มีเหมือนกัน คงต้องยืมสํานวนน้าแมว(แมวเพชรสุรพันธ์) มาระเบิดความรู้สึกสะใจเล็กน้อย หลังเห็นทีม The Citizen(ฉายาแมนเชสเตอร์ ซิตี้) สามารถผลิกสถานการณ์กลับมาแซงผีแดง แมนยู ในเกมตัด
เชือกคาร์ลิ่งนัดแรกได้อย่างน่าประทับใจ
ถึงแม้สกอร์ 2-1 ดังกล่าวอาจไม่พอและเชื่อว่าท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คงเร่งกระตุ้นให้ลูกทีม
แซงเข้าชิงนัดหลังไปได้อยู่ดี แต่อย่างน้อยการคัมแบ็คกลับมาในลักษณะเป็นรอง ถูกบั่นทอนความ
มั่นใจ ทําให้เสียเกียรติ(Humiliate) อย่างนี้ จะเป็นผลดีอย่างมากต่อความรู้สึกด้านบวกภายในทีม
ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้พวกเขาคว้าพื้นที่อันดับสี่ อันเป็นเป้าหมายสูงสุดที่โรแบร์โต้ มันชินี่ เก็บไว้ข้าง
ในลึกๆสําเร็จ
เพราะไม่ว่าพวกเขาจะไปได้ในบอลถ้วยแค่ไหน การประเมิณผลงานสุดท้ายของมันโช่ ซึ่งอย่าลืมมี
เวลาพิสูจน์ตัวเองแค่จบซี่ซั่น จะถูกประเมิณจากผลลัพธ์สุดท้ายตารางเท่านั้น
แม้ว่ากับการออกตัวโค้งแรกที่ผ่านมา อดีตยอดดาวยิงทีมชาติอิตาลีจะดึงเครดิตให้ตัวเองเข้ามาได้
อย่างท่วมท้น จากสถิติพาเรือชนะคู่แข่งในการคุมทีมหกนัดล่าสุด 83.33 เปอร์เซนต์ ซึ่งถือว่าสูง
มากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาคุมงุใหญ่ อินเตอรื ซึ่งสร้างชื่อให้มันโช่ขึ้นมาตัวเลขก็อยู่ที่แค่ 61.67 แต่
ทั้งหมดอย่าลืมว่ากุนซือหลายคนก็ทําได้ดีช่วงแรกอย่างนี้ นัยว่าอาจเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามยังจับทาง
ไม่ถูก
แต่ย้อนไปดูสถิติทํางานของมันโช่ ต้องยอมรับมีแต่ดีขึ้นจริงๆ เริ่มจากตํ่ากว่ามีนกับฟิออ ค่อยดีขึ้นกับ
ลาซิโอ และมาเร่งจนติดลิสต์กุญซือเกรดท็อปกับอินเตอร์ และแนวโน้มอยู่ระดับนี้ต่อไปเส้นทาง
อนาคตของมันโช่น่าพุ่งทะลุเพดานไม่ยาก
เชื่อว่าแฟนเดอะ ซิติเซ่นเอง คงเห็นด้วยเช่นกันว่าทีมขวัญใจของพวกเขา น่าได้ไรท์แมน ไรท์จ็อบ
สักที ถึงแม้ตอนแรกชื่อของมันโช่จะไม่อยู่ในกลุ่มเต็งโผ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเขาน่าเป็นหนึ่งใน
ตัวเลือกดีสุดเท่าที่มีในตลาดตอนนี้
และที่น่าครองใจสาวกซิตี้ไม่ยาก คือความเยือกเย็นดูอบอุ่นเหมือนผู้ใหญ่ของมันโช่ ซึ่งผุ้เขียนไม่
แปลกเลยทําไมนักเตะออกลูกงอแงตอนแรก เพราะเห็นใจนายเก่าผู้มีพระคุณอย่างมาร์ค ฮิวจ์สจะกลับ
มาเทให้นายใหม่พวกเขาอย่างหมดใจ โดยเฉพาะที่ออกมาต่อต้านอย่างเคร็ก เบลลามี่หรือเชย์ยังไม่
ตาย(เชย์ กีฟเว่น) และที่ยืนยันถึงความป็อปได้ปเนอย่างดีคือการที่แฟนบอลแห่รุมซื้อผ้าพันคอสุดเท่
จนกลายเป็นสินค้าขายดีสุดในช็อปสโมสรล่าสุด
โหงวเห้งหน้าตาจึงเป็นส่วนประกอบสําคัญของใครที่คิดเอาดีงานด้านนี้เช่นกัน ซึ่งผู้เขียนถึงแม้ไม่
เชี่ยวชาญตํารานรลักษณ์แต่ก็พอรู้มาบ้างเช่นกันว่า งานแบบไหนควรใช้คนหน้าตาแนวไหน อย่างเช่น
กันถ้าเป็นดาราคุณก็ควรมีวงหน้าเล็กเรียวเวลาออกกล้องจะดูเด่น หรือถ้าเป็นผู้นําธุรกิจหน้าควรออก
กว้างสี่เหลี่ยมเป็นต้น
แต่ถึงจะมีกุนซือดีแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่สาวกซิตี้ต้องไม่ลืมคือตอนนี้พวกเขาเพิ่งอยู่ในช่วงตั้งไข่ล้ม
เท่านั้น เพราะเวลาคือสิ่งที่พวกเขายังต้องการใช้สร้างอะไรหลายอย่างขึ้นมา ถ้าต้องการเห็นทีมขยับ
ขึ้นมาอยู่ในระดับแถวหน้าของบอลอังกฤษแบบยั่งยืน
ตัวอย่างที่ซิตี้ควรมองอย่างยิ่ง คือการก้าวขึ้นมาในเวลานี้ของสิงห์บลู เชลซี ซึ่งไม่ได้ใหญ่ขึ้นมาแค่
ชั่วข้ามคืนแต่ผ่านการต่อสู้มาก่อนโชกโชนพอตัวเหมือนกัน
และถ้าหากย้อนกลับไปดูเส้นทางอดีตทีไม่ไกลห่างเท่าไหร่ อย่าลืมว่าครั้งหนึ่งทีมเรือใบเคยตกตํ่าถึง
ขนาดร่วงไปอยู่เวทีลีกระดับ 3 หรือลีกวันในปัจจุบันมาแล้วเมื่อฤดูกาล 1998-99 หลังจากช่วงปี 90
เคยตกชันจากลีกสูงสุดสองครั้งในสามปีมาแล้วเช่นกัน
เส้นทางชีวิตทีมเรือใบเปรียบไปแล้วจึงไม่ต่างจากสมจิตร จงจอหอ คือเจ็บมาไม่น้อยเช่นกัน
และที่แฟนเรือไม่ควรมองข้ามเช่นกัน คือความจริงของการมีเทรดดิชั่นที่ต้องผ่านการหมักบ่มเหมือน
ไวน์ชั้นดี ขณะที่สโมสรระดับบิ๊กโฟร์ล่าสุดจะเห็นแต่ละทีมต้องมีนักเตะแกนนําสัญลักษณ์ แต่ทีมซิตี้
ชุดนี้อายุงานนักเตะส่วนใหญ่ยังน้อยเกินไปที่จะเก๋าพอประทับตราบทบาทนี้ แต่เชื่อว่าอีกสองสามปี
ทุกอย่างจะได้ที่
เพราะฉะนั้นทั้งหมดแฟนเรือจึงไม่ควรไฝ่สูง คาดหวังความสําเร็จซี่ซั่นนี้มากเกินไป เอาแค่ถ้าพวกเขา
สามาราถยึดอันดับสี่เปลี่ยนขั้นอํานาจลงได้ จะฉลองกันแบบข้ามวันข้ามคืนก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลก
ประหลาดอะไร
"อ.วัน"
http://www.siamsport.co.th/Column/100122_108.html