"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มเด็ดดวง เมื่อเปิดบ้านขนชุดใหญ่ ไล่ขยี้ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลที่ใช้ชุดสำรองผสมเยาวชน ไปแบบขาดลอย 3-0 ฉลุยเข้าตัดเชือกได้สำเร็จ ในศึกคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
คาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
วันพุธที่ 2 ธ.ค.52
แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 3 - อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก) 0
สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์
เจอกันมาในพรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้แผลงฤทธิ์ขยี้อาร์เซน่อล 4-2 โดยเอ็มมานูเอล อเดบายอร์อดีตกองหน้าปืนโตฉลองประตูอย่างฉาวโฉ่
สำหรับเกมนี้เจ้าตัวยังได้ลงสนามให้เจ้าบ้านซึ่งฟอร์มหลังย่ำแย่เจ๊ามาเจ็ดนัดรวด แต่โรบินโญ่เสียตำแหน่งให้เคร็ก เบลลามี่ เช่นเดียวกับไนเจล เดอ ย็องก์ซึ่งถูกแกเร็ธ แบร์รี่เบียดจนหลุดไปจากโผ
ด้านเดอะ กันเนอร์สใช้แรงงานเด็กตามระเบียบ แต่มีพ่อค้าแข้งประสบการณ์สูงอย่างมิกาแอล ซิลแวสตร์ , โทมัส โรซิชกี้ และเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ช่วยประคอง
ปืนโตเปิดเกมลุยทันทีหลังได้เริ่มเขี่ยบอล แต่เป็นเรือใบที่ได้เสียวก่อนจากลูกเตะมุมด้านขวาในนาทีที่ 7 ซึ่งอเดบายอร์โดดโขกจากสิบหลาไปตรงตัวให้ลูคาซ ฟาเบียนสกี้เซฟพอดี
ขยับมาในนาทีที่ 18 เบลามี่โชว์ความจัดจ้านควบลูกขึ้นกราบซ้ายหนีนักเตะทีมเยือนได้สองด่านจนหลุดเข้าเขตโทษแล้วถูกอเล็กซ์ ซงขวางล้ม แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้ลูกโทษโดยมองว่าสตาร์เรือใบสปีดไปหากองกลางปืนใหญ่เอง
อย่างไรก็ดี นาทีต่อมาทีมเงินถังน่าจะได้ประตูอีกครั้งจากการพาบอลบุกไปจนสุดเส้นหลังฝั่งขวาของฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ที่หนีซิลแวสตร์ได้ แล้วจ่ายเข้ากลางให้เบลลามี่ซัลโวจาก 14 หลาออกเสาไกลไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 25 แมนฯ ซิตี้ซึ่งเล่นได้เหนือกว่าหลายขุมพลาดโอกาสขึ้นนำไปอีกจากการควบบอลเข้าเขตโทษด้านขวาของคาร์ลอส เตเวซ แต่จังหวะสับไกถูกฟาเบียนสกี้ทุบออกมาได้
แม้จะเป็นรองพอสมควร แต่อาร์เซน่อลก็สูยิบตา และนาทีที่ 34 เอบูเอ้ก็ลากบอลเข้าเขตโทษด้านขวาได้ แต่จังหวะสับไกถูกเชย์ กิฟเว่นรับเข้าอกได้สำเร็จ
จากนั้นอีกสี่นาที อาร์กม็องต์ ตราโอเร่ก็โดนจดชื่อโทษฐานเสียบไรท์ ฟิลิปส์กลิ้ง ก่อนที่เคร็ก อีสต์มอนด์จะรับใบเหลืองตามมาในนาทีที่ 39 จากจังหวะรวบใส่ปีกผิวสีของเจ้าบ้านแถวกลางสนาม ในที่สุดทั้งสองทีมจึงเสมอกันไป 0-0 ในครึ่งแรกแม้โอกาสของแมนฯ ซิตี้จะมีมากกว่า
ครึ่งหลังเจ้าบ้านพยายามเบิกทวารผู้มาเยือนให้ได้ และมาทำสำเร็จในนาทีที่ 50 เมื่อเตเวซควบบอลขึ้นกราบซ้ายแล้วโยกหนีขุนพลปืนใหญ่ลากตัดเข้าเขตโทษไปกดตูมส่งบอลกระแทกใต้คานที่เสาไกลเข้าประตูพาเรือใบนำ 1-0
ทีมมหาเศรษฐียังไม่สาแก่ใจ กางตำราบุกใส่ทีมเมืองกรุงอย่างต่อเนื่อง และในนาทีที่ 58 จากการวางบอลยาวขึ้นมา ซิลแวสต์กัปตันปืนโตก็ทำทะเล่อทะล่าปล่อยให้บอลตกใส่ต้นคอจึงต้องรีบคว้าอเดบายอร์เอาไว้ไม่ให้ฉกบอลหนีพร้อมทั้งรับใบเหลืองแต่โดยดี
ทว่าถัดจากนั้น เกมก็ตกเป็นของอาร์เซน่อลบ้างแล้วก่อนจะเปลี่ยนซานเชซ วัตต์ลงไปแทนอีสต์มอนด์ในนาทีที่ 68 แต่พริบตาเดียวในนาทีต่อมาเรือใบก็ตัดเกมแถวกลางสนามได้จึงเปิดโอกาสให้ไรท์ ฟิลลิปส์ได้ควบขึ้นกราบขวาไปถึงเส้น 18 หลาแล้วตัดสินใจซัลโวส่งบอลพุ่งปะทะตาข่ายทันทีทำให้แมนฯ ซิตี้หนีห่าง 2-0
นาทีที่ 74 เรือใบส่งแว็งซ็องต์ กอมปานีลงไปแทนเตเวซ จากนั้นอีกสามนาที แจ็ค วิลเชียร์ก็ไปทำฟาวล์จนได้ใบเหลือง
นาทีเดียวกันนี้ เจ้าบ้านเปลี่ยนไรท์ ฟิลลิปส์ออกไปพักให้วลาดิเมียร์ ไวส์ลงสนาม ก่อนที่ซงจะโดนจดชื่อข้อหาขวางสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ล้มในนาทีที่ 79
นาที 89 กองเชียร์เรือใบได้เฮสนั่นอีกครั้งเมื่อ เคร็ก เบลลามี่ หลุดเข้าไปเปิดมาให้ วลาดิมีร์ ไวส์ วิ่งเข้าแปเน้นๆ บอลพุ่งเสยคานเข้าประตูไปอย่างงามหยด ส่งให้เจ้าถิ่นนำห่าง 3-0
หมดเวลาจึงเป็นอันว่าแมนฯ ซิตี้ย้ำแค้นได้โดยสยบเดอะ กันเนอร์สด้วยสกอร์ 3-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯซิตี้: เชย์ กิฟเว่น - ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์ - ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, แกเร็ธ แบร์รี่, เคร็ก เบลลามี่ - คาร์ลอส เตเวซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
สำรอง: สจ๊วร์ต เทย์เลอร์ (ผู้รักษาประตู) - เนดุม โอนูโอฮา, ไมเคิล จอห์นสัน, โรบินโญ่, โรเก้ ซานตา ครูซ, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, วลาดิมีร์ ไวส์
อาร์เซน่อล: ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, อเล็กซ็องดร์ ซง, มิกกาแอล ซิลแวสตร์, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ - เคร็ก อีสต์มอนด์, ฟราน เมริด้า, อารอน แรมซี่ย์, โทมัส โรซิคกี้, แจ็ค วิลเชียร์ - คาร์ลอส เวล่า
สำรอง: วิโต้ มานโนเน่ (ผู้รักษาประตู) - ไคล์ บาร์ทลี่ย์, ฟรานซิส โกเกแล็ง, เอ็มมานูเอล ฟริมปง, เคอร์เรีย กิลเบิร์ต, มาร์ค แรนดอลล์
ผู้ตัดสิน: คริส ฟอย
Tags:
-
▶ Reply to This