กองหน้ารูปหล่อรายนี้ไม่ได้มีดีที่รูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว เพราะเขาเคยคว้าแชมป์กับบาเยิร์น มิวนิค มาแล้วหลายรายการ และกำลังเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในเวลานี้


ซานตา ครูซ เริ่มต้นค้าแข้งให้กับทีมเยาวชนของโอลิมเปีย อัสซุนซิโอน ตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ และกลายเป็นดาวซัลโวหลายฤดูกาลจนกระทั่ง หลุยส์ คูบิย่า โค้ชของทีมชุดใหญ่ ได้ให้โอกาสเขาลงซ้อมกับทีมชุดใหญ่ในวัย 15 ปี ก่อนจะได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 1998 ในการพบกับทีม เซร์โร่ ปอร์เตโอ ในบอลถ้วยของปารากวัย ในวัย 16 ปี

ซานตา ครูซ มีสวนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ลีกของปารากวัยได้ในปี 1998 และ 1999 รวมทั้งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของปารากวัยด้วย

หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในลีกบ้านเกิด ซานตา ครูซ ก็ถูก บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 1999

อย่างไรก็ตาม หัวหอกหน้าหยกรายนี้กลับไม่สามารถแจ้งเกิดกับ "เสือใต้" ได้ โดยทำได้แค่ 5 ประตูในฤดูกาลแรกกับทีม นอกจากนั้นซานตา ครูซ ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้ไม่มีโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทว่า เขาก็ยังได้เหรียญแชมป์บุนเดสลีก้า 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และอินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ แล้ว

แม้ว่าจะคว้าแชมป์กับ "เสือใต้" ได้หลายรายการ แต่ ซานตา ครูซ ก็ตัดสินใจที่จะย้ายทีมเพื่อโอกาสลงสนามที่มากกว่าเดิม ก่อนจะตัดสินใจเลือกซบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2007 ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ (ราว 245 ล้านบาท) แลกกับการเซ็นสัญญา 4 ปี

ครูซ ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีในการทำประตูแรกให้กับ "กุหลาบไฟ" ในเกมที่เขาเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองแทน เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ ที่ได้รับบาดเจ็บ ในเกมที่พบกับ มิดเดิลสโบรช์ นัดเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2007/08 จากนั้น เขาก็ฉลองวันเกิดครบรอบ 26 ปีด้วยการยิงประตูในเกมแรกที่ได้ลงเป็นตัวจริง ในเกมที่ออกไปเยือน ไมป้า ในศึกยูฟ่า คัพ

ศูนย์หน้าทีมชาติ ปารากวัย ทำแฮตทริกแรกให้กับ แบล็คเบิร์น ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2007 แต่สุดท้ายทีมก็ต้องพ่ายให้กับ วีแกน 3-5 และนั่นทำให้เขาเป็นคนแรกในรอบ 10 กว่าปีของฟุตบอลอังกฤษที่ทำแฮตทริกได้แต่ทีมแพ้ ต่อจาก ดไวท์ ยอร์ค ที่ทำได้เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 1996 ให้กับแอสตัน วิลล่า ในเกมที่แพ้ นิวคาสเซิ่ล 3-4

ประตูดังกล่าวทำให้ ครูซ ทำประตูในลีกได้เกิน 5 ลูกในฤดูกาลแรกของลีก และเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2008 ที่ผ่านมาเขาก็คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน มาครองได้อย่างน่าประทับใจ

นอกจากนั้น ครูซ ยังสามารถพังประตูในเกมที่พบกับ ลิเวอร์พูล ได้ในเกมที่พ่ายไป 3-1 และทำประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ก่อนที่ แบล็คเบิร์น จะทำได้แค่เสมอกับ "ปีศาจแดง" 1-1 เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา

ในส่วนของผลงานกับทีมชาติ ซานตา ครูซ แจ้งเกิดได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย ซึ่งเขาทำได้ 3 ประตู และนั่นก็ทำให้ถูกเรียกขึ้นมาติดทีมชาติปารากวัยชุดใหญ่ด้วยวัยแค่ 17 ปี ในศึกโคปา อเมริกา และทำไป 3 ประตูเช่นกัน

กองหน้าวัย 26 ปี ได้ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกปี 2002 และ 2006 รอบคัดเลือกโดยทำรวมกันไป 7 ประตูในรอบคัดเลือก โดยก่อนช่วงฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้นนั้น ซานตา ครูซ ต้องพยายามเร่งคืนความฟิตจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง แต่ก็สามารถหายเจ็บกลับมาทันแต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ได้

สำหรับชีวิตนอกสนาม ซานตา ครูซ แต่งงานแล้วกับ กีเซลล่า ซึ่งเป็นน้องสาวของ ริคาร์โด้ ตาวาเรลลี่ เพื่อนร่วมทีมโอลิมเปีย เมื่อปี 2004 และมีลูกชาย 1 คนชื่อ โทเบียส (เกิดวันที่ 17 ธ.ค. 2003) และ ลูกสาวชื่อ ฟิออเรลล่า (เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2005)

เมื่อปี 2004 ซานตา ครูซ เข้าร่วมวงร็อกของเยอรมันที่ชื่อ Sportfreunde Stiller และร้องเพลง "Ich, Roque" ซึ่งเป็นเพลงนี้ดังติดชาร์ตท็อป 40 ทั้งในเยอรมันและออสเตรีย นอกจากนั้น เขายังได้การโหวตให้เป็นนักเตะที่หน้าตาที่ดีสุดในศึกฟุตบอลโลก 2006 จากแม็กกาซีน "เดเวลต์" และ "คิกเกอร์" ของเมืองเบียร์ด้วย