มิดเดิ้ลสโบร์ซ (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ) 0 - แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 1

ที่ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม มิดเดิ้ลสโบร์ซ เจ้าถิ่นมีปัญหาในแนวรุกเมื่อ เดฟ คิตสัน กองหน้าที่ยืมมาจาก สโต๊ค ซิตี้ กลับไปยังต้นสังกัดแล้วขณะที่ ลีรอย ลิต้า ก็ติดโทษแบนทำให้ โจนาธาน แฟร้งค์ส ได้ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ มาร์คัส เบนท์ ด้าน แมนฯ ซิตี้ ขาด สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ที่เจ็บและพักแกนหลักหลายคนเป็นเพียงตัวสำรองโดยแดนหน้าเป็นหน้าที่ของ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ที่ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า

เกมเริ่มต้นขึ้นมาท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้ายหลังจากมีหิมะตกลงมาหนาตาพอสมควรโดยเกมผ่านไป 6 นาที แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นก่อนเมื่อ พาโบล ซาบาเลต้า ได้โอกาสยิงจังหวะแรกแผงหลัง โบโร่ บล็อกไว้ได้แต่บอลยังไปเข้าทางดาวเตะอาร์เจนไตน์อีกครั้งจึงจัดการตามซัดจังหวะสองแต่บอลก็ไปแฉลบกองหลังเจ้าบ้านออกหลังไปอีก

จากนั้นเกมของ แมนฯ ซิตี้ ดูช็อตไปดื้อๆต่อบอลกันขาดๆเกินๆผิดกับ มิดเดิ้ลสโบร์ซ ที่เป็นฝ่ายครองบอลทำเกมรุกเข้าใส่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ถึงนาที 30 เรือใบสีฟ้าได้เสียวอีกครั้งจากการทำชิ่งกันของ มาร์ติน เปตรอฟ กับ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ก่อนที่ดาวเตะบัลแกเรียจะหลุดเข้าไปเข่นด้วยขวาบอลในเขตโทษไม่ตรงกรอบ

กระทั่งนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกทีมเยือนได้ประตูออกนำจนได้ 1-0 เมื่อ เปตรอฟ ตัดบอลได้จากแดนตัวเองก่อนกระชากขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษของ มิดเดิ้ลสโบร์ซ แล้วไหลให้ เบนจานี่ ซัดด้วยขวาเสียบตาข่ายและจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังดูเหมือน แมนฯ ซิตี้ จะไม่ยอมผ่อนเครื่องง่ายๆ เมื่อจัดการส่งทั้ง คาร์ลอส เตเวซ และ แกเร็ธ แบร์รี่ ลงไปแทน ไนเจล เดอ ยองก์ กับ ไมกาห์ ริชาร์ดส์

นาที 47 เกิดจังหวะเจ้าปัญหาขึ้น เมื่อ แกรี่ โอนีล โดนสกัดล้มลงในเขตโทษ แต่กลับกลายเป็นการพุ่งล้ม เลยไม่ได้จุดโทษ แถมถูกจดชื่อใบเหลืองอีกต่างหาก

ผ่านมาถึงนาที 55 โบโร่ ต้องพบข่าวร้ายซ้ำสอง มาร์วิน เอ็มเนส ตัวสำรองที่ลงในครึ่งแรก มีปัญหาบาดเจ็บเล่นต่อไม่ได้ ต้องส่ง มาร์ค ยีทส์ ลงเล่นแทนอีกราย

เกมครบชั่วโมงถึงนาที 64 แมนฯ ซิตี้ น่ายิงทิ้งห่างอีกลูก คาร์ลอส เตเวซ เก็บตกลูกโยนยาวเข้าเขตโทษ ล็อกหลบ แดนนี่ คอยน์ ไปแล้ว แต่จังหวะสุดท้ายกลับดึงบอลเข้ามุมแคบเลยซัดหลุดเสาแรกแบบน่าเสียดาย

เข้าสู่ช่วงท้าย ทีมเรือใบเริ่มแผ่ว ปล่อยให้โบโร่ได้บุกมาหน้าประตูมากขึ้น แต่ทีมเยือนเองก็ไม่มีความเด็ดขาดมากพอ ทำให้จบเกม 90 นาที แมนฯ ซิตี้ บุกเฉือนหวิว 1-0 แต่ก็เพียงพอแก่การเข้ารอบสี่

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

มิดเดิ้ลสโบรช์ : แดนนี่ คอยน์, โทนี่ แม็คมาห์น, เดวิด วีเธอร์, คริส ริกก็อตต์, จัสตัน ฮอยท์, ไรส์ วิลเลี่ยมส์, แกรี่ โอนีล, ฮูลิโอ อาร์ก้า, อดัม จอห์นสัน, โจนาธาน แฟร้งค์ส, มาร์คัส เบนท์

แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, ฆาเบียร์ การ์ริโด้, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, ซิลวินโญ่, พาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เปตรอฟ, วลาดิเมียร์ ไวส์, ไนเจล เดอ ยอง, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี, เดดริ๊ค โบยาต้า

สรุปผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม
- เอฟเวอร์ตัน ชนะ คาร์ไลส์ล 3-1
- ฟูแล่ม ชนะ สวินดอน 1-0
- ฮัดเดอร์ฟิลด์ แพ้ เวสต์บรอมฯ 0-2
- เลสเตอร์ ชนะ สวอนซี 2-1
- มิลตัน คีนส์ ดอน แพ้ เบิร์นลี่ย์ 1-2
- โบโร่ แพ้ แมนฯซิตี้ 0-1
- มิลล์วอลล์ เสมอ ดาร์บี้ 1-1
- พลีมัธ เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0
- พอร์ทสมัธ เสมอ โคเวนทรี 1-1
- เปรสตัน ชนะ โคลเชสเตอร์ 7-0
- แอสตัน วิลล่า ชนะ แบล็คเบิร์น 3-1
- แบล็คพูล แพ้ อิปสวิช 1-2
- โบลตัน ชนะ ลินคอลน์ 4-0
- สคันธอร์ป ชนะ บาร์นสลี่ย์ 1-0
- เชฟฯเว้นส์ แพ้ พาเลช 1-2
- เซาแธมป์ตัน ชนะ ลูตัน ทาวน์ 1-0
- ซันเดอร์แลนด์ ชนะ บาร์โรลว์ 3-0
- ทอร์คีย์ แพ้ ไบรท์ตัน 0-1
- สเปอร์ส ชนะ ปีเตอร์โบโร่ 4-0
- วีแกน ชนะ ฮัลล์ 4-1
- สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ยอร์ค ซิตี้ 3-1
- เรดดิ้ง เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
- แอ็คคริงตัน - จิลลิ่งแฮม (เลื่อน)
- บริสตอล ซิตี้ - คาร์ดิฟฟ์ (เลื่อน)
- เบรนท์ฟอร์ด - ดอนคาสเตอร์ (เลื่อน)