สเปอร์ส (5) vs แมนเชสเตอร์ซิตี้ (7)

สนาม: ไวท์ฮาร์ทเลน
เวลา: 03.00 น. (เวลาเมืองไทย)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม
16-05-2009 สเปอร์ส ชนะ แมนฯซิตี้ 2-1
09-11-2008 แมนฯซิตี้ แพ้ สเปอร์ส 1-2
16-03-2008 แมนฯ ซิตี้ ชนะ สเปอร์ส 2-1
19-12-2007 แมนฯ ซิตี้ แพ้ สเปอร์ส 0-2 (ลีกคัพ)
09-12-2007 สเปอร์ส ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1
13-05-2007 สเปอร์ส ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1
17-12-2006 แมนฯ ซิตี้ แพ้ สเปอร์ส 1-2
08-04-2006 สเปอร์ส ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1
04-01-2006 แมนฯ ซิตี้ แพ้ สเปอร์ส 0-2
19-03-2005 สเปอร์ส ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1

ฟอร์มเกมเหย้าในลีกของสเปอร์ส
แข่ง 8 / ชนะ 5 / เสมอ 0 / แพ้ 3 / ได้ 21 / เสีย 8 / มี 15 แต้ม
ฟอร์มเกมเยือนในลีกของแมนฯ ซิตี้
แข่ง 8 / ชนะ 2 / เสมอ 5 / แพ้ 1 / ได้ 13 / เสีย 11 / มี 11 แต้ม

ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
สเปอร์ส
22-11-2009 ชนะ วีแกน 9-1 (เหย้า)
29-11-2009 เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 (เยือน)
02-12-2009 แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 0-2 (เยือน) (ลีกคัพ)
06-12-2009 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 (เยือน)
12-12-2009 แพ้ วูล์ฟส์ 0-1 (เหย้า)

แมนฯ ซิตี้
21-11-2009 เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (เยือน)
28-11-2009 เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 1-1 (เหย้า)
03-12-2009 ชนะ อาร์เซน่อล 3-0 (เหย้า) (ลีกคัพ)
06-12-2009 ชนะ เชลซี 2-1 (เหย้า)
12-12-2009 เสมอ โบลตัน 3-3 (เยือน)

สภาพความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีม
สเปอร์ส
แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ผู้จัดการทีม สเปอร์ส ต้องรอลุ้นอาการของ เจอร์เมน จีนัส ว่าจะลงสนามไหวหรือไม่ ภายหลังมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ เพิ่งกลับมาซ้อมได้ในวันอังคาร เนื่องจากอาหารเป็นพิษ ซึ่งหาก จีนัส ลงไม่ได้คงเป็นความเสียหายใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทีมขาด เล็ดลี่ย์ คิง (เข่า), โจนาธาน วู้ดเกต (ขาหนีบ) และ คาร์โล คูดิชินี่ (ข้อมือ) อยู่ก่อนแล้ว

ทว่าข่าวดีคือ เร้ดแน็ปป์ ยืนยันว่า ลูก้า โมดริช เพลย์เมคเกอร์โครแอตที่ขาเดี้ยงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม จะกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองอีกครั้ง เช่นเดียวกับ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ดาวยิงรัสเซี่ยนและ เดวิด เบนท์ลี่ย์ ที่หลุดโผในเกมพ่าย วูล์ฟส์ เมื่อวันเสาร์ก็มีชื่อรวมอยู่ในแมตช์นี้เช่นกัน

คาดว่า เร้ดแน็ปป์ จะยังคงเรียกใช้บริการแข้งหลักจากเกมล่าสุด แม้จะเพิ่งหน้าแตกแพ้ วูล์ฟส์ มาคาถิ่น โดย "ไก่เดือยทอง" จะมาในระบบ 4-4-2 มี อูเรลโญ่ โกเมส นายทวารแซมบ้าลงยืนเป็นด่านสุดท้าย คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟส่ง ไมเคิ่ล ดอว์สัน จับคู่กับ เซบาสเตียง บาสซง ฟูลแบ็กสองข้างเป็น เวดราน ชอร์ลูก้า กับ เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ แม้รายหลังจะเพิ่งมีปัญหากับแฟนบอลมาก็ตาม

แดนกลางมี อารอน เลนน่อน ปีกจรวดทีมชาติอังกฤษ ลงประจำการณ์ฝั่งขวา หน้าที่คุมเกมใช้ วิลสัน ปาลาซิออส เดินเกมร่วมกับ ทอม ฮัดเดิลสตัน กรณีที่ จีนัส ร่างกายไม่สมบูรณ์ ส่วนริมเส้นฝั่งซ้าย นิโก้ ครันชาร์ ยังได้รับโอกาสเหนือรุ่นน้องร่วมชาติอย่าง โมดริช ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา คู่หน้ามี ร็อบบี้ คีน ล่าตาข่ายกับ เจอร์เมน เดโฟ โดยมี ปีเตอร์ เคร้าช์ เป็นทีเด็ดบนม้านั่งสำรอง

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส (4-4-2) : อูเรลโญ่ โกเมส / เวดราน ชอร์ลูก้า, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เซบาสเตียง บาสซง, เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ / อารอน เลนน่อน, วิลสัน ปาลาซิออส, ทอม ฮัดเดิลสตัน, นิโก้ ครันชาร์ / ร็อบบี้ คีน, เจอร์เมน เดโฟ

แมนเชสเตอร์ซิตี้
มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือชาวเวลส์ของ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ปีกตัวจี๊ดทีมชาติอังกฤษ ที่ข้อเท้าเดี้ยงมาจากเกมเจ๊าเดือด โบลตัน 3-3 เมื่อวันเสาร์และยังไม่แน่ว่าจะหายทันเกมช่วงสุดสัปดาห์กับ ซันเดอร์แลนด์ หรือเปล่าด้วย

นอกจากนั้นทีมเจ้าบุญทุ่มจากแดนเหนือยังปราศจาก เคร็ก เบลลามี่ ดาวยิงจอมเก๋าที่ติดโทษแบน แต่ข่าวดีคือจะได้ ไนเจล เดอ ยอง ห้องเครื่องทีมชาติฮอลแลนด์ กลับมาจากหายไข้ ส่วนในรายของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกโตโกที่ตอนแรกมีข่าวว่าป่วยสภาพร่างกายสมบูรณ์ดีและพร้อมลงช่วยทีมตามปกติ

ส่วน ไมเคิ่ล จอห์นสัน รวมถึง แบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติอังกฤษอย่าง เวย์น บริดจ์ ถูกอาการเดี้ยงเล่นงานและต้องพักยาวทั้งคู่จึงไม่มีชื่อร่วมเดินทางกับทีมมาในวันนี้ โดยเกมนี้ ฮิวจ์ส จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด่านสุดท้ายมี เชย์ กิฟเว่น นายทวารไอริช เฝ้าเสาหลังแผงแบ็กโฟร ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, โจเลออน เลสค็อต และ ปาโบล ซาบาเลต้า

แดนกลางยามปราศจาก ไรท์ ฟิลลิปส์ น่าจะเป็นโอกาสของจอมขยันอย่าง สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ขณะเดียวกันการกลับมาของ ไนเจล เดอ ยองก์ ส่งผลให้ แว็งซ็อง ก็องปานี ต้องหลุดไปเป็นสำรองตามเดิม โดย แกเร็ธ แบร์รี่ ยังยึดตัวจริงต่อไปอย่างเหนียวแน่น ทางด้านแนวรุก โรบินโญ่ จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทน เบลลามี่ โดยจะประสานงานกับ คาร์ลอส เตเบซ และ อเดบายอร์

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เชย์ กิฟเว่น / ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, โจเลออน เลสค็อต, ปาโบล ซาบาเลต้า / สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ไนเจล เดอ ยองก์, แกเร็ธ แบร์รี่ / คาร์ลอส เตเบซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบินโญ่

วิเคราะห์/ฟันธง
คู่นี้ดวลกันที่ ไวท์ฮาร์ทเลน 5 ครั้งหลังสุดผลจบลงราวกับหวยล็อก เพราะ สเปอร์ส เป็นฝ่ายกำชัยทุกครั้งด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้การเฝ้ารังหนนี้พลพรรค "ไก่เดือยทอง" น่าจะเตรียมลงสนามแบบใจชื้นกว่า เนื่องจากทางบอลมันข่มกันอยู่ ทว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงของ สเปอร์ส คือฟอร์มการเล่นที่ดูจะช็อตไปดื้อๆ เพราะนับตั้งแต่ยิง วีแกน ด้วยสกอร์ติดหน้าประวัติศาสตร์ 9-1 แล้ว 4 เกมถัดมาทีมดังแห่งกรุงลอนดอนยังไม่ชนะใคร แถมล่าสุดยังเป็นการแพ้ วูล์ฟส์ คาบ้านอีกด้วย

ปัญหาของ สเปอร์ส คือ ความไม่สมบูรณ์ของขุมกำลัง โดยเฉพาะแนวรับที่เสียประตูทุกนัดยามปราศจากคู่เซนเตอร์ตัวจริงที่เจ็บออดๆ แอดๆ ทั้ง คิงและ วู้ดเกต ทำให้การพบกับ แมนฯ ซิตี้ ที่แนวรุกจัดจ้านนับเป็นงานสาหัสพอสมควร เพราะแม้ทีมเยือนจะไม่มีทั้ง เบลลามี่ และ ไรท์ ฟิลลิปส์ ก็แทบไม่ส่งผลกระทบกับทีม เพราะ มาร์ค ฮิวจ์ส ยังมีทางเลือกในการจัดทัพอีกมากมาย

ที่สำคัญถึงอันดับ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นรอง แต่พักหลังฟอร์มของทีมมหาเศรษฐีดูคงเส้นคงวากว่าเจ้าบ้านอย่างชัดเจน ภายหลังที่ยังไม่แพ้ใครมาแล้วถึง 13 นัดรวมทุกรายการ (ชนะ 5 เสมอ 8) พิจารณาแล้วชั่วโมงนี้ "เรือใบสีฟ้า" พร้อมกว่า เนื่องจากไม่มีจุดใดเป็นรองเจ้าบ้านเลยและน่าจะบุกมาล้างอาถรรพ์ด้วยการหยิบผลเสมอที่ ไวท์ฮาร์ทเลน ได้เป็นอย่างน้อย


ผลบอลที่คาด: เจ๊าเดือด 2-2