ผลเสมอในบ้านกับ ฟูแล่ม 2-2 ทั้งๆที่ออกนำไปก่อน 2-0 นับเป็นเรื่องเสียหายพอสมควรสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่หวังจะสอดแทรกเป็นบิ๊กโฟร์และหวังไกลถึงขนาดเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย
ต้องยอมรับว่าความพ่ายแพ้เกมดาร์บี้แมตช์ต่อ แมนฯยูไนเต็ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอันแสนยืดยาวส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของเหล่าขุนพลยี่ห้อเรือใบสีฟ้าพอสมควร หลังประเดิมออกสตาร์ตสุดหรูเก็บชัย 4 เกมติดต่อกัน
งั้นเราลองมาวิเคราะห์แยกเป็นองค์ประกอบดีกว่า มีตรงไหนบ้างที่ มาร์ค ฮิวจ์ส จะไปถึงฝั่งฝันในลีกหรือไม่
*การเทกโอเวอร์
ถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงสำหรับ ซิตี้ การได้กลุ่มทุนอาบู ดาบี้ ยูไนเต็ดเข้ามาครอบครองกิจการเมื่อเดือนกันยายนปี 2008 ได้สถาปนาพวกเขากลายเป็นทีมอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยสุดในโลก
ประเด็นที่สร้างความเกรียวกราวสุดคงหนีไม่พ้นการติดต่อขอซื้อ กาก้า เทพบุตรลูกหนังที่ตอนนั้นยังอยู่กับ เอซี มิลาน
แต่สุดท้ายตัวนักเตะกลับตัดสินใจเลือกไม่ย้ายไปยังเกาะอังกฤษ
นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้สโมสรยังย่่ำอยู่กับที่และไม่สามารถพัฒนาทีมก้าวไปสู่แถวหน้าของโลก
*นโยบายซื้อนักเตะ
การปฎิเสธแบบไร้เยื้อใยของ กาก้า ทำให้ "สปาร์กี้" บิ๊กบอสต้องเจียมเนื้อเจียมตัวหันไปคว้านักเตะเกรดบีแทน การกว้านซื้อ
แกเร็ธ แบร์รี่,
คาร์ลอส เตเบซ
โรเก้ ซานตา ครูซ
เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
โคโล่ ตูโร่
และ โจเลออน เลสค็อตต์
ประเมินผลสอบตอนนี้ต้องบอกว่าสอบตกพร้อมกันหมด
แต่นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้นยังวัดอะไรไม่ได้ของแบบนี้ต้องดูกันยาวๆ
*คนกับงาน
ของสังสัยตามมาก็คือ มาร์ค ฮิวจ์ส เขาเหมาะคุมทีมที่ต้องการความเจริญแบบก้าวกระโดดหรือไม่
ความจริงลองไปถามบรรดากูรูทั้งหลายแทบพูดเป็นเสียวเดียวกันว่า "สปาร์กี้" ยังไม่ดีพอรับงานช้างแบบนี้
เขาควรปลดออกมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แต่กลับโชคดีมากที่ยังได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มนายทุนให้กุมบังเหียนต่อ
พูดไปคงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เราในฐานะคนนอกคงต้องรอดูต่อไปและให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ฮิวจ์ส มีฝีมือและบารมีมากพอที่จะพา "เรือใบสีฟ้า" ก้าวไปอยู่แถวหน้าได้หรือไม่