ผีตกรถ ?
ตลาดนักเตะปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ตื่นเต้นสุดๆ แค่เดือนแรกของซัมเมอร์ก็จับจ่ายกันคึกคัก และทำท่าว่าเดือนหน้าจะยิ่งร้อนแรงขึ้นอีก โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกอังกฤษกับลาลีก้า สเปน สองลีกที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้
ลอตแรกของซัมเมอร์แฟนๆ ได้ซี้ดกับการย้ายทีมแบบทำลายสถิติโลก ของกาก้ากับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่วนเดือนกรกฎาคมก็น่าจะตามมาด้วยคาร์ลอส เตเวซ ฟรอง ริเบรี่ ซามูแอล เอโต้ และอาจรวมถึงดาบิด บีย่า ชาบี้ อลองโซ่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซึ่งล้วนเป็นพวกเวิลด์คลาสทั้งนั้น
เรอัล มาดริด ออกสตาร์ตได้ฮือฮา ทำท่าจะคว้าทุกคนที่อยากได้ไปสร้างทีมรวมดาราโลก แต่ช่วงหลังๆ กระแสแมนฯ ซิตี้กลับค่อยๆ ตีตื้น กลายเป็นเจ้าบุญทุ่มเบอร์ 2 และถ้าคว้า นักเตะที่เล็งไว้มาได้ซัก 80 เปอร์เซ็นต์ ก็มีหวังอัพเกรดขึ้นเป็น ผู้ท้าชิงแชมป์รายใหม่สบายๆ
ซิตี้ซื้อแกเร็ธ แบร์รี่ กับโรเก้ ซานตาครูซ เข้ามาแล้ว ขณะที่คาร์ลอส เตเวซ ก็มีข่าวยืนยันว่าชัวร์ เหลือแค่รอเปิดตัวอย่างเป็นทางการเท่านั้น
ยังไม่พอครับ เรือใบสีฟ้ายังจะเอาซามูแอล เอโต้ มาช่วยถล่มประตู กับสนโจเลี่ยน เลสค็อตต์ กองหลังเอฟเวอร์ตันอีกคน
ลองนึกภาพแมนฯ ซิตี้ที่มีสตาร์หน้าใหม่ๆ พวกนี้หลอมรวมเข้ากับตัวเดิมๆ อย่างโรบินโญ่ เอลาโน่ ฌอน ไรท์ ฟิลิปส์ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ เคร็ก เบลลามี่ ไมก้า ริชาร์ดส์ เชย์ กิฟเว่น เรือใบฤดูกาลหน้ามีหวังแปลงร่างเป็นสปีดโบ๊ตแล่นฉิวไม่ยาก
ที่สำคัญขณะที่ซิตี้ซื้อเอาๆ แมนฯ ยูไนเต็ดกลับมีแต่เสีย ปล่อยไปทั้งโรนัลโด้, เตเวซ ส่วนตัวที่อยากได้ทั้งคาริม เบนเซม่า, ฟรอง ริเบรี่ กลับยังมองไม่เห็นแววทั้งคู่
ปีศาจแดงรวยร่ำแค่ไหนใครๆ ก็รู้ แต่มันแปลกที่อำนาจซื้อหรือกระแสดึงดูดนักเตะดันเป็นรองกระทั่งแมนฯ ซิตี้ ส่วนเรอัล มาดริด ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะใจป้ำกว่ากันเยอะ
แล้วคิดดูว่า ถ้าเชลซีออกโรงในเดือนหน้า แมนฯ ยูฯจะยิ่งอึดอัดขนาดไหน
ตรงนี้มองได้สองแง่ หนึ่งคือปีศาจแดงได้งบฯซื้อนักเตะ
ไม่มาก เพราะผู้บริหารหมุนเงินไปใช้อย่างอื่น หรือประเด็นที่สอง กุนซือเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่บ้าไปตามความเคลื่อนไหวในตลาด เลือกซื้อนักเตะที่อยากได้จริงๆ และค่าตัวสมเหตุสมผลเท่านั้น
แต่ไม่ว่าเป็นกรณีไหน แมนฯ ยูไนเต็ดก็ต้องระวังรวมทั้งเตรียมตัวรับความท้าทายทั้งในประเทศและบอลยุโรปไว้ล่วงหน้าได้เลย
ขาดโรนัลโด้กับเตเวซเท่ากับขาดตัวเทคนิคความเร็วสูงพลิกเกมเก่งไป 2 คน แล้วสองคนที่ว่าก็คุณภาพระดับโลก ผ่านเกมทีมชาติมาโชกโชน การอุดช่องว่างตรงนี้จึงไม่ง่ายเลย
ผมเชื่อว่าแมนฯ ยูฯจะไม่เหมือนเดิม แต่จะมีผลกระทบแค่ไหนก็อยู่ที่ทีมอื่นด้วย นิวแมนฯ ซิตี้เกมรุกหวือหวาแน่ แต่เกมรับเหนียวไหม เล่นเอาแต้มเก่งหรือเปล่า ลิเวอร์พูลอาจได้เกลน จอห์นสัน แต่ถ้าเสียชาบี้ อลองโซ่ กองกลางก็ยวบ ส่วนเชลซี ต้องรอดูว่าจะปรับสภาพเข้ากับกุนซือใหม่ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้เร็วหรือช้า
จับตาดูความเคลื่อนไหวกันต่อไปนะครับ
คอลัมน์ คุยกับเอกราช
โดย เอกราช เก่งทุกทาง
http://www.matichon.co.th/prachachat/view_news.php?newsid=02spo0129...