แกเร็ธ แบร์รี่ กองกลางป้ายแดง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของค่าตัว 600 ล้านบาท เผยเลือกย้ายซบ "เรือใบสีฟ้า" เพราะเห็นเป้าหมายที่เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน และมีศักยภาพที่ดีกับการประสบความสำเร็จในอนาคต

แกเร็ธ แบร์รี่ มิดฟิลด์หน้าใหม่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรอภิมหาเศรษฐีแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่าเป้าหมายความสำเร็จที่สูงส่งของ "เรือใบสีฟ้า" คือสิ่งที่จูงใจให้ตนเองตัดสินใจยุติชีวิตค้าแข้งในสีเสื้อ แอสตัน วิลล่า เป็นเวลายาวนาน 12 ปี พร้อมด้วยสถิติลงสนาม 400 นัด หลังเพิ่งตกลงเซ็นสัญญา 5 ปี ในสนนค่าตัว 12 ล้านปอนด์ (ราว 600 ล้านบาท) เมื่อวันจันทร์ที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา

กองกลางทีมชาติอังกฤษ กล่าวผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ แมนฯ ซิตี้ ว่า "ผมรู้สึกยินดีที่ได้ย้ายมาร่วมงานกับ ซิตี้ การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการชักนำจาก มาร์ค ฮิวจ์ส หากแต่เป็นเพราะพวกเขากำลังเดินหน้าสู่เส้นทางที่ผมอยากมีส่วนร่วมด้วยต่างหาก มีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมอยู่ที่นี่ และผมก็แน่ใจว่าจะมีการเสริมทัพอีกมากมายในช่วงซัมเมอร์นี้"

ขณะที่ ฮิวจ์ส ก็ร่วมวงกล่าวต้อนรับสมาชิกคนใหม่รายแรกในซัมเมอร์นี้ด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า "ผมอยากจะจัดการข้อตกลงอีกมากมายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเราก็มีการเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมด้วยการย้ายมาร่วมทีมของ แกเร็ธ ผมหวังว่าเราจะได้บรรลุข้อตกลงต่างๆ มากขึ้น หลังจากนั้น เมื่อเรากลับมาจากการฝึกซ้อมปรีซีซั่น เราก็จะมีนักเตะทุกคนฟิตสมบูรณ์ และพร้อมสำหรับฤดูกาลแห่งความสำเร็จต่อไป"

ก่อนหน้านี้ แบร์รี่ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าต้องการจะสัมผัสบรรยากาศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยหลังจากที่ วิลล่า ไม่สามารถแทรกเข้าไปอยู่ในกลุ่ม "ท็อปโฟร์" (ทีม 4 อันดับแรก) ได้สำเร็จ เจ้าตัวก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งแม้จะไม่ได้ตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้า แต่ก็ดูจะมีอนาคตที่สดใสกว่า "สิงห์ผงาด" จากการสนับสนุนงบประมาณไม่มีอั้นจากเจ้าของสโมสรอย่าง "อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป" นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวบางกระแสกลับเชื่อว่าห้องเครื่องวัย 28 ปี เลือกย้ายสังกัดเพราะได้เงินค่าเหนื่อยสูงถึง 80,000 ปอนด์ (ราว 4 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ต่างหาก



(ตกลง ค่าเหนื่อยเท่าไรกันแน่ และบางข่าวก็ว่าลง 365 แต่อันนี้ว่าลง 400นัด555+)