ประเด็นเรื่องการดึงนักเตะดาวรุ่งมาร่วมทีมของสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรป กลายมาเป็นประเด็นร้อนกันอีกครั้ง หลังจาก "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งลงโทษห้ามซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทัพเป็นเวลา 18 เดือน จนถึงช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม ปี 2011 เนื่องจากกรณีไปกล่อมให้ กาแอล กากูต้า มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ยอมฉีกสัญญากับ ล็องส์ ต้นสังกัดเก่า ใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส เพื่อย้ายมาค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2007 ในขณะที่อีก 2 ทีมดังจากเมืองแมนเชสเตอร์ อย่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ส่อแววจะโดนหางเลขในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

เลอ อาฟร์ ทีมลูกหนังในดิวิชั่น 2 ลีกเมืองน้ำหอม ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง ฟีฟ่า เรียบร้อยแล้ว จากกรณีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาคว้าตัว ปอล ป็อกบา กองหลังดาวรุ่งวัย 16 กะรัต ไปร่วมทีมแบบผิดกฎ โดย เลอ อาฟร์ เชื่อว่า ทีมแชมป์พรีเมียลีก แอบยื่นข้อเสนอมูลค่าสูงให้กับพ่อแม่ของนักเตะ ขณะที่ "ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนติน่า แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ก็เป็นอีกทีมที่ตั้งตัวเป็นโจทย์ยื่นคำร้องต่อองค์กรลูกหนังโลก หลังจากทีม "ปีศาจแดง" ไปดึงตัว มิเคเล่ ฟอร์นาซิเย่ร์ กัปตันทีมชาติอิตาลี ชุดอายุต่ำกว่า 16 ปี มาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ทางด้าน ทีมเรือใบสีฟ้า เป็นอีกทีมที่เตรียมจะถูก ฟีฟ่า สั่งดำเนินการสอบสวนเช่นเดียวกัน หลังจากโดน แรนส์ ทีมจากลีกเมืองน้ำหอม ยื่นเรื่องร้องเรียน กรณีที่ไปฉกตัว เฌเรมี่ เอล็อง ปราการหลังดาวรุ่งวัย 17 ปี มาร่วมถิ่น ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อปี 2008 แม้ ทีมเจ้าบุญทุ่มแห่งเกาะอังกฤษ จะเคยออกแถลงการณ์ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ในการเซ็นสัญญากับแข้งดาวรุ่งรายนี้แล้วก็ตาม

เรื่องราวอื้อฉาวในวงการลูกหนัง เกี่ยวกับการดอดไปฉกแข้งดาวรุ่งมาร่วมทีม ทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ฟีฟ่า รวมถึงสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ที่นำโดยหัวเรือใหญ่อย่าง มิเชล พลาตินี่ เตรียมจะออกกฎห้ามซื้อขายนักเตะที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งองค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันฟุตบอลหลายแห่งก็ออกมาขานรับกับแนวคิดดังกล่าว รวมทั้ง กอร์ดอน เทย์เลอร์ ประธานบริหารสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ที่เชื่อว่า การออกกฎห้ามซื้อพ่อค้าแข้งอายุต่ำกว่า 18 ปี จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบที่ "สิงห์บลูส์" กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ได้

แต่สโมสรยักษ์ใหญ่ รวมถึงบรรดาผู้จัดการทีม ต่างก็ออกมาคัดค้านแนวคิดนี้ โดยเฉพาะ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น "ตัวพ่อ" ของการฉกแข้งดาวรุ่งมาร่วมทีม และเคยฝากผลงานไว้กับ เชส ฟาเบรกัส กัปตันทีมคนปัจจุบัน ซึ่ง กุนซือเลือดน้ำหอม ไปดึงตัวมาจาก "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ตั้งแต่อายุได้เพียง 16 ปี ก่อนที่นักเตะจะทันได้เซ็นสัญญาค้าแข้งอาชีพกับ ยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นคาตาลัน

นายใหญ่แห่งถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ออกมาค้านหัวชนฝา เกี่ยวกับกฎห้ามซื้อขายนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยกล่าวว่า "ถ้าคุณมีเด็กคนหนึ่ง ซึ่งมีพรสวรรค์ทางด้านฟุตบอล แล้วอะไรคือโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะพัฒนาขึ้นมาในฐานะนักเตะคนหนึ่ง ถ้าคุณมีลูกชายวัย 16 ปี และเขาต้องการเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ คุณจะห้ามเขาได้หรือ? ถ้าคุณมีเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรี คุณคงพยายามส่งเขาเข้าเรียนในสถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียง แทนที่จะเป็นสถาบันทั่วๆ ไป แล้วทำไมสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นกับฟุตบอลบ้างไม่ได้?"

"เราซื้อแข้งดาวรุ่งเข้ามาร่วมทีม เรามีแผนที่จะให้โอกาสพวกเขาได้ลงสนาม เราผลักดัน เราฝึกฝนพวกเขา และเราเปิดโอกาสให้กับทุกคน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมเราถึงประสบความสำเร็จในวิธีที่เราปฏิบัติ ฟีฟ่า สามารถมาที่นี่ได้ และผมจะเปิดประตูต้อนรับให้พวกเขาเข้ามาตรวจสอบได้ตามสบาย เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเราทำอะไร และเราดูแลเด็กๆ ของเราอย่างไรบ้าง นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกที่"

"คุณต้องคิดว่า สิ่งไหนที่จะมอบโอกาส และความรู้ที่ดีที่สุดให้กับเขา และการจะก้าวไปเป็นนักเตะที่ดีที่สุดได้ คุณจำเป็นต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด นั่นเป็นกฎขั้นพื้นฐาน ผมอยู่ในวงการนี้มานานพอที่จะทำให้เชื่อได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเรียนรู้อีกแล้ว เราดึงผู้เล่นดาวรุ่งจากที่อื่นเข้ามาเต็มที่เพียงแค่ 1-2 คนต่อปีเท่านั้น ไม่ได้นำเข้ามาปีละ 30 คนอย่างที่ใครๆ คิด เราให้ความรู้ระดับสูงสุด พร้อมทุนการศึกษาระดับสูงสุด และดูแลพวกเขาให้อยู่ร่วมกันเป็นสังคม"

กุนซือ "เดอะ กันเนอร์ส" ยังเชื่อว่า การห้ามซื้อขายแข้งดาวรุ่งที่อายุไม่เกิน 18 ปี จะยิ่งทำไปสู่การกระทำที่ไร้จรรยาบรรณมากขึ้น โดยกล่าวว่า "สิ่งนี้จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป ไม่ว่า ฟีฟ่า จะออกกฎนี้ได้สำเร็จหรือไม่ คุณคิดว่าบรรดาสโมสรทั้งหลายจะยอมรอจนกระทั่งนักเตะอายุถึง 18 ปี ก่อนที่จะซื้อพวกเขามาร่วมทีมหรือ? พวกเขาจะรีบทำมันก่อนเป็นอันดับแรกเลยต่างหาก แม้มันจะเป็นการเซ็นสัญญาล่วงหน้าก็ตาม"

"และถ้าคุณห้ามนักเตะย้ายทีมก่อนอายุ 18 ปี นักเตะเหล่านั้นจะถูกขายให้กับบรรดานายหน้าตั้งแต่อายุ 13-14 ปี แล้วพวกเขาจะไปที่ไหนต่อ? ไม่ใช่สโมสรที่สามารถป้อนความรู้ระดับสูงสุดได้แน่ แต่จะเป็นสโมสรที่ถูกซื้อโดยพวกนายทุนที่มีระดับต่ำ ปัญหาเรื่องการทุ่มเงินจะถูกขจัดออกไป หากนักเตะสักคนได้ไปร่วมทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี หรืออาร์เซน่อล มันชัดเจนว่า เขาจะได้รับการฝึกฝนที่ดีที่สุด จากนั้น คุณต้องเคารพกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ตั้งไว้ คุณสามารถพูดถึงการจ่ายค่าชดเชย และผมก็เปิดใจรับเรื่องนี้ได้ คนเราควรได้รับการชดเชยดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ผมขอคัดค้านเรื่องการห้ามนักเตะย้ายมาสู่ระดับสูงสุด"