วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2553
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 1 - สโต๊ค ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 1
- สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์
- แมนฯ ซิตี้ได้โคโล่ ตูเร่เช็คความฟิตผ่านประสานงานร่วมกับโจลีออน เลสค็อตต์แทนเดดริค โบยาต้า แต่ทว่าอดัม จอห์นสันติดคัพไทจากการลงเล่นรายการนี้ให้มิดเดิ้ลสโบรช์มาแล้ว
- กระนั้น ด้วยเหตุที่ทีมเงินถังต้องเตะเกมพรีเมียร์ลีกนัดตกค้างกับคู่ปรับรายนี้ที่บริทานเนียในวันอังคารที่ 16 ก.พ.จึงดร็อปคาร์ลอส เตเวซออกไปพัก ขณะที่ปาทริค วิเอร่ามีชื่อเป็นตัวสำรอง
- ส่วนสโต๊คยังวางใจให้ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ศูนย์หน้าจอมฉาวลงสนามแม้เจ้าตัวจะก่อคดีทะเละวิวาทมาหมาดๆ โดยมีตุนกาย ซานลี่เป็นคู่ขา
- พร้อมกันนี้ เกมนี้ยังมีฟาบิโอ คาเปลโล่ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเข้ามาดูฟอร์มของเวย์น บริดจ์แบ็คซ้ายเรือใบด้วยหลังจากแอชลีย์ โคลปราการหลังเชลซีเจ็บยาวพักสามเดือน
- แมนฯ ซิตี้ออกสตาร์ตอย่างมั่นอกมั่นใจ และในเวลาเพียง 14 นาทีก็มอบของขวัญวันวาเลนไทน์ให้กับสาวกได้เมื่อสตีเฟ่น ไอร์แลนด์จ่ายบอลยาวจากแดนกลางให้ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์หลุดเดี่ยวจากการเช็คล้ำหน้าที่ผิดพลาดของช่างปั้นหม้อ ปีกร่างระหงจึงสบโอกาสกระดกบอลข้ามโธมัส โซเรนเซ่นที่พยายามออกมาสกัดหน้าเขตโทษแล้วไรอัน ชอว์ครอสส์ออกทะเล วิ่งไปเคลียร์บอลหน้าปากประตูไม่ดี จึงเป็นการตั้งให้สตาร์เรือใบได้กดตูมระยะเผาขนพาเจ้าบ้านออกนำ 1-0
- ถัดมาในนาทีที่ 14 ทีมเยือนก็โชคร้ายเสียแม็ตธิว เอเธอริงตันที่เข้าแย่งบอลจากบริดจ์แล้วเสียหลักล้มเจ็บบริเวณเส้นหลัง แถมต้องหามลงเปลทำให้เลียม ลอว์เรนซ์ถูกส่งลงมาเสียบแทน
- นับจากนั้นช่างปั้นหม้อก็โชว์ความดุออกมาเล่นงานเจ้าบ้าน และในนาทีที่ 30 จากลูกโยนทางซ้ายของตุนกายก็ทำให้ลอว์เรนซ์ได้เข่นเหน่งๆที่เสาไกล แต่ถูกบริดจ์เข้ามาขวางได้หวุดหวิด
- กระทั่งนาทีที่ 39 แอนดี้ วิลกินสันกองหลังสโต๊คก็ต้องสังเวยใบเหลืองเมื่อเข้าเหนี่ยวไรท์ ฟิลลิปส์ล้มก่อนที่ดาวเตะผิวสีจะหลุดเข้าเขตโทษด้านขวา แต่มาร์ติน เปตรอฟรับอาสากดฟรีคิกจังหวะนี้โด่งข้ามคาน
- ถัดมาในนาทีที่ 43 ทีมเยือนก็มีโอกาสจากจังหวะที่แนวนับแมนฯ ซิตี้เคลียร์ลูกทุ่มด้านขวาไม่ขาด ทำให้แดนนี่ ฮิกเก้นโบแธ่มได้เก็บตกจากหน้าเขตโทษ แต่บอลลอยโค้งเฉี่ยวกรอบไปแค่เส้นยาแดง
- อย่างไรก็ดี ถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่างปั้นหม้อก็ต้องเปลี่ยนโรรี่ ดีแล็ปลงไปแทนลอว์เรนซ์ตัวสำรองที่ได้ลงสนามไม่นานแล้วเกิดเจ็บเข่าขวาขึ้นมาเองโดยที่อาจฝืนเล่นต่อได้ ในที่สุดครบ 45 นาทีแรกเรือใบจึงนำไปก่อน 1-0
- เริ่มครึ่งหลังเจ้าบ้านเปิดเกมรุกเข้าหาทันที และถึงนาทีที่ 55 ช่างปั้นหม้อก็ดวงแตกอีกหนเมื่อวิลกินสันเกิดเจ็บเข่าซ้าย ต้องเดินเขยกออกไปให้แดนนี่ คอลลินส์ลงมาเป็นตัวสำรองรายสุดท้าย
- อย่างไรก็ดี อีกสองนาทีต่อมาทีมเยือนก็อาศัยลูกทุ่มหากินจนได้เมื่อดีแล็ปทุ่มบอลจากด้านขวาลึกเข้ามาถึงหน้าปากประตูให้ฟูลเลอร์โขกจากหกหลาตุงตาข่ายช่วยให้ช่างปั้นหม้อตีเสมอเป็น 1-1
- ถัดมาในนาทีที่ 62 เจ้าถิ่นก็ถึงคราวต้องเปลี่ยนผู้เล่นเช่นกันเมื่อเปตรอฟเริ่มเดี้ยง จึงเดินเขยกออกไปโดยมีโรเก้ ซานตา ครู๊ซถูกส่งลงมาแทน
- ล่วงมาถึงนาทีที่ 73 ทีมตราเรือใบก็ปล่อยวิเอร่าลงไปทำเกมแทนไอร์แลนด์หมายสยบอาคันตุกะให้ได้
- แต่แล้วอีกอึดใจเดียว ทีมเงินถังก็เกือบวายปราณจากลูกเตะมุมด้านขวาของสโต๊คที่ตุนกายเปิดย้อนคืนมาหน้าเขตโทษให้เกล็น วีแลนวิ่งเข้ากระทุ้ง แต่เชย์ กิฟเว่นเซฟได้
- เข้าสู่นาทีที่ 79 แมนฯ ซิตี้เกือบขึ้นนำอีกหนเมื่อแกเร็ธ แบร์รี่ได้โขกบอลโยนยาวจากกราบขวาของไรท์ ฟิลลิปส์ที่ระยะหกหลา ทว่าโซเรนเซ่นปัดข้ามคานได้เยี่ยม
- ท้ายเกมต่างก็มีโอกาสพอกัน แต่ถึงช่วงทดเวลาเจ็บนาทีที่ 92 แมนฯ ซิตี้ก็ชวดได้ประตูชัยอย่างน่าเสียดายจากจังหวะที่วิเอร่าตักบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษด้านขวาให้ซานตา ครู๊ซวอลเลย์จาก 12 หลาผ่านโซเรนเซ่นไปแล้ว แต่ชอว์ครอสส์ตามไปสกัดทิ้งทันก่อนที่บอลจะเข้าประตู จบเกมทั้งคู่จึงเจ๊ากันไป 1-1 ต้องเล่นนัดรีเพลย์ตามระเบียบ
- สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอคัพ อังกฤษ รอบ 5
- เชลซี ชนะ คาร์ดิฟฟ์ 4-1
- เซาแฮมป์ตัน แพ้ พอร์ทสมัธ 1-4
- ดาร์บี้ แพ้ เบอร์มิงแฮม 1-2
- เร้ดดิ้ง เสมอ เวสต์บรอมวิช 2-2
- แมนฯ ซิตี้ เสมอ สโต๊ค 1-1
Tags:
-
▶ Reply to This