​เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ตัวฉกาจของ โวลฟ์สบวร์ก ยอมเปิดเผยครั้งสำคัญถึงการย้ายจาก เชลซี ซึ่งเป็นความต้องการของตัวเขาที่เดินเข้าไปบอกกับ โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีมด้วยตัวเอง หลังจากเริ่มรู้ตัวว่าหมดโอกาสในทีมเพราะแทบจะไม่ได้ลงสนามเลยในช่วง 4 เดือนสุดท้าย

ปีกชาวเบลเยี่ยม โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าทึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมากับทีมหมาป่าเยอรมันจนสามารถจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองจ่าฝูง อีกทั้งยังระเบิดฟอร์มจนสามารถติดทำเนียบ 1 ใน 5 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งยุโรปประจำฤดูกาลอีกด้วย

โดยหลังจาก เดอ บรอยน์ ย้ายจาก เชลซี หลังจบฤดูกาลที่แล้ว ก็ทำให้มีกระแสข่าวว่า เขามีปัญหากับ โชเซ มูรินโญ เรื่องไม่ได้รับโอกาสลงสนาม ซึ่งล่าสุด ปีกวัย 23 ปี ก็ยอมออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่า

"ผมก็ยังไม่เข้าใจนะ ว่าทำไม โชเซ มูรินโญ ถึงยอมให้ผมย้ายออกจากทีมแบบไม่มีทักท้วงอะไรเลย ผมไม่เคยคุยเรื่องนี้กับเขาเลย ผมแค่มีหน้าที่ลงสนาม จนถึงวันสุดท้ายนั่นแหละ"

"หลังจากนั้นอีก 4 เดือนต่อมา ผมก็เลยเปิดใจคุยกับเขา ผมบอกเขาว่า 'ผมไม่ต้องการอยู่ไปวันๆ เพื่อให้ได้ลงสนามแค่นัดละ 10 นาทีหรอกนะ' เขาก็ย้อนผมเลยว่า 'นั่นก็เป็นสิ่งที่นายทำให้เห็นเวลาอยู่ในสนามซ้อมไม่ใช่เหรอ' นี่เขาปัดความรับผิดชอบด้วยการพยายามโยนว่า ผมทำตัวเองล้วนๆ สินะ"

"คือจะให้ผมพูดยังไงมันก็เหมือนคำแก้ตัวทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะไม่มีใครมาเห็นเวลาผมอยู่ในสนามซ้อมนี่! ผมมั่นใจด้วยเกียรติของผมเลยนะว่า กับเบลเยี่ยม หรือในบุนเดสลีกา จะไม่มีอ้างเรื่องไร้สาระแบบนี้ใส่ผมแน่นอน"

"แต่มาคิดๆ ดูแล้ว ผมว่าผมไม่โกรธเขานะ อย่างน้อยเราก็ วิน-วิน ผมได้ย้ายไป โวล์ฟสบวร์ก เชลซีก็ได้ค่าตัวผมไป"

อย่างไรก็ดี อนาคตของ เดอ บรอยน์ หลังจากแจ้งเกิดเต็มตัวกับ โวลฟ์สบวร์ก ก็ทำให้มีข่าวว่า เขาอาจถูก แมนฯ ซิตี้ หรือ บาเยิร์น มิวนิค ทุ่มอย่างหนักในการคว้าตัวมาร่วมทีมช่วงซัมเมอร์นี้