มานูเอล เปเยกรีนี่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อว่า ทีมของตนจะต้องพบกับงานที่ยากลำบากอย่างแน่นอน สำหรับเกม แคปปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ที่ทัพ "เรือใบสีฟ้า" มีคิวเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับมือ เอฟเวอร์ตัน วันพุธที่ 27 มกราคมนี้ เนื่องจากทีมคู่แข่งจะมีความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ หลังจากที่ไม่ได้แชมป์รายการใดมาร่วม 20 ปี
ความสำเร็จครั้งล่าสุดของทืม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" คือการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1995 ซึ่งเป็นการโค่น แมนเชสตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในเกมรองชิงชนะเลิศ
"มันเป็นครั้งที่สามแล้วที่เราต้องดวลกับ เอฟเวอร์ตัน ในเดือนนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงรู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี เรารู้วิธีการเล่นของพวกเขา และรู้จักนักเตะแกนหลักของพวกเขาเป็นอย่างดีด้วย แต่ฟอร์มการเล่นของเราเป็นสิ่งที่สำคัญสุดในการตัดสินครั้งนี้ มันเป็นเกมที่สำคัญสำหรับพวกเรา กับพวกเขาก็เช่นกัน การได้เข้าไปเล่นเกมรอบชิงฯ ที่ เวมบลีย์ เป็นอะไรที่มีความหมายมาก"
"ด้วยการที่ไม่ได้สัมผัสเกมรอบชิงฯ มาเป็นเวลานาน มันอาจจะทำให้ เอฟเวอร์ตัน มีแรงกระตุ้นมากเป็นพิเศษ แต่ผมมั่นใจว่า ทีมเราจะทุ่มเทกันแบบสุดชีวิตแน่นอน เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศให้ได้" เปเยกรีนี่ กล่าว โดยเกมแรก เอฟเวอร์ตัน เป็นฝ่ายซิวชัยด้วยสกอร์ 2-1
*****************************************************************
Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th
Tags:
มาถึงจุดนี้แล้วอย่าได้หวั่นครับ แชมป์ครับแชมป์ สู้ๆๆ
ผมว่าเปเย เล่นวางแผนแบบเดิมคือกลัวแพ้ และไม่กล้าใส่กองหน้าคู่ กุน-อิเฮีย สุดท้ายก็แพ้แน่นอน
นัดนี้ต้องจัด 2 เม็ดไปเลย แล้วเก็บคลีนชีตให้ได้ สู้เต็มที่อย่ากลัวและจัดตัวมั่ว ๆ นะบอส
..เกมคืนนี้ซิตี้จะเก็บ 3 แต้มได้ยาก เพราะเปเญ่จะวางแผนแบบกล้าๆกลัว..
..ยากที่จะเห็น 4-4-2 หน้าคู่ กุน-นาโช่ตั้งแต่ต้นเกม แต่อาจจะได้เห็นเมื่อโดนไป 1-2 ลูก..
..เกมคืนนี้แข่งในบ้านก็ไม่ได้เปรียบเพราะถูกนำ 1 ประตูไปแล้วตั้งแต่นาทีแรก..
..แต่โอกาสดวลจุดโทษก็มีความเป็นไปได้สูง..
..การที่ไม่มีโจ ฮาร์ท ในเกมดวลจุดโทษมันเป็นอะไรที่หวังยาก !
ชนะแค่ 1-0 ก็ได้แล้วใช่มั้ยครับ เพราะนัดแรกยิง 1 ตามกฏประตูทีมเยือน?
อย่าประมาทมาตี้เคยทำเราเจ็บแสบในบอลถ้วยนัดชิงมาแล้ว
มีสมาธิที่ทีมตัวเองก็พอแล้วอย่าไปคิดเยอะแยะเกินไปเดี๋ยวจะเสียระบบ
ไม่มีทีมไหนไม่สู้หรอกอีกก้าวเดียวเอง
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by