เอฟเวอร์ตัน 2 - แมนฯ ซิตี้ 0

เกมที่กูดิสัน พาร์ค เอฟเวอร์ตันเจองานหนักต้องรับการมาเยือนของแมนฯ ซิตี้ที่มีสถิติชนะรวดนับตั้งแต่เปลี่ยนผู้จัดการทีม

เจ้าถิ่นไม่มีโจเซฟ โยโบกับยาคูบู ไอเย็กเบนี่ที่ติดทีมชาติในรายการแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ แต่ได้ซิลแว็ง ดิสแต็งหายเจ็บกลับมา ขณะที่ลูคัส นีลล์ไม่อยู่ในโผแม้จะมีสิทธิ์รับใช้ทีมเป็นนัดสุดท้ายก่อนย้ายสู่กาลาตาซาราย

ด้านทีมเรือใบเปลี่ยนทีมจากนัดก่อนที่ยำใหญ่แบล็คเบิร์นแค่รายเดียวโดยเลือกใช้งานโรเก้ ซานตา ครู๊ซแทนเบนจานี่ เอ็มวารูวารีที่หล่นไปเป็นตัวสำรอง

ออกสตาร์ตมาเพียง 5 นาที ซานตา ครู๊ซก็มีปัญหาบาดเจ็บกำเริบ ต้องเขยกออกไปให้โรบินโญ่ลงเสียบแทนในอีกสี่นาทีถัดมาหลังใช้เวลาวิ่งวอร์ม

จากนั้นในนาทีที่ 10 มาร์ติน เปตรอฟปีกแมนฯ ซิตี้ก็กระชากบอลตัดจากกราบขวาเข้ามากระทุ้งบริเวณแถวสอง ทำเอาทิม ฮาวเวิร์ดต้องกระโจนไปปัดทิ้ง

รูปเกมของอาคันตุกะยังดูเหนือกว่า จากนั้นอีกสี่นาที เปตรอฟก็ทุ่มบอลจากฝั่งขวาคืนให้ปาโบล ซาบาเลต้าตักเข้าเขตโทษโดยมีคาร์ลอส เตเวซโขกต่อไปเสาไกล ทว่าโรบินโญ่วอลเลย์จาก 12 หลาโด่งข้ามคาน

กระนั้นในนาทีที่ 20 เอฟเวอร์ตันน่าจะออกนำก่อนเมื่อแลนดอน โดโนแวนพาบอลลุยขึ้นมาทางขวาแล้วทำชิ่งกับหลุยส์ ซาฮาจนหลุดเข้าเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายหอกมะกันยิงลูกชิพข้ามตัวเชย์ กิฟเว่นที่ปรี่ออกมาปิดมุมหลุดออกเส้นหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

นาทีต่อมา เจ้าบ้านเกือบได้เฮอีก และเป็นจังหวะควบบอลจากกราบขวาตัดเข้ามาส่องจากหน้าเขตโทษของโดโนแวน แต่ถูกแกเร็ธ แบร์รี่เข้ามาบล็อคเปลี่ยนทิศออกนอกกรอบได้ทัน

สถานการณ์ของทีมท๊อฟฟี่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เปิดฉากบอมบ์ลูกโด่งเล่นงานแมนฯ ซิตี้ได้อย่างดุดัน กระทั่งนาทีที่ 27 ดินิยาร์ บิลยาเล็ตดินอฟก็สอดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปพักบอลด้วยหน้าอกก่อนจะกระทุ้งจาก 12 หลาเต็มเกือก แต่กิฟเว่นปัดพ้นคานช่วยทีมเยือนได้

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 36 แมนฯ ซิตี้ซึ่งเป็นรองทุกกระบวนท่าก็มาเสียลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านซ้ายหลังจากแว็งซ็องต์ กอมปานีไปดึงซาฮาล้ม สตีเว่น พีนาร์จึงรับอาสาปั่นจาก 20 หลาเข้าตุงตาข่ายที่เสาแรกงดงาม แม้กิฟเว่นพยายามพุ่งมาปัดแต่บอลยังหลุดเข้าประตูเป็นสกอร์นำ 1-0 ของท๊อฟฟี่เมน

เจ้าบ้านยังไม่หนำใจ เดินเครื่องบุกหนักต่อ และน่าจะได้ไชโยอีกในนาทีที่ 43 จากลูกโยนยาวที่ทิม เคฮิลล์แตะอกต่อให้บิลยาเล็ตดินอฟกระชากหนีซาบาเลต้าเข้าเขตโทษด้านซ้าย แต่จังหวะสับไกของปีกรัสเซียส่งบอลถากเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

กระนั้นในช่วงทดเวลาเจ็บ กองเชียร์เอฟเวอร์ตันก็ได้เปล่งเสียงเฮกันลั่นในจังหวะที่ซาฮาเก็บบอลในเขตโทษได้แล้วไมกาห์ ริชาร์ดส์เข้ามาดึงชายเสื้อ แม้กองหน้าผิวสีจะไม่ได้ล้ม แต่ไลน์แมนสะบัดธง ผู้ตัดสินจึงเป่าให้เป็นลูกโทษก่อนที่หอกเฟรนช์แมนจะสังหารเข้ากลางประตูพาเจ้าถิ่นนำ 2-0 ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงไป

ครึ่งหลัง เรือใบแก้ลำด้วยการเปลี่ยนเปตรอฟออก ส่งเอ็มวารูวารีลงไปเสริมประสิทธิภาพในการสอยตาข่าย แต่เอฟเวอร์ตันยังเล่นกันได้อย่างดุดันเช่นเดิม

กระทั่งนาทีที่ 60 ทีมเยือนก็ทำช็อคเปลี่ยนตัวสำรองรายสุดท้ายโดยส่งฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ลงไปเป็นปีกซ้ายแทนโรบินโญ่ซึ่งเป็นตัวสำรองรายแรกของเกมในช่วงต้นแม็ตช์ แต่สตาร์แซมบ้าไม่มีปฏิกริยาใดๆนอกจากวิ่งลงอุโมงค์ไปทันทีโดยไม่นั่งอยู่ในซุ้ม

นับจากนั้น เกมของทีมมหาเศรษฐีก็เริ่มกระเตื้อง ก่อนจะเปลี่ยนซิลแว็ง ดิสแต็งอดีตกองหลังเรือใบออกในนาทีที่ 70 โดยปล่อยดาวรุ่งซีมัส โคแมนลงไปแทน

ถึงนาทีที่ 79 เจ้าบ้านได้เตะมุมด้านขวา โดโนแวนจึงตักไปเสาไกลให้มารูยาน เฟลไลนี่โขกย้อนศรถูกกิฟเว่นปัดไปชนเสาได้ แล้วมีบิลยาเล็ตดินอฟเข้าซ้ำโด่งข้ามคาน

เกมของเอฟเวอร์ตันยังเนี๊ยบโดยไม่มีตกหล่น และอีกสองนาทีต่อมา เลห์ตัน เบนส์ก็ลุยขึ้นกราบซ้ายไปสาดบอลเข้าเขตโทษ แต่เคฮิลล์โขกจาก 10 หลาชนคานทั้งๆที่กิฟเว่นได้แต่ยืนผงะแล้ว

เข้าสู่ช่วงห้านาทีสุดท้าย เอฟเวอร์ตันส่งเจมส์ วอห์นลงไปแทนซาฮา และในช่วงทดเวลาเจ็บโดโนแวนก็ถูกเปลี่ยนออกให้โจเซ่ แบกซ์เตอร์ลงไปแทน จบเกมท๊อฟฟี่สีน้ำเงินจึงกำราบแมนฯ ซิตี้ได้อย่างเหนือชั้น 2-0 ยัดเยียดความปราชัยเป็นนัดแรกให้กับทีมเงินถังในยุคของโรแบร์โต้ มันชินี่ไปแบบหมดรูป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง (ซีมุส โคลแมน น.70), จอห์นนี่ ไฮติงก้า, เลห์ตัน เบนส์, แลนดอน โดโนแวน (โฮเซ่ แบ็กซ์เตอร์ น.90), ทิม เคฮิลล์, มารูยาน เฟลไลนี่, สตีเว่น พีนาร์, ดินิยาร์ บียาเลตดินอฟ, หลุยส์ ซาฮา (เจมส์ วอห์น น.84)
สำรองไม่ได้ใช้ : คาร์โล แนช, อดัม ฟอร์ชอว์, เชน ดัฟฟี่, ชโคดราน มุสตาฟี่

แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ฆาเบียร์ การ์ริโด้, ไนเจล เดอ ย็อง, แกเร็ธ แบร์รี่, มาร์ติน เปตรอฟ (เบนจานี่ เอ็มวารูวารี น.46), คาร์ลอส เตเวซ, เคร็ก เบลลามี่, โรเก้ ซานตา ครูซ (โรบินโญ่ น.9, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.60)
สำรองไม่ได้ใช้ : สจ๊วร์ต เทย์เลอร์, เนดุม โอนูโอฮา, ซิลวินโญ่, เดดริค โบยาต้า

ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์

ที่มา http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100117_022.html