พรีเมียร์ฯออกกฏแข้งท้องถิ่นบังคับใช้ซีซั่นหน้า
20 สโมสรของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงมติโหวตเป็นเอกฉันท์ยอมรับกฏนักเตะท้องถิ่นที่กำหนดให้ทุกทีมต้องมีแข้งในประเทศ 8 คนจากรายชื่อนักเตะชุดใหญ่ 25 คน โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป โดยเชื่อว่ามาตรการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทัพ "สิงโตคำราม" อังกฤษ ในอนาคต
ริชาร์ด สคูดามอร์ ประธานบริหารพรีเมียร์ลีก ออกโรงยืนยันว่า 20 สโมสรพรีเมียร์ลีก ลงคะแนนโหวตให้นำเอากฏนักเตะท้องถิ่นมาบังคับใช้ ซึ่งจะทำสโมสรต่างๆ ต้องมีนักเตะในประเทศ 8 คนจากทีมที่ถูกลดขนาดให้มีแข้งสูงสุดได้ 25 คน ตั้งแต่ฤดูกาล 2010/11 เป็นต้นไป
ผู้บริหารคนดังในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี เผยอีกว่าสโมสรต่างๆ จะสามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อ 25 นักเตะ ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะ 2 รอบเท่านั้น และ บรรดานักเตะที่อายุต่ำกว่า 21 ปี มีคุณสมบัติสามารถลงเล่นนอกเหนือจากการจำกัดนักเตะ 25 คนต่อทีม
"ในฤดูกาลหน้า สโมสรต่างๆ จะถูกกำหนดให้ประกาศรายชื่อทีมที่มีนักเตะสูงสุด 25 คนซึ่งไม่เกิน 17 คน สามารถมีอายุมากกว่า 21 ปี และ ไม่ใช่นักเตะท้องถิ่น ความหมายของนักเตะท้องถิ่น คือ ได้รับการฝึกสอนจากใครสักคนในระบบอาชีพของอังกฤษและเวลส์ด้วยอายุไม่เกิน 21 ปี เป็นเวลา 3 ปี สโมสรต่างๆ จะต้องประกาศรายชื่อนักเตะ 25 คนตอนสิ้นเดือนสิงหาคม เมื่อตลาดซื้อขายนักเตะปิดตัวลง และ ประกาศอีกครั้งตอนสิ้นเดือนมกราคม"
สคูดามอร์ ไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้สโมสรต่างๆ เก็บสะสมแข้งดาวรุ่งต่างชาติ และ อ้างว่า ทีมชาติอังกฤษ จะเป็นฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์ในท้ายที่สุด "การเก็บสะสมนักเตะไม่ได้อยู่ในความสนใจของสโมสร มันจะทำให้การซื้อนักเตะท้องถิ่นน่าสนใจมากขึ้น เราไม่ได้ไปในแนวทางของการทดสอบเชื้อชาติ แต่สิ่งนี้จะหมายความว่าคุณไม่อาจแค่ซื้อทีมจากต่างประเทศ เราคิดว่า สโมสรจะมีเครื่องกระตุ้นเพิ่มเติมที่จะลงทุนในส่วนของเยาวชน เราคิดว่าประโยชน์อย่างหนึ่งคือ จะส่งผลดีต่อทีม อังกฤษ"
สมาชิกทั้ง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีก ยังได้ตกลงที่จะยึดมั่นกฏรายงานการเงินที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องความอยู่รอด และ ความยั่งยืนของสโมสรต่างๆ "ทุกทีมจะต้องส่งบัญชี และ ข้อมูลทางการเงินในอนาคตทุกปี บอร์ดบริหารพรีเมียร์ลีก จะคอยใช้การทดสอบอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลักๆ บอกว่า สโมสรสามารถลงเล่นตามโปรแกรม ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ เมื่อถึงกำหนด และ ทำตามข้อผูกมัดต่อสัญญาของพรีเมียร์ลีก และ หุ้นส่วน ได้หรือไม่"
"ถ้าบอร์ด เชื่อว่า สโมสรมีความเสี่ยงที่จะไม่ทำตามสัญญาผูกมัดเหล่านั้น พวกเขาก็ต้องก้าวเข้ามา และ ตกลงงบประมาณสำหรับดำเนินกิจการของสโมสรนั้นๆ การซื้อขายนักเตะทุกกรณีสามารถถูกสั่งห้าม มันเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่สโมสรเหล่านี้ดำเนินไปตามความกังวลเรื่องความอยู่รอดอย่างต่อเนื่อง"
"กฏการเงินเหล่านี้มีผลบังคับใช้ทันที เรื่องนี้เชื่อมโยงกับการทดสอบความเหมาะสมของบุคคล และเราได้ยื่นกฏผ่านในช่วงซัมเมอร์แล้ว ในการประชุมสโมสรเมื่อสัปดาห์ก่อน สโมสรต่างๆ เห็นพ้องต่อสถานะของเราที่จะไม่เชื่อมโยงการใช้จ่ายกับกำไร" สคูดามอร์ กล่าวสรุป
Replies to This Discussion
-
Permalink Reply by Greozz on
-
กฎยิ่งมาก บอลยิ่งไม่สนุกนะ ผมว่า
สมัยก่อนก็เปนแบบนี้ บอลไม่สนุก พอบอลสนุก กลับเปลี่ยนกลับ ไปใช้กฎเดิม
เขาถึงว่า สูงสุดคืนสู่สามัญ ขนาดเล่นเกมส์ พวก cm สมัยก่อน ยังเอาตัวนักเตะนอกโควต้า ลงยังไม่ได้เลย เล่นยาก แถมไม่สนุก
-
Permalink Reply by kamio on
-
ถ้าเป็นอย่างนี้ ทีเรามีใครบ้างหว่าา
1. ไรจิ๊ว
2. ไมก้า
3. เลสคอต
4. บริส
5. ไอร์แลน
6. เบลามี่
7. ตูเร่น่าจะได้น่ะอยู่น่อนมานาน / ไม่งั้นก็เจ้าหนูวาดิเมีย
8. กิฟเว่น
-
Permalink Reply by คุกคุง on
-
น่อล แถบไม่มีเด็กอังกฤษ (ถึงจะดาวรุ่งเยอะเหมือกันก็เหอะ) - -*
เชลซี เป็นอีกทีมที่จะปวดตับ ไม่ใช่ไม่มีดาวรุ่ง แต่ด้วยแข้งชราภาพแต่เผ็ดร้อนเหมือนขิงแก่ ทำให้เด็กเหล่านี้แทรกขึ้นมาไม่ได้ จึงแน่นอนว่าถ้าเอาเด็กลงปีหน้าเชลซีมีร้อง
แมนยู น่าจะเป็นอีกทีมที่ได้รับผลแต่คงไม่มากเน่องจากเด็กที่ปั้นยังเป็นเด็กอังกฤษอยู่บ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะมีเยอะ
ลิเวอร์พูล ทีมร่างทรงสเปนคงเซ็งจิตพอดู ถ้าไม่นับ เจิด เอ๋อ เกลน ก็แทบหาคนอังกฤษไม่เจอในทีมเดอะค๊อปเลย
แมนซิตี้น่าจะเป็นอีกทีมที่ได้รับผลกระทบดังนั้นคงจะเริ่มเห็นการกวาดชาวอังกฤษเข้าทีมในช่วง ม.ค. ด้วยกำลังเงินที่มหาศาลแน่นอน
ทีมอื่นๆคงได้รับผลกระทบกันบ้างแต่ไม่มากมาย จะมีอีกทีมก็เจ้าไก่เดือยทองนี่ล่ะ นิยมของนอกที่ดำๆอยู่ด้วย
-
Permalink Reply by suri2 on
-
คุณ chawalit ไม่ดูเขาคงไม่เดือดร้อนสักเท่าไหรหรอกนะ บอลอังกษฤและฟรีเมียร์ลีกเขาดูกันทั่วโลก
ที่อ่านดู มติโหวตเป็นเอกฉันท์ยอมรับกฏนักเตะท้องถิ่นที่กำหนดให้ทุกทีมต้องมีแข้งในประเทศ 8 คนจากรายชื่อนักเตะชุดใหญ่ 25 คน นอกนั้นมีนักต่างประเทศมีได้ถึง 17 คน นักแตะอังกษฤ 8คนเท่านั้นอ่านดูดีคุณ แล้วจะเข้าใจ
© 2024 Created by thaiMCFC.
Powered by
