อาเดบายอร์ – คอมพะนี ส่องคนละตุง พาทีมเก็บ 3 แต้ม รั้งอันดับที่ 6 ของตารางแต้มเท่าหงส์แดง แต่ตามแอสตัน วิลลาทีมอันดับ 4 แค่คะแนนเดียว...
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษคู่แรกประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ม.ค.2553 ระหว่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 6 ของตาราง ล่าสุดบุกไปพ่ายให้กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟเฟิร์ด ในฟุตบอลคาร์ลิ่งคัพ รอบรองชนะเลิศเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ เปิดบ้านซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ "ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ ทีมอันดับสุดท้ายของตารางที่ต้องทุ่มสุดตัวเพื่อหนีการตกชั้น
กุนซือ โรแบร์โต มันชินี ของแมนฯ ซิตี้ วางแผนมาเก็บคะแนนในบ้านตัวเอง ส่งอาวุธหนักเต็มอัตราศึก โดยเลือกใช้หัวหอก 2 ประสาน เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ และคาลอส เตเบซ แกเร็ธ แบรี่ สตีเฟน ไอร์แลนด์ มาร์ติน เปตรอฟ และโคโล ตูเร่ ส่วนตำแหน่งอื่นไม่ได้เปลี่ยนไปจากนัดที่แพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่ อัฟราม แกรนท์ กุนซือของปอมปีย์ ยังต้องนั่งหน้าเครียดจัดทัพหนีการตกชั้นต่อไป เลือกใช้บริการ เควิน พริ้นซ บัวเตง จอห์น ยูตาก้า มาร์ค วิลสัน และ เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน อังเกลอส บาซินาส และ เจมี่ โอฮาร่า
เริ่มเกมครึ่งแรกได้ไม่กี่นาทีเป็นทีมเยือนปอมปีย์ได้สร้างความหวาดเสียวก่อน จากจังหวะของจอห์น ยูตาก้า แต่แผงหลังของแมนฯ ซิตี้ก็ช่วยกันเคลียร์ให้พ้นหน้าประตูไปได้ หลังจากนั้นพอเจ้าบ้านตัวตัวได้ ก็เริ่มดาหน้าบุกเข้าใส่ทีมเยือน ขณะที่ปอมปีย์ต้องลงมาเล่นเกมรับแล้วใช้จังวะสวนกลับ เพื่อบุกสวนทางเจ้าบ้าน เพียงแค่ 20 กว่านาทีกับตันทีมเยือน เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน มีอาการบาดเจ็บ อัฟราม แกรนท์ ต้องส่งสตีฟ ฟินแนน ลงมาเล่นแทน ต่อมานาทีที่ 36 ทีมเยือนหวุดหวิดได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ยูตาก้า ยิงบอลไปแฉลบผู้เล่นแมนฯ ซิตี้ ลูกบอลชุลมุนหน้าประตู แต่แดนนี่ เว็บเบอร์ กองหน้าทีมเยือนวิ่งเข้าซ้ำไม่ทัน
นาทีที่ 39 แมนฯ ซิตี้ ลงโทษทีมเยือนนจังหวะที่เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ หลุดเดี่ยววิ่งไปดวลตัวต่อตัวกับ เดวิด เจมส์ นายทวารทีมปอมปีย์ ก่อนดีดบอลสวนตัวเจมส์ เข้าไปตุงตาข่ายทำให้เจ้าบ้านขึ้นนำก่อน 1-0 เกมดำเนินมาจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บท้ายครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ได้ลุกเตะมุมจากจังหวะที่ เตเบซ ยิงบอลแต่เดวิด เจมส์ ล้มตัวเซฟไว้ได้ ในจังหวะลูกเตะมุม เป็น แวงซอง คอมพะนี กองหลังเบลเยียมของทีมเรือใบสีฟ้า กระโดดโหม่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ช่วยให้เจ้าบ้านนำห่างเป็น 2-0 พร้อมๆ กับเสียงนกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก
ครึ่งหลัง อัฟราม แกรนท์ กุนซือทีมเยือน แก้เกมให้ปอมปีย์เน้นเกมบุกมากขึ้น เพื่อยิงประตูคืนให้ได้เร็วที่สุด แต่รูปเกมในครึ่งหลังแม้ทีมเยือนจะพาบอลมาหน้าประตู แมนฯ ซิตี้ ได้แต่ก็ขาดความแม่นยำในจังหวะสุดท้าย เพราะกองหน้าทั้งแดนนี่เว็บเบอร์ และ มาร์ค วิลสันไม่สามารถจบสกอร์ได้ ที่ผ่านมาพอร์ทสมัธเป็นทีมที่ยิงประตูน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก ขณะที่แมนฯ ซิตี้ ที่ผ่านเกมหนักๆ มาตลอดทั้งเดือนในหลายรายการ ยังไม่มีทีท่าเหนื่อยล้ายังทำเกมบุกเข้าใส่พอร์ทสมัธได้ต่อเนื่อง ขณะที่ทีมเยือนจากที่บุกอยู่ต้องลงไปตั้งรับ และเล่นบอลพลาดในหลายจังหวะ
ในนาทีที่ 79 คาร์ลอส เตเบซหวุดหวิดจะยิงประตูให้แมนฯ ซิตี้ขึ้นนำเป็น 3-0 แต่บอลดันไปชนเสาออกหลังไปช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งหลัง เป็นพอร์ทสมัธที่ทำเกมบุกในช่วงท้ายๆ ของเกม แต่แนวรับของแมนฯ ซิตี้ ยังตรึงเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ในท้ายที่สุด ยังทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ ครบ 90 นาทีและช่วงต่อเวลาแมนฯ ซิตี้ เปิดบ้าน เอาชนะทีมเยือน พอร์ทสมัธไปแบบสนุกๆ 2-0 เก็บ 3 แต้มเพิ่มเป็น 41 แต้ม เท่ากับลิเวอร์พูล แต่ประตูได้เสียลิเวอร์พูลดีกว่า รั้งอันดับ 6 ขแงตาราง ตามหลังแอสตัน วิลลาทีมอันดับที่ 4 เพียง 1 คะแนน
น่าจะซัก 6-0