ชัยชนะนัดที่สามติดต่อกันของโรแบร์โต้ มันชินี่แอบหืดนิดหน่อยหลังบุกเอาชนะมิดเดิลสโบรห์ทีมจากเดอะแชมเปี้ยนชิพหวุดหวิด 1-0 จากประตูโทนของเบนจานีตบเท้าเข้ารอบ 32 ทีมเอฟเอ คัพเรียบร้อย

เอฟเอ คัพ

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม 2553

มิดเดิลสโบรห์ 0-1 แมนฯซิตี้

ประตู : 0-1 เบนจานี น.45

ครึ่งแรก

หลังเกมเล่นแบบเนือยๆเพราะสภาพอากาศเลวร้ายมากหิมะตกลงมาท่ามกลางความเย็นที่น่านอนมากกว่าน่าออกมานอกบ้านและนาทีที่ 7 "เรือใบ"ก็เกือบขึ้นนำก่อนหลังลูกเตะมุมตกมาที่ซาบาเลนต้าที่สองเต็มๆนอกเขตโทษแต่ติดบล็อกสองแข้งเจ้าถิ่นที่โถมมาทั้งตัวแต่จังหวะเก็บตกจังหวะสองแข้งสเปนอัดตูมเดียวบอกกำลังจะเสียบเสาแต่ไปแฉลบตูดโจนาธาน แฟร็งค์กองหน้าที่ลงมายืนคุมเสาบอลออกหลังเสียเตะมุมอีกรอบ

เรือมาดีแต่โบโร่ฮึด
จากนั้นซิตี้ก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของแข้งชื่อดังต่อบอลไปมากลายเป็นบอลเล่นอยู่ข้างเดียวแต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆเกินๆเพราะสนามเล่นยากมาก

แต่เล่นไปเล่นมาถึงช่วงนาที 17 โบโร่เริ่มจับจังหวะทีมเยือนได้มากขึ้นเรื่อยๆและเป็นฝ่ายเข้าทำมากกว่าแล้ว


อดัม จอห์นสันเล่นสมราคา
เกมวันนี้ทีมเยือนมีปัญหายามต้องเจอกับอดัม จอห์นสันปีกซ้ายที่ถูกจับมาเล่นขวาเพื่อลากตัดเข้าใน เรียกว่าทำเอาการ์ริโด้เสียท่าไปหลายหนแล้วแต่ต้องถูกเปลี่ยนออกในนาที 32 หลังมีอาการบาดเจ็บตอนกระชาก

เปตรอฟชวดยิงขึ้นนำ
อีก 7 นาทีต่อมายอดทีมจากพรีเมียร์ลีกน่าจะขึ้นนำสุดๆหลังหน้าเขตโทษมีแนวรับเดอะโบโร่เต็มไปหมด เปตรอฟเลี้ยงๆมาเลยงัดบอลระดับกล่องดวงใจให้เบนจานีหันหลังพิงตัวประกบแล้วป้ายทำชิ่ง 1-2 แล้วแข้งบัลแกเรียวิ่งมาซัดด้วยอีขวาข้างไม่ถนัดบอลปลิ้นถากเสามองมุมถ่ายทอดสดนึกว่าหายแล้ว

แต่แล้วนาที 45 2 วินาทีแมนฯซิตี้มาได้ประตูสมใจอยากจากจังหวะที่ต้องชมเปตรอฟที่ลากขึ้นมาจากแดนตัวเองเรื่อยมาถึงตรงระยะ 30 หลาแล้วเห็นเบนจานีวิ่งทำทางหนีวิเทอร์แบบหลุดเห็นๆเลยจ่ายเลียดทะลุเป็นช่องเข้าเขตโทษก่อนที่หอกอิงค์เจ็ตจะแตะหนึงทีแล้วยิงลอดขาคอย์นเข้าไปซุกก้นตาข่าย 1-0 จบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง

เตเบซลงมาป่วน
โบโร่ลงมาลุยจะทวงประตูคืนแต่โรแบร์โต้ มันชินี่ซึ่งเปลี่ยนเอาเตเบซและแบร์รี่ลงมาเพิ่มอาวุธก็เกือบได้ผลเมื่อนาที 56 อดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกระชากหนีสองก่อนตะบันยิงด้วยอีขวาในกรอบแต่บอลบดเข้ามือคอย์นสบายๆ

เตจังเกือบได้เฮอีก
นาที 64 คริส ริก็อตต์กองหลังเจ้าถิ่นเกือบมองของขวัญจากจังวะที่เงอะเงอะปล่อยให้ลูกโด่งเด้งพื้นมาตกใส่หัวเลยถูกเตเบซบังเหลี่ยมบอลแล้วหลุดเข้าเขตโทษยังดีเจอคอย์นปรี่ออกมาบีบทำให้แตะหนีแล้วเร่งยิงบอลเข้าข้างไปเอง

โบโร่ลุยหนัก
แต่ยิ่งเวลาผ่านไปตอนนี้โบโร่ไม่มีอะไรจะเสียก็กลับมาลุยใส่ด้วยสไตล์บอลอังกฤษขนานแท้ทั้งเตะมุม,ครอสริมเส้นและบอมบ์เข้าเขตโทษแต่แนวรุกประสิทธิภาพยังด้อยพัฒนาทำให้ยังทำอะไร"เรือใบ"ไม่ได้

เรือชวดลูกสอง
ช่วงทดเจ็บทีมเยือนน่าจะบวกเม็ดสองให้แฟนๆได้เฮหลังเปตรอฟหลุดขึ้นมาทางปีกขวาก่อนปาดไปเสาไกลให้เตเบซเข้าไม่ถึงแต่เบลลามี่ยังตามมาตบเข้าในแต่แข้งอาร์เจนไตน์แตะเข้ามุมแคบเส้นหลังเลยต้องตบย้อนกลับให้ถีบจักรบรรจงซัดเหน่งๆติดเซฟคอย์นเหลือเชื่อ

หมดเวลาแมนฯซิตี้ปิดเกมเอาชนะด้วยประตูโทนของเบนจานีในช่วงทดเจ็บครึ่งแรกหลุดเข้าไปเล่นในรอบ 4 หรือรอบ 32 ทีมเรียบร้อย


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

มิดเดิลสโบรห์ : แดนนี่ คอย์น,จัสติน ฮอยท์,คริส ริก็อตต์,เดวิด วีเทอร์,โทนี่ แม็คมาห์น,แกรี่ โอนีล ,รายส์ วิลเลียมส์,ชูลิโอ อาร์ก้า(วิลเลียมส์ น.70),อดัม จอห์นสัน(เอ็มเนส น.32),มาร์คัส เบนท์,โจนาธาน แฟร็งคส์

แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น,ไมคาห์ ริชาร์ด(แบร์รี่ น.46 ),ฆาเวียร์ การ์ริโด้ ,ซิลวินโญ่,แวงซองต์ กอมปานี,มาร์ติน เปตรอฟ,วลาดิเมียร์ ไวสส์(เบลลามี น.74),ไนเจล เด ยอง,เบนจานี เอ็มวารูวารี,เดดริค โบยาต้า

http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=225050&sid=44d...