โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับ รู้ดีว่าศึกเอฟเอ คัพ มีความสำคัญกับแฟนบอลชาวอังกฤษมาก ก่อนจะพาทีมบุกไปเยือน "เดอะ โบโร่" มิดเดิ้ลสโบรช์ ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 เสาร์นี้ ยืนยัน จะพาทีมประสบความสำเร็จในฟุตบอลถ้วยให้ได้ เหมือนที่เขาเคยทำได้ในอิตาลี แม้จะเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายตัวในเกมนี้ก็ตาม

โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรเจ้าบุญทุ่มแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาแสดงความรู้สึก ก่อนพาทีมบุกไปเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ สโมสรจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันเสาร์ที่ 2 ม.ค.นี้ โดยหวังจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับที่เคยทำได้ในศึก โคปปา อิตาเลีย สมัยที่ค้าแข้งและคุมทีมอยู่ในแดนมะกะโรนี

กุนซือชาวอิตาเลียน มีสถิติที่น่าประทับใจกับการร่วมแข่งขันฟุตบอลถ้วยในบ้านเกิด เมื่อเคยคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ถึง 6 ครั้ง ในสมัยที่ยังเป็นนักเตะ และยังคว้าแชมป์ได้อีก 4 ครั้งในฐานะกุนซือ สมัยที่คุมทีม ลาซิโอ, ฟิออเรนติน่า และ อินเตอร์ มิลาน และเขาพาทีม "เรือใบสีฟ้า" ชนะเกมลีกทั้ง 2 นัด ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมแทน มาร์ค ฮิวจ์ส แต่เขารู้ดีว่า เกมที่ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้ จะแตกต่างออกไป

มันชินี่ หวังนำประสบการณ์ของเขา มาใช้กับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งไม่เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้เลยนับตั้งแต่ปี 1976 โดยกล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นกับเอฟเอ คัพ ผมรู้ว่าในอังกฤษ นี่เป็นรายการที่สำคัญมาก ในอิตาลีจะไม่จริงจังกับฟุตบอลถ้วยมากนักจนกว่าทีมจะเข้าถึงรอบรองฯ แต่ที่นี่มันแตกต่างกัน"

"ผมเคยคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย 6 ครั้ง สมัยเป็นนักเตะ และอีก 4 ครั้งตอนเป็นผู้จัดการทีม ร่วมกับทีมที่แตกต่างกัน 3 ทีม และมันยอดเยี่ยมมากเมื่อคิดว่าผมจะทำแบบนั้นได้ที่ แมนฯ ซิตี้ เหมือนกัน แต่การจะประสบความสำเร็จได้นั้น เราต้องเอาชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ ให้ได้เสียก่อน" มันชินี่ กล่าว

สภาพทีมตอนนี้ ทัพ "เรือใบสีฟ้า" กำลังประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บ ทำให้จะไม่มี โจลีออน เลสคอตต์, เวย์น บริดจ์, เนดุม โอนูโอฮา, โรเก้ ซานตา ครูซ และ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ในเกมบุกไปเยือนรังริเวอร์ไซด์ ขณะที่ โคโล ตูเร่ กองหลังทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกทีมชาติโตโก ก็จะติดภารกิจรับใช้ทีมชาติในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

อย่างไรก็ตาม มันชินี่ ไม่รู้สึกหวั่นใจกับรายชื่อนักเตะบาดเจ็บที่ยาวเป็นหางว่าว และจะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด แม้เป้าหมายหลักจะอยู่ที่การจบ 4 อันดับแรกในพรีเมียร์ลีกก็ตาม "เราไม่มีทีมที่ใหญ่นักในตอนนี้ แต่เราก็มีนักเตะดาวรุ่งหลายคนที่ฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ และมีคนหรือ 2 คนที่จะได้เล่น เราจะใช้ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในเกมนี้"

ด้าน กอร์ดอน สตรัคคั่น กุนซือ มิดเดิ้ลสโบรช์ ต้องเจองานหนักอีกครั้ง หลังจากพาทีมชนะแค่ 2 จาก 10 เกม นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมแทน แกเร็ธ เซาธ์เกต และยังต้องเจอวิกฤติปัญหาศูนย์หน้าบาดเจ็บอีก โดยกล่าวว่า "นี่เป็นเกมใหญ่ที่เราต้องการชนะ เพราะชัยชนะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น สิ่งสำคัญสำหรับผมตอนนี้คือหาผู้เล่น 11 คนที่ฟิตพอลงสนามได้ เพราะตอนนี้เราไม่มีกองหน้าอย่างเป็นทางการเลยสักคน"

ทั้งนี้ สตรัคคั่น ต้องลุ้นว่าจะสามารถต่อสัญญายืมตัว มาร์คัส เบนท์ ศูนย์หน้า ของ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ได้ทันเกมวันเสาร์นี้หรือไม่ และอาจต้องใช้ โจนาธาน แฟร้งค์ หัวหอกวัย 19 ปี ลงสนามเป็นตัวจริง เมื่อ ลีรอย ลิต้า ยังติดโทษแบน เฌเรมี่ อาลิอาดิแยร์ มีอาการบาดเจ็บ และ เดฟ คิตสัน ก็กลับไป สโต๊ค ซิตี้ แล้วหลังจากหมดสัญญายืมตัว