหาบาดเจ็บของ ดาบิด ซิลบา จังหวะโดนศอกของ ชีกู กูยาเต้ (หลายฝ่ายลงความเห็นจังหวะนี้ไม่ตั้งใจ) ที่ดูเหมือนว่าจะโหนกแก้มแตก ต้องหามออกพร้อมครอบหน้ากากออกซิเจนก่อนส่งโรงพยาบาลทันที กระนั้นซิลบาก็ทวีตยืนยันในช่วงเย็นวันอาทิตย์ว่าสามารถออกจากโรงหมอ กลับบ้านได้แล้ว และสโมสรก็เสริมในเวลาต่อมาว่า ไม่มีอาการของกระดูกแตกอย่างที่คาด

 

http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O150421C0O3T.jpg

 

        ผลนัดนี้ยังบอกกับเราว่า แมนฯ ซิตี้ ในบ้าน กับแมนฯ ซิตี้ นอกบ้าน เป็นคนละทีมกันอย่างสิ้นเชิง

        นอกบ้าน ซิตี้แพ้มา 4 เกมซ้อน 1-2 ลิเวอร์พูล, 0-1 เบิร์นลี่ย์, 1-2 คริสตัล พาเลซ, 2-4 แมนฯ ยูไนเต็ด ทรงไม่มี จิ้มไปตรงไหนก็มีแต่แผล กะปลกกะเปลี้ยอ่อนเพลียแรง เตะกับใครก็แพ้

        แต่ในบ้านซิตี้ชนะมา 4 นัดรวด 5-0 นิวคาสเซิ่ล, 2-0 เลสเตอร์, 3-0 เวสต์บรอมวิช และ 2-0 เวสต์แฮม ไม่เพียงแต่ชนะ ยังไม่เสียประตูให้ใคร ฟุตบอลจับต้องได้ มีทีเด็ดเกมรุก พร้อมจะบุกทะยานตามเสียงปลุกเร้า คัมมอน ซิตี้ - คัมมอน ซิตี้

        อาจจะเหลวไหลข้างนอก แต่เมื่อกลับมาข้างในแล้ว ซิตี้ ยัง "เชื่อมือ" ได้เสมอ

        แม้ว่าดูตามทรง มานูเอล เปเยกรีนี่ จะไม่น่าได้เวิร์กเพอร์มิตในเอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อไปหลังจบซีซั่นแห่งความมือเปล่า แต่อย่างน้อย การยึดท็อปโฟร์สำเร็จ ก็คงถือเป็นการจากไปพร้อมกับเสียงปรบมือขอบคุณจากแฟนๆ

        ชัยชนะนัดนี้ ถ่างช่องว่างระหว่างซิตี้กับลิเวอร์พูลเพิ่มเป็น 7 แต้ม โดยทีมเรือใบเหลือคิวเตะอีก 5 หงส์เหลือ 6

        แต่ในคิวเตะ 5-6 เกมนั้น ในช่องว่าง 7 แต้มนี้ ซิตี้มีเกมในบ้านถึง 3 นัด กับแอสตัน วิลล่า, ควีนส์ปาร์ค และเซาธ์แฮมป์ตัน

        ต่อให้นอกบ้านเละเทะไม่ได้เรื่องขนาดไหน กลับมาทำตัวดีมีความสม่ำเสมอในบ้าน ก็เพียงพอ--สำหรับซีซั่นนี้

        ก็ด้วยรูปทรงนี้ ทรงที่ซิตี้ยังเชื่อมือได้ในบ้าน และลิเวอร์พูลตามหลังไกล แถมหัวจิตหัวใจยังเป็นคำถามหลังฝันสลายตกรอบเอฟเอ คัพ

        บางทีไอ้ที่ว่า "ยังได้ลุ้นท็อปโฟร์" คงมีความหมายเพียงคำปลอบประโลมใจ

        ของฝั่งลิเวอร์พูลเท่านั้น

 

ไกด์เถื่อน

 

 


 


 

 http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O150421A0T9P.jpg

 

ณ เอติฮัด

        เมื่อวัดกันในตารางรวม แมนฯ ซิตี้ เล่นในบ้านดีสุดเป็นอันดับ 4 รองจากอาร์เซน่อล (3), เชลซี (2) และแมนฯ ยูไนเต็ด (1) ด้วยการชนะ 11 แพ้แค่ 2 จาก 16 นัด ประเด็นอยู่ที่ช่วงหลัง พวกเขาชนะมา 4 เกมรวด และยังเหลือเกมในบ้านอีกถึง 3 จาก 5 นัดท้าย ที่แต่ละคู่แข่งก็ไม่นับว่าเป็นงานยากอะไร เผลอๆ ก่อนถึงเกมปิดซีซั่นกับเซาธ์แฮมป์ตัน จะการันตีท็อปโฟร์ทางการได้แล้วด้วยซ้ำไป

นัดที่    พบ        เกร็ด
34    วิลล่า        วิลล่าชนะเกมเยือน 2 จาก 3 นัดหลัง แต่ก่อนหน้านี้แพ้รวด 6 เกมแบบยิงใครไม่ได้เลย และการพบกับซิตี้ที่วิลล่า พาร์ค ก็เป็นซิตี้ที่บุกทุบนิ่ม 2-0
36    ควีนส์ปาร์ค    คิวพีอาร์ยังคงเป็นบ๊วยของตารางเกมเยือน ชนะแค่ 2 และแพ้ถึง 13 จาก 16 นัด โดยพวกเขาจะต้องไปเยือนแอนฟิลด์และเอติฮัดใน 2 นัดถัดไป
38    เซาธ์แฮมป์ตัน    2-1, 3-1, 3-2 และ 4-1 คือผลของ 4 เกมหลังที่ซิตี้ เปิดบ้านพบทีมนักบุญ ครั้งสุดท้ายที่เซาธ์แฮมป์ตันบุกชนะที่นี่คือ 2003/04 ชนะ 3-1 ซึ่งกลางสนามยังมีนักเตะอย่าง เจมส์ บีทตี้, แกรม เลอ โซ, สตีฟ แม็คมานามาน และ ซุน จี ไห่

 ________________^^_______________
Crwww.siamsport.
ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เวปหลักแมนชิตี้ไทย :http://mcfc.in.th

Views: 349

Reply to This

Replies to This Discussion

เหลืออีก 5 เกม ข้างในบ้านถึง 3 ข้างนอกแค่ 2 ตรงนี้ถือว่าได้เปรียบหงส์อยู่พอสมควร ถ้าแค่รักษาเกมในบ้านเอาไว้ได้ ที่ 4 ก้อไม่พลาดครับ อิอิ ขอให้เปนเช่นนั้น และเรืออาจจะหวังสูงกว่านั้นได้อีกถ้าไม่พลาดเองแล้วผี ปืน สะดุด แมนซิตี้สู้ๆๆๆ

เราต้องยึดอันดับ 4 ไว้ให้เเน่น เเละ ไต่อันดับขึ้นไป หากเป็นไปได้ เเละมีโอกาส

ทีละเกมไป วิลล่าไม่ง่ายถ้าผ่านเกมนี้ไปได้ เกมไก่ก็ไม่น่าจะยากเพราะเป็นทีมเล่นเกมรุก เกมรับเจาะไม่น่าเสียเสียแต่ว่าแผงแบ็คเรือจะเอาอยู่ไหมของเขา แฮรี่เคน กำลังฟอร์มดีไม่แพ้กุนเลย

ขอ 2-3 ละกันครับ ที่ 1 ไม่ไหว ที่ 4 ไม่ง่ายนะครับสำหรับ UCL ขอเน้น ๆ ละกัน 2-3 อิอิ

5 เกม ตัดสินนำลิเวอร์พูลอยู่ 4-7 แต้มค่อนข้างงจะได้เปรียบกว่ามาก ถึง 2 นัด 

อย่าให้พลาดล่ะพี่

คงไม่ถึงแชมป์แค่ที่2-4 ก็ต้องเอาฮะ

ชนะรวดเลยคับ สบายใจดี

และอาจจบอันดับดีกว่านี้ก้ได้คับ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.