แน่นอนครับ...ในการวิเคราะห์มุ่งประเด็นไปที่การเสีย 6 ลูกของพวกเขา มันต้องมาจากแนวรับ
       
        สถิติ...ตัวเลขบอกเช่นนั้นเมื่อสำรวจดูชุดเกมรับของพวกเขาพบว่าชุด ที่ไม่เสียประตูเลย 5 นัดกับชุดที่เสีย 6 ลูกในสองเกมล่าสุดมีความแตกต่างกัน คิดเฉพาะ 4 กองหลังนะครับ ก่อนหน้านี้ แว็งซ็องต์ ก็องปานี คุมเกมรับกับม็องกาล่า แบ็กสองข้าง ซาญ่า กับ โคลารอฟ กลายเป็นสี่ประสานที่ไม่เสียประตูใน 5 เกมแรก
       
        ทว่า...พอก็องปานีเจ็บ เป็นโอตาเมนดี้กับม็องกาล่า และเป็นโอตาเมนดี้กับเดมิเคลิส คนบ้านเดียวกัน กลับมองตากันไม่เข้าใจอยู่....ออกทะเลซะงั้น โดยเฉพาะนัดล่าสุดโดนเด็กไก่สอย 4 ลูก แม้ว่ามีล้ำหน้า 2 แต่ยกประโยชน์ให้ไลน์แมนเถอะครับ
       
        เป็นกันทั่วโลก...แต่ไม่เห็นแฟนซิตี้จะโวยวายอะไรใหญ่โต กับการเสียประโยชน์เพราะไลน์แมนยกล้ำหน้าพลาด
       
        วิเคราะห์เกมรับแล้วมองเห็นชัดๆ ว่า คู่เซนเตอร์เปลี่ยนคู่ลงมา ทำให้ทีมเสียสมดุล เพราะการโจมตีเมื่อเจาะมาทางคู่พาร์ตเนอร์แนวรับ พบว่าการประสานงานดูไม่กลมกลืนทั้งที่เป็นคนบ้านเดียวกัน พูดกันภาษาเดียว
       
        กลับเป็นการประสานงา...ซะมากกว่า
       
        อย่างน้อยนั่นคือจุดหนึ่งที่ซิตี้พบว่ามันคือการเสียประตู แต่ในทางเดียวกันครั้นจะโทษเกมรับแบบเต็มๆ ตัวเลยคงไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีการสำรวจพบอีกว่าแดนกลางของพวกเขามี แฟร์นันดินโญ่ กับ ยาย่า ตูเร่ ที่น่าจะสุดปึ้ก แต่ทุกครั้งที่โดนโต้กลับ กลายเป็นพื้นที่ว่าง
       
        นัดพบกับเวสต์แฮม เห็นชัดโดนโต้มาเสียประตูและแพ้ในที่สุด
       
        การที่กองหลังรับภาระหนักเกินไปทำให้การป้องกันมีโอกาสผิดพลาด มาแต่ละดอกลุ้นยาก สกัดยาก ยิ่งกองหน้าตัวจี๊ดจ๊าดด้วยแล้วยิ่งน่ากลัว หลังตามไม่ทันหรอกครับ อย่างนัดที่พบกับเวสต์แฮมชัดสุด
       
        นัดเตะสเปอร์สคล้ายๆ กับแบบนั้น แต่ที่น่าทึ่งคือสเปอร์สเล่นแบบไม่กลัวแมนฯ ซิตี้ กล้าแลกหมัดวัดกันไปเลย เพราะมั่นใจว่าหน้าก็มีดี หนึ่งจุดชัดเลยคือแดนกลางของซิตี้กับกองหลังมีช่องไฟเยอะ
       
        มีความหละหลวมทำให้สเปอร์สได้โอกาสโจมตี จากช่องว่างนั้น
       
        หากกองหลัง, แดนกลาง รับผิดชอบเมื่อป้องกัน ...กองหน้าแนวรุกของซิตี้ที่ทำประตูได้ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบจากการที่ไม่มี ความเด็ดขาด อย่างนัดเตะเวสต์แฮม ดูโอกาส ความน่าจะเป็นอย่างเลวร้ายคือเสมอ
       
        นี่แพ้เลย...
       
        การปิดเกมไม่เด็ดขาดมากพอ การสร้างโอกาสยอดเยี่ยมแล้ว เพราะสร้างโอกาสได้เยอะทีเดียว แต่สุดท้ายยิงไม่เข้าเลย ไม่คมพอ มานัดกับสเปอร์ส โอกาสแบบนั้นลดลงไปจากเดิม แถมโดนยิงประตูแต่ละเที่ยวนี้ต้องยอม
       
        เลยเล่นไปแบบออกทะเล
       
        แพ้ 2 นัดติดโดนเพื่อนบ้านแซงขึ้นจ่าฝูง นั่นเป็นการตอกย้ำว่าปีนี้ เต็งแชมป์ทั้งหลายระวังตัวให้ดี มีสะดุดได้โดยง่าย ถ้าไม่เน้น ไม่มีสมาธิมากพอ
       
        โอเค...มันผ่านไปแล้วกับสองเกมหายนะ จะมีมาเติมอีกหรือไม่ขึ้นกับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งซิตี้ปะทะกับมึนเช่นกลัดบัคในกลางสัปดาห์นี้ หลังจากแพ้ยูเวนตุส 1-2 จนทำให้ถูกมองว่าทำไมแมนฯ ซิตี้มีปัญหาเมื่อเล่นในยุโรป
       
        ไม่เคยไปได้ดีเลยสักปี
       
        ถ้าพลาดท่าแพ้กลัดบัคอีก...รับประกันได้ว่าวิกฤตการณ์เข้ามาเยือน และเปเยกรีนี่จะเป็นโค้ชที่ถูกกล่าวขวัญแทนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ปากกล้า ท้าทายแม้กระทั่งกองเชียร์ตัวเองว่า "โรคจิต"
       
        เปเยกรีนี่ต้องตัดไฟแต่ต้นลม...จะทำอย่างไรดี
       
        ทางแก้ของซิตี้อยู่ตรงไหน
       
        ผมมองว่า เปเยกรีนี่น่าจะปรับแท็กติกหันมาเน้นเกมรับแบบคุมโซน และไม่บุกแบบบ้าระห่ำเหมือน 5 เกมแรก เพราะเวลาผ่านไปคู่แข่งศึกษาและดักทางหาจุดอ่อนซิตี้เพื่อโจมตี เวสต์แฮมและสเปอร์ส รวมทั้งยูเวนตุสมองเห็นก่อนใคร
       
        สามนัดนี้ซิตี้เสียไป 8 ลูก...ทีมลุ้นแชมป์ ทีมมีระดับไม่เสียเยอะขนาดนี้
       
        ดังนั้นเชื่อว่า เปเยกรีนี่จะปรับการเล่นเกมรับใหม่ ลดการบุกลงเพื่อให้ความสำคัญในแดนตัวเอง กระทั่งหน้าบ้านของตัวเองอีกด้วย หันมารับแบบคุมพื้นที่ เปิดโอกาสให้คู่แข่งได้เดินเกมบ้าง ในเมื่อพวกเขาเดินเกมรุกแล้วเกิดปัญหาจากการตลบหลัง
       
        ผมเชื่อว่า เปเยกรีนี่จะเปลี่ยนแท็กติกการเล่น รุกน้อยลงแต่จะเน้นการรุกมากขึ้น ไม่ใช่บุกแหลก แต่บุกอย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันการถอนมาคุมพื้นที่ในแดนตนเองเท่ากับเปิดโอกาสให้คู่แข่งเดินเกม ขึ้นมา
       
        ช่องว่างและพื้นที่น่าจะมีให้ใช้ประโยชน์
       
        ไม่ใช่บุกแบบระวังตัวหรือถอยมาตั้งรับเพื่อรอสวนกลับ แบบนั้นก็เป็นหนึ่งในแนวทาง แต่เป็นการถอยดูเชิงและช่วยทำให้การเล่นเกมรับมั่นใจมากขึ้น โอตาเมนดี้จะได้ปรับตัวกับบอลแบบที่เขาไม่คุ้นเคย
       
        ตรงนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นการปรับที่เปเยกรีนี่จะทำ
       
        ส่วนตัวผู้เล่นนั้น...ถ้าปรับคงเป็นคนหรือสองคน เพราะเท่าที่เล่นกันมาก่อนสะดุด ก็ไม่มีอะไรเสียหายมากมายนัก คงไม่เปลี่ยนแบบว่าลงโทษนักเตะ แบบนั้นจิตวิทยาจะไม่ค่อยดี เชื่อว่าน่าจะปรับอย่างเช่น ราฮีม สเตอร์ลิง พัก ซามีร์ นาสรี่ ลงเล่นแทน
       
        อ้อ...เกือบลืมอีกจุดหนึ่งคือ ดาบิด ซิลบา ไม่ได้ลงสนามเลยทำให้เกมรุกดูตื้อๆ นั่นอาจเป็นข้อสังเกต แต่ผมคิดว่าการจัดกระบวนเกมรับของซิตี้มีปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข หากหวังกระชากฝูงคืนจากแมนฯ ยูฯ และไปได้ดีในชปล.
       
        โดยสรุปคือ...เปเยกรีนี่จะปรับกระบวนการเล่นเกมรับ เป็นคุมพื้นที่ ถอนต่ำลงมา เพื่อให้แดนกลางกับหลังเป็นทางเดียวกัน ช่องไฟไม่เยอะ ดูรัดกุม เมื่อพูดถึงการคุมพื้นที่ของพวกเขา ซึ่งใช้ได้ผลในปีที่คว้าแชมป์
       
        ลองสังเกตดูเกมที่พบกับมึนเช่นกลัดบัคดูได้ครับ ดูว่าเปเยกรีนี่จะปรับกลยุทธ์การรับหรือปรับตัวนักเตะในทีม ซึ่งผมคิดว่าแบบแรกน่าจะปรับมากที่สุด เพราะมันคือหัวใจที่จะทำให้ทีมเสียประตูยากขึ้น
       
        เนื่องจากจุดเด่นของซิตี้อยู่ที่การตั้งรับแบบนี้
       
        คุมพื้นที่...รอดัก รอจ้อง แล้วมีจังหวะขึ้นบอลเร็วทันที พวกเขามีอาวุธเด็ดตรงนั้น ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ แบบว่าไม่ต้องบุกมากก็ได้
       
        ลองติดตามดูนะครับ...ว่า เปเยกรีนี่จะปรับการเล่นเกมรับอย่างไร ผมเชื่อว่าปรับที่แผน ไม่ใช่นักเตะ เพราะถ้าเล่นแบบที่เคยเล่นก็ไม่น่าจะโดนเวสต์แฮม, สเปอร์ส ไล่อัดอย่างสนุกเท้า กลายเป็นบอลสูสี ทั้งที่เทียบทุกองค์ประกอบแล้ว ซิตี้เหนือกว่าบานเบอะ
       
        เพียงแต่พวกเขาชนะแมนฯ ซิตี้ได้เพราะได้ใจ รวมทั้งเกมรับที่หลวมๆ ของเรือใบสีฟ้า
       
        ผมคิดว่า...เปเยกรีนี่จะปรับการจัดเกมรับใหม่ ย้อนไปเล่นเหมือนปีสองปีก่อน ถอยร่นในแดนตัวเองเพื่อรอดัก เล่นคุมพื้นที่ ตรงนี้แดนกลางต้องช่วยได้เยอะทีเดียว ทำให้มันรัดกุมเสียยาก ส่วนเกมรุก มองดูแล้วไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของพวกเขา ปรับแค่ใส่สกอร์ให้มันเด็ดขาดเท่านั้น ซึ่งถ้าเกมรับรัดกุม พลาดยาก
       
        เกมรุกยิงกระจายแน่ๆ
       
        ถ้าถามผมนะครับ...ทัศนะส่วนตัวผมมองว่า...นับจากนี้เรือใบไม่น่าจะเสียประตูง่ายๆ ให้เราเห็นอีก
       
        เชื่อว่า เปเยกรีนี่ปรับเกมรับให้แน่นหนา รัดกุม ได้ครับ

Jackie

///////////////////////////////////////////////////////////////

Cr.siamsport.  ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th