"ว่าแล้นนนน"


ในที่สุด ริชาร์ด ดันน์ ก็ทำตัวตามกระแสที่แฟนๆเรือใบเรียกร้องจนได้ ด้วยการขึ้นโขกเน้นๆให้ทีมเจ้าถิ่นออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะลูกเปิดมุมทางฝั่งขวาเมื่อเวลาผ่านไป 15 นาที หนำซ้ำยังเป็นการทะยานขึ้นโหม่งเหนือตัวประกบที่ย้ายสลับขั้วกัน อย่างอดีตกัปตัน แอสตัน วิลล่า นาย แกเร็ธ แบร์รี่ เสียด้วย


อุแหม่ะ!!! มันช่างกระชากอารมณ์กองเชียร์ทั้งสองฝั่งดีแท้ ถ้าสมาชิกท่านใดติดตามการถ่ายทอดสดอย่างต่อเนื่อง คงมีโอกาสได้เห็นอากัปกริยาของสาวก วิลล่า รายหนึ่งงัดเอาฟ่อนธนบัตร(ปลอม)มาเย้ย มิดฟิลด์เชิงรับทีมชาติอังกฤษในจังหวะที่เจ้าตัววิ่งเหยาะๆไปเก็บบอลข้างสนาม


ไม่ต้องบอกก็คงรู้ซึ้งถึงความหมายดี


แกเร็ธ แบร์รี่ ถูกอดีตแฟนบอลตัวเองถากถางตลอดทั้งเกมว่า "ไอ้หน้าเงิน" ทั้งเสียงโห่ร้องอันกึกก้องอยู่ในทุกโสติประสาทเมื่อลูกฟุตบอลไหลมาเข้าทาง หรือจะถ้อยคำด่าทอต่างๆนาๆด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด และอาจรวมถึงการร่วมด้วยช่วยกันแจก "ฟักแฟงแกงร้อน" โดยมิได้นัดหมาย ให้กองกลางอีซ้ายรู้สึกคลายหนาวไปได้บ้าง(ซะเมื่อไหร่กันเล่า!!!)


ผลที่ออกมาคือ คุณ แบร์รี่ แกออกอาการซึมเศร้า ดูหงอยๆเหงาๆ แม้ไม่ได้เมา แต่ไม่เหมือนเดิม การเชื่อมเกมดูด้อยประสิทธิภาพลงไปอย่างเห็นได้ชัด จับบอลขาดๆเกินๆ บางจังหวะดูลนลาน ซึ่งผิดวิสัยของนักเตะที่มีความนิ่ง และเป็นตัวคุมจังหวะของเกม


ดาวเตะเจ้าของค่าตัว 12 ล้านปอนด์ อาจไม่ใช่คีย์แมนประเภท "แมตช์ วินเนอร์ ของ" ซิตี้ อาจไม่ได้มีส่วนร่วมกับทุกๆจังหวะการได้ประตูของทีม แต่ก็ถือเป็นกลจักรสำคัญชิ้นหนึ่งที่ขับเคลื่อนเรือรบมหาภัยลำนี้ ให้มีผลงานน่าประทับใจอย่างที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน เพราะฉะนั้นเมื่อบทบาทของ แบร์รี่ ถูกจำกัดโดยการเล่นแบบถึงลูกถึงคนจากบรรดาซี้เก่า ผนวกกับเจ้าตัวมีอาการฝ่ออย่างเห็นได้ชัดในการลงสนามโชว์ฝีเกือกต่อหน้าแฟนบอลที่ครั้งหนึ่งเคยหนุนหลังมาตลอด


การขึ้นเกมจากแดนกลางของทัพเรือใบนำโดย อดีตแข้งลูกหม้อสิงห์ผงาด จึงออกอาการ "หนืด" ในขณะที่แผงกลางรายอื่นๆก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างออกไปและไม่สามารถทดแทนกันได้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะตั้งลำเล่นในจังหวะเกมที่คุ้นเคยจากจุดนั้น


หมาก 4-3-3 ของ มาร์ค ฮิวจ์ เน้นความแน่นอนบนแผงมิดฟิลด์เป็นหลัก และอาศัยจังหวะฉาบฉวยสร้างสรรค์โอกาสจากแนวรุกที่ทรงประสิทธิภาพ จริงอยู่ว่าในค่ำคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซิตี้ อาจมีอัตรา Possession ที่เหนือกว่าทีมเจ้าถิ่น แต่ส่วนมากก็เป็นการเล่นนอกเขตพื้นที่อันตรายทั้งสิ้น...


3 คน 3 คมของ เรือใบสีฟ้า มีเกมที่น่าอึดอัดพอกัน เคร๊ก เบลลามี่ ถูกบังคับเลนให้ลากเข้ามุมอับ ก่อนเปิดด้วยซ้ายแบบไม่มีลุ้นตลอด 90 นาที ในขณะที่ มานู เชยี่ อเดบายอร์ และ คาร์ลอส เตเวส สลับกันลงมาล้วงบอลต่ำ และถูกไล่บี้ให้อยู่ห่างจากพื้นที่ทำการ จนต้องหันมาซัดระยะไกลบ่อยครั้ง


รูปแบบเกมของ แอสตัน วิลล่า แสดงให้เห็นถึงการวางแทคติกที่แยบยลจากมันสมอง มาร์ติน โอนีล ได้เป็นอย่างดี ลูกทีมของอดีตกุนซือ เลสเตอร์ ซิตี้ มีแนวทางการเล่นที่ชัดเจน ตั้งรับรัดกุม ไม่ตัดฟาล์วโง่ๆหน้ากรอบเขตโทษ และอดทนรอจังหวะสวนกลับเหมาะๆ สร้างความหนักใจให้แนวรับ "เดอะ ซิติเซ่นส์" ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้การต่อบอลเท้าสู่เท้าอาจไม่ถึงกับประณีต แต่ก็ไม่เสียการครอบครองง่ายจนเกินไป อีกทั้งหวังผลได้แทบทุกครั้งเมื่อสาดยาวทิ้งไปยังพื้นที่ว่าง


ฟอร์มอันดีเยี่ยมของ "เดอะ วิลเลี่ยนส์" ส่วนหนึ่งก็มาจากความปราดเปรื่องของ เทรนเนอร์ชาวสก๊อตช์ นั่นแหละครับที่ทำการบ้านมาดี ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ดอดซุ่มดูฟอร์ม ซิตี้ อย่างใกล้ชิดตั้งแต่สัปดาห์ก่อน (นัดถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เบาะๆ 3 – 1) มร. โอนีล ศึกษาจุดอ่อนของ ทีมเรือใบสีฟ้า ได้ทะลุปรุโปร่ง และใช้จุดแข็งของตนเองเข้าบดขยี้ เล่นงานจนอาคันตุกะจากเมืองแมนเชสเตอร์ มีอาการเป๋ให้เห็น


แอบชำเลืองมองนักเตะของ วิลล่า เล่นกันแล้วรู้สึกชื่นชมครับ ทุกคนยืนตำแหน่งกันอย่างมีวินัย และเหมือนจะรู้ไต๋ ซิตี้ ว่าต้องปรับแผนเล่นอย่างไรจึงจะได้เปรียบ


อาจพูดได้ว่า มาร์ติน โอนีล รู้จักทีมตัวเองมากพอแล้ว ขณะที่ มาร์ค ฮิวจ์ ยังคงต้องการเวลาเพื่อค้นหาสูตรสำเร็จที่ลงตัวต่อไปอีกซักระยะ


ผลการแข่งขันที่ลงเอยด้วยการแชร์แต้มระหว่างสองทีมซึ่งมีศักยภาพไล่เลี่ยกัน "แอสตัน วิลล่า 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1" คงเป็นบทสรุปที่น่าพึงพอใจสำหรับเทรนเนอร์ทั้งสองฝ่าย แม้เหล่าบรรดาแฟนๆ แมนฯ ซิตี้ อาจบ่นเสียดายอยู่บ้างที่พลาดโอกาสทำแต้มไล่จี้ทีมจ่าฝูงรายล่าสุดอย่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี


เอาน่ะครับ เรื่องราวมันจบลงแบบนี้ก็แฟร์ดี ไม่มีใครต้องพลาดพลั้ง แม้อาจมีมุมเล็กๆไว้สำหรับคน 2 คนในฟีลลิ่งที่แตกต่างให้ได้จดจำบ้าง


มุมหนึ่งสำหรับอารมณ์ผิดหวังของ แกเร็ธ แบร์รี่ ผู้แพ้ภัยตัวเอง


ส่วนอีกมุมหนึ่งสำหรับอดีตกัปตัน ซิตี้ มร. ริชาร์ด ดันน์ ผู้ชนะตัวจริงแห่งแมตช์


"ผู้ชนะ" ที่ได้ทั้งใจกองเชียร์ สิงห์ผงาด จากฟอร์มการเล่นในสนาม และความงดงามของน้ำใจนักกีฬา ที่แสดงออกให้เห็นต่อหน้าสาวก CITID

ริชาร์ด ดันน์ เข้าสวมกอดกับ แกเร็ธ แบร์รี่ หลังเกมจบลงด้วยผลเสมอ


ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วย "สปิริตของความเป็นมืออาชีพ"อย่างแท้จริง


ขอคารวะครับ


River


ปล. สมาชิก ไอ้เติ้ลเอ๋ย ผู้ห่างหายจากเว็บบอร์ดไปนานเพื่อไปวางไข่ เอ๊ยยย!!! ไปฝากครรภ์ บัดนี้คลอดแล้วนะครับ หากสมาชิกท่านใดยังจดจำความเหี้ยนของซี้ผมได้ ก็สามารถเข้าไปทักทายผ่านบล็อกเจ้าหล่อนได้โดยตรงเลยครับ ส่วนน้องหนูที่เพิ่งลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 28 กย. ไอ้เติ้ลเอ๋ย พี่แก ตั้งชื่อให้อย่างน่าเอ็นดูว่า ไอ้เสือ(ส่วนจะเสืออะไรนั้นไปต่อกันเอาเอง ฮิๆๆๆ) หรือผู้ใดอยากเห็นรูป น้องเสือ คนดังกล่าวก็สามารถแวะเข้าไปดูในบล็อกส่วนตัวของผมได้ครับ รับประกันความฮา เอ๊ยยย ความน่ารัก ฮิๆๆๆ