วีรกรรมแสบซ่าของ 'โนล กัลลาเกอร์' ที่ 'เด็กปิศาจแดง' จำไม่ลืม!
วีรกรรมแสบซ่าของ 'โนล กัลลาเกอร์' ที่ 'เด็กปิศาจแดง' จำไม่ลืม!
——————————————————————
• "Who the f*ck are Man United?" วลีอันลือลั่นที่สองพี่น้องกัลลาเกอร์แห่ง Oasis เคยร้องแซะทีมสโมสรฟุตบอล Manchester United บนเวทีคอนเสิร์ต เป็นการประกาศก้องอย่างชัดเจนถึงจุดยืนที่เหมือนกันของโนลและเลียม ทั้งคู่เป็นแฟนบอลที่เหนียวแน่นของทีมสโมสรฟุตบอล Manchester City มาตั้งแต่จำความได้ เพราะพ่อก็เชียร์แมนซิตี้และเคยพาพี่โนล-น้องเลียมไปดูแมนซิตี้แข่งฟุตบอลด้วย ทำให้ลูกๆได้รับอิทธิพลเลือดสีฟ้าเข้มข้นไปโดยปริยาย ดังนั้นในความคิดของพี่น้องกัลลาเกอร์แล้ว 'แมนซิตี้' VS 'แมนยูไนเต็ด' จะเป็นเสือสองตัวที่อยู่ถ้ำ (เมือง) เดียวกันไม่ได้
• แม้ว่าปัจจุบันนี้ทั้งคู่จะไม่ได้แท็กทีมแขวะแมนยูไนเต็ดบนเวทีเดียวกัน แต่ต่างฝ่ายก็ยังคงรักษาความเป็นแฟนบอลเดนตายของแมนซิตี้อย่างไม่เสื่อมคลาย แฟนเพลง Oasis เขาจะรู้กันดีว่าเมื่อไหร่ที่สองทีมนี้มีนัดฟาดแข้งกัน ก็เตรียมอ่านทวิตอันเผ็ดร้อนของเลียมได้เลย เลียมถึงกับเคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้แมนยูไนเต็ดหายไปจากโลกนี้ แถมยังเคยจัดอันดับให้แมนซิตี้เป็นสิ่งที่รักมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 รองมาจากตัวเอง คุณแม่ ลูกและเมีย เท่านั้นยังไม่พอเพราะวง Beady Eye ของเลียมเคยร้องเพลง 'Blue Moon' ให้ทีมรักด้วย
• ในขณะเดียวกันด้านโนลเองก็หอบธงแมนซิตี้ตระเวนไปเล่นคอนเสิร์ตทั่วโลก ถ้าใครตาดีหน่อยจะสังเกตเห็นว่าผืนผ้าสีฟ้าที่อยู่บนเวทีของ Noel Gallagher's High Flying Birds จะมีตราสัญลักษณ์แมนซิตี้โชว์หราอยู่ นอกจากนี้เพลง Wonderwall ที่เขียนจากปลายปากกาของโนลก็ยังกลายเป็นเพลงเชียร์บอลที่สาวกเรือใบสีฟ้าร้องกันกระหึ่มในสนาม เพื่อเป็นการส่งกำลังใจให้นักเตะของพวกเขาทำหน้าที่เป็น 'กำแพงวิเศษ' ในศึกแห่งศักดิ์ศรี
• ความรักที่สองพี่น้องกัลลาเกอร์มีต่อทีมรักชนิดที่แทบจะถวายหัวนั้น กลายเป็นอีกหนึ่งสีสันที่แฟนเพลง Oasis เขารู้กัน อีกทั้งยังเป็นประเด็นที่มักถูกยกมาเกทับกันตามประสาคอบอล เพราะแน่นอนว่ามีแฟนเพลงจำนวนมากที่เป็นเด็กปิศาจแดงแต่ก็รัก Oasis ไม่เพียงเท่านั้นเหล่านักเตะระดับตำนานของแมนยูไนเต็ดอีกหลายคนก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Oasis เช่นกัน ส่วนผสมที่ลงตัวแต่ไม่ค่อยจะกลมกลืนเหล่านี้จึงกลายเป็นเสน่ห์ระหว่าง Oasis VS แมนยูไนเต็ด VS แมนซิตี้
• แต่ถ้าเรื่องราวการยืนเคียงข้างทีมแมนซิตี้ของสองพี่น้องกัลลาเกอร์จบลงแค่นี้ ก็คงจะไม่ใช่ยี่ห้อกัลลาเกอร์ของแท้ เพราะทั้งคู่ได้สร้างวีรกรรมสุดแสบชนิดที่อาจทำให้เด็กผีแดงไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายความเกรียนของพี่้น้องคู่นี้ได้ เริ่มกันวีรกรรมแบบน้ำจิ้มเบาๆของคนน้องอย่าง 'เลียม กัลลาเกอร์' โดยในสมัยวัยรุ่นหลังเลียมถูกไล่ออกจากโรงเรียน เขาก็ตระเวนทำงานพิเศษไปเรื่อย และเคยทำงานเป็นพนักงานของ Valet Service (บริการรับฝากรถ) ด้วย ในตอนนั้นเลียมต้องไปทำงานในลานจอดรถของทางแมนยูไนเต็ด ผลคือนายเลียมแกล้งตัวท็อปผีแดงไปหลายคน เช่น แอบขว้างถังน้ำใส่หัว 'ไรอัน กิกส์' , ขูดรถออดี้ของ 'เอริก ก็องโตนา' และ ขูดรถ BMW ของ 'พอล อินซ์'
• ทีนี้มาดูวีรกรรมของคนพี่อย่าง 'โนล กัลลาเกอร์' กันบ้าง เพราะแต่ละอย่างที่ป๋าแกทำนั้น ได้สร้างความสยองให้แก่นักเตะระดับตำนานของแมนยูไนเต็ด จนกลายเป็นอีกหนึ่งวีรกรรมแสบแบบขึ้นหิ้งที่สาวกปิศาจแดงต่างพากันขยาด ส่วนสาวกเรือใบสีฟ้าก็กระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความรู้สึกภูมิใจในตัวหัวหน้าโนล มี 2 วีรกรรมสุดกวนโอ๊ยที่ป๋าโนลแกไปสำแดงฤทธิ์เดชไว้กับตัวท็อปของแมนยูไนเต็ดจนกลายเป็นเรื่องที่ทั้งกวนตีนทั้งฮา ถูกเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ แฟนๆชาวไทยก็น่าจะเคยได้ยินมาบ้าง ;
➤ (1.) เวย์น รูนีย์
• ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของปิศาจแดงอย่าง 'เวย์น รูนีย์' ก็เป็นแฟนเพลงที่เหนียวแน่นอีกคนหนึ่งของ Oasis โดยในปี 2007 Colleen McLaughlin แฟนสาวของเขาตั้งใจจะมอบของขวัญสุดพิเศษเพื่อเซอร์ไพรส์วันเกิดปีที่ 22 ให้รูนีย์ด้วยการส่งกีตาร์ Gibson Les Paul ราคา 2,000 ปอนด์ (ประมาณ 89,000 บาท) ไปให้ต้นสังกัดของ โนล กัลลาเกอร์ เพื่อให้โนลจารึกลายเซ็นเท่ๆลงบนกีตาร์ตัวนี้ แฟนก็คงหวังดีเห็นรูนีย์ชอบ Oasis ซะขนาดนั้น แต่หารู้ไม่ว่ากีตาร์ตัวนี้ได้ตกไปอยู่ในมือมารเรือใบสีฟ้าซะแล้ว เพราะป๋าโนลดันชวน เจ็ม อาร์เคอร์ (มือกีตาร์ Oasis ในขณะนั้น) มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นเอกด้วยการพ่นสเปรย์สีฟ้าทับกีตาร์และเขียนเนื้อเพลง Blue Moon ซึ่งเป็นเพลงประจำทีมแมนซิตี้ลงไปบนนั้น พร้อมเจิมคำว่า "M.C.F.C" และ "We are city" แต่สุดท้ายก็ไม่ลืมที่จะเขียนข้อความคำว่า "Happy Birthday Fatboy" กำกับไปด้วย (A.ดูรูปในคอมเม้นท์)
• หลังจากส่งกีตาร์ตัวนี้กลับไปให้รูนีย์ ดาวเตะคนนี้ก็ดีใจมากที่ได้ของขวัญจากไอดอล เพราะเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Oasis แต่ทันทีที่เปิดกล่องออกก็ต้องผงะเพราะเลือดสีฟ้าของป๋าโนลแกข้นจริงๆ 555 รูนีย์เคยให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจมากที่ได้ของจากโนล แต่ก็ผิดหวังนิดหน่อยกับข้อความบนนั้น มีข่าวว่าตอนแรกรูนีย์จะนำกีตาร์ไปประมูลเพื่อการกุศล แต่สุดท้ายแล้วทุกวันนี้รูนีย์ก็ยังคงเก็บรักษากีตาร์ตัวนี้ไว้อย่างดี (รูนีย์ยังมีกีตาร์อีกหลายตัวที่เก็บสะสมลายเซ็นของศิลปินดังๆไว้ หนึ่งในนั้นคือลายเซ็นของพอล แม็กคาร์ทนีย์) แต่เหมือนเคยอ่านเจอเหมือนกันว่าหลังจากรูนีย์ได้กีตาร์จากโนล รูนีย์ก็ส่งรูปตัวเองในนัดที่ทำประตูแมนซิตี้ได้กลับไปให้โนลเป็นการแก้เผ็ดเหมือนกัน 555 แต่อันนี้ไม่รู้จริงหรือเปล่านะ
➤ (2.) แกรี เนวิล
• จากคำกล่าวที่ว่า 'มนุษย์ไม่เคยเรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์เลย' ท่าจะจริง เพราะหลังจากที่เวย์น รูนีย์โดนป๋าโนลเจิมไปแล้ว คราวนี้ 'แกรี เนวิล' อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษและกัปตันระดับตำนานอีกคนของแมนยูไนเต็ดก็อยากได้กีตาร์ที่มีลายเซ็นศิลปินคนโปรดบ้างเหมือนกัน โดยคราวนี้เนวิลส่งกีตาร์ลายธงชาติอังกฤษ หรือที่เรียกกันว่า Union Jack Guitar ไปให้โนล กัลลาเกอร์เซ็นบ้าง (กีตาร์ซิกเนเจอร์แห่งยุค 90 ที่โนลเป็นคนแรกที่ใช้ อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/2qxg1kd)
• โดยเนวิลได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวผ่านภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The Class of'92 (2013) ว่า เขาไม่ควรที่จะแปลกใจกับสิ่งที่รับจากป๋าโนล เพราะสิ่งที่เขาได้กลับมาคือ ข้อความคำว่า "M.C.F.C" นอกจากนี้เนวิลยังโพสต์ภาพลงในทวิตเตอร์พร้อมแคปชั่นขำๆว่า "นี่คือการก่ออาชญากรรมบนสมบัติของผู้อื่น" เพราะหลังจากที่เขาพลิกกีตาร์ ก็พบข้อความเด็ดด้านหลังนั้นซึ่งเขียนด้วยลายมือของโนล (B.ดูรูปในคอมเม้นท์)
• "ถึงแกรี มึงเล่นให้อังกฤษไปแล้วกี่นัด แล้วมึงคิดว่ามึงสมควรลงเล่นให้อังกฤษจริงๆกี่นัด คือกูจะบอกให้นะ มึงมันไม่สมควรได้ลงเล่นเลยแม้แต่นัดเดียวว่ะ ด้วยรักจ๊ะ...จากโนล กัลลาเกอร์ แมนเชสเตอร์ซิตี้"
//////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr. All about RKID ติดตามข่าวสารได้ที่เว็บหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th
© 2024 Created by thaiMCFC.
Powered by
