Members

RIP พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ยอดวีรบุรุษ แห่งบันนังสะตา

ขอไว้อาลัยแด่ "พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา"  ผกก.บันนังสตา
ที่เหลืออายุราชการเพียงปีเศษ และขอย้ายออกจากพื้นที่
แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ และได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุระเบิดเมื่อสักครู่นี้



ในที่สุด "จ่าเพียร" ก็ได้สิ้นสุดการทำงานในพื้นที่ "บันนังสตา" เสียที
โดยที่ใครก็ไม่สามารถฉุดรั้งท่านเอาไว้ได้ ท่านจากไปอย่างวีรบุรุษ
ตลอดอายุการทำงานในพื้นที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกว่า 40 ปี ได้พิสูจน์แล้วว่า
ท่านเป็นผู้ทุ่มเทให้กับการทำงาน ณ ที่นี่ ที่ "บันนังสตา" อย่างหนัก
และท่านคงจะเหนื่อยล้ากับหน้าที่การงานของท่านเป็นอย่างมาก
จึงขอย้ายออกจากพื้นที่ทั้ง ๆ ที่เหลืออายุราชการเพียงปีเศษ
แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง จนเป็นเหตุให้ต้องเข้าร้องเรียนกันไปเมื่อเร็ว ๆ
นี้

เหมือนท่านจะรู้ตัวว่าภัยกำลังคุกคามท่านทุกขณะจิต ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ท่านได้ถูกรอบสังหารมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ผ่านเหตุการณ์อันน่าตระหนกและสะพึงกลัวมาแล้วเป็นร้อยครั้ง
จนได้รับโล่ห์และเหรียญเชิดชูเกียรตินับไม่ถ้วน

และถึงแม้นการร้อง เรียนเรืองการขอย้ายออกนอกพื้นที่ยังไม่จบสิ้น
ท่านก็ต้องกลับมารับหน้าที่ในพื้นที่ "บันนังสตา" ต่อไป
แต่ท่านก็มิได้ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติหน้าที่ ท่านยังคงทำหน้าที่ ผกก.
บันนังสตา อย่างเต็มที่และเต็มภาคภูมิ
รวมถึงออกปฏิบัติหน้าที่และลงพื่นที่เป็นปกติ

และในครั้งนี้ก็เช่น กัน ท่านได้ออกปฏิบัติหน้าที่สนธิกำลังร่วมกันหลายหน่วยงาน
ขณะที่ท่านกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น
รถกระบะคันที่ท่านนั่งมาขณะผ่านจุดเกิดเหตุก็ถูกคนร้ายกดระเบิดแสวงเครื่อง
น้ำหนักกว่า 20 กิโลที่ถูกฝังไว้บนถนน จากนั้นคนร้ายก็กรูกันกว่า 10
คนเข้าใช้อาวุธสงครามยิงซ้ำยังเป้าหมาย



กว่า ที่กองกำลังหนุนจะเข้าไปช่วยเหลือ คนร้ายก็ได้ถอยหนีเข้าไปในป่า และ "จ่า เพียร"
ก็ถูกนำออกมาจากที่เกิดเหตุในสภาพที่
"ถูกสะเก็ตระเบิดและถูกยิงเข้าที่ร่างกายหลายแห่ง" บาดเจ็บสาหัส
นอกจากนี้ยังมีนายตำรวจอีก 3 นาย และเจ้าหน้าที่ อส. อีก 1
นายถูกยิงบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

กว่าที่ร่าง "จ่าเพียร" และผู้บาดเจ็บทั้งหมดจะถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ด้วยเฮลิคอปเตอร์ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)
ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ในที่สุด "จ่าเพียร" ก็ได้จากโลกนี้ และ
พ้นจากหน้าที่ ผกก.บันนังสตา ไปเสียแล้ว

ฉันอ่านข่าวนี้ด้วย ความตั้งใจ และรู้สึกเสียใจ สลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันเสียใจกับ
"จ่าเพียร" และครอบครัวของจ่าเพียร และเสียดายกับการจากไปของ
"วีรบุรุษแดนใต้" อีกคนหนึ่ง
และฉันรู้สึกสลดใจกับข้อเรียกร้องขอย้ายออกจากพื้นที่
เพื่อใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุขของ "จ่าเพียร" ที่ไม่ได้รับการ "ตอบรับ"

ฉัน อยากรู้จริง ๆ ว่าผู้ที่ทำหน้าที่ "ไม่ให้ท่านย้ายออกจากพื้นที่"
นั้นจะคิดอย่างไรกับการจากไปของท่าน
พวกเขาจะรู้สึกสลดใจบ้างมั้ยกับการกระทำของตนเอง

จริงอยู่ หากท่านย้ายไป ท่านอาจจะไม่ตายในหน้าที่แบบนี้ แต่ก็อาจจะไปตายที่อื่น
หรือแบบอื่นก็เป็นได้ ถ้าจะมองว่าถึงที่ตาย แบบคนที่คิดเข้าข้างตัวเอง
และหาเหตุผลมาสนับสนุนให้ตัวเองดูผิดน้อยลง
และคนที่มาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้ ก็อาจจะเป็นคนที่มาตายแทนท่านก็ได้

แต่ ทำไมการให้รางวัลแห่งการปฏิบัติหน้าที่กว่า 40 ปีในพื้นที่ ๆ
เป็นพื้นที่อันตราย
ด้วยการให้ท่านได้ย้ายออกจากพื้นที่และไปพักผ่อนกับครอบครัวในอายุราชการที่
เหลืออยู่นั้น จึงทำไม่ได้ การให้คนแก่คนหนึ่ง (ขออภัยที่ฉันใช้คำนี้)
ได้พักอยู่กับครอบครัว โดยไม่ต้องมาผจญกับความเครียดและอันตรายรอบตัวนี้
สำนักงานตำรวจแห่งชาติกลับให้ท่านไม่ได้
จนท่านต้องจากไปในการปฏิบัติหน้าที่ราชการแบบนี้

ฉันเชื่อค่ะว่า "ท่าน ไม่ได้กลัวตาย" และเชื่ออย่างสนิทใจ เพียงแต่ท่านต้องการจะพัก
ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านคงลาออกไปเลี้ยงหลาน หรือไม่มามาเป็นตำรวจในพื้นที่
"บันนังสตา" ซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเป็นแน่

ฉัน เชื่อว่า "ผู้ที่เป็นตำรวจนั้น ไม่กลัวที่จะต้องตายในการปฏิบัติหน้าที่" 
ถึงแม้นท่านจะเคยพูดว่า "ไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และไม่อยากตายในชุดนักรบ"
ก็ตาม แต่ที่ฉันสงสัยคือ แล้วไอ้คนที่ไม่ยอมมาปฏิบัติหน้าที่
และผู้ที่สมยอมให้คนผู้นั้นไม่ต้องมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงตายนี่
"ยังเป็นตำรวจอยู่เหรอค่ะ"
ท่านอาจจะคิดอะไรได้ร้อยแปดพันเก้าที่เข้าข้างตัวเอง

แต่ สำหรับฉัน "ท่านไม่ใช่ตำรวจ" แม้นแต่นิดเดียว
ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่เหยียบย่ำชีวิตผู้อื่นขึ้นไปเพื่อให้ตัวเองมี
ชีวิตรอดไปวัน ๆ เท่านั้น

มัน ดูไม่ต่างอะไรกับสัตว์โลกที่ต้องดิ้นรนให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ ใช่มั้ยค่ะ !!!
แต่มันต่างกับ "ความเป็นคน" และ "หน้าทีของตำรวจ" ค่ะ

"จ่าเพียร" หลับให้สบายนะค่ะ
ในที่สุดท่านก็ไม่ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ท่านไม่ควรต้องปฏิบัติอีกต่อไปแล้ว

ประวัติ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เข้ารับราชการครั้งแรกหลังจบโรงเรียนตำรวจภูธร 9
เป็นตำรวจลูกแถวยศพลตำรวจอยู่ที่ สภ.บันนังสตา
ผ่านการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนับร้อยครั้ง 
จนเป็นที่ครั่นคร้ามของกลุ่มแนวร่วมและรู้จักกันในแวดวงตำรวจ-ทหารในชื่อ
"จ่าเพียร"

กระทั่งกรมตำรวจ (ในสมัยนั้น) อนุมัติให้เข้าอบรมหลักสูตรนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรโดยไม่ต้องสอบคัดเลือกได้
เลื่อนยศเป็น  "ร.ต.ต." จนกระทั่งปี 2519 ขณะปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย 
ถูกระเบิดที่ขาซ้ายเกือบขาดแต่ยังรอดมาได้

ปี 2526 ถูกคนร้ายยิงในพื้นที่อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้รับบาดเจ็บกระสุนฝังใน
กระทั่งปี 2550 กลับมารับราชการเป็น ผกก.สภ.บันนังสตา
ออกกวาดล้างจับกุมโจรใต้ทั้งจับเป็นและจับตายนับสิบคดี
จนกระทั่งล่าสุดถูกโจรใต้ใช้  จยย.บอมบ์หมายจะสังหารเมื่อวันที่ 18 ก.พ.
แต่ก็ยังรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด

จนกระทั้งเกิดเหตุระเบิดในวันนี้

ข่าว จากไทยรัฐ :: http://www.thairath.co.th/content/region/70303

ประเทศ ไทยสูญเสียนายตำรวจนักรบ หลังโจรใต้บึม-ยิงถล่มซ้ำ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา
เจ็บสาหัสพร้อมลูกน้องอีก 4 คน ขณะลุยค้นบ้านต้องสงสัย
แต่หมอสุดยื้อชีวิต...

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา สนธิกำลังหลายฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายพื้นที่
ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
แต่ขณะรถกระบะซึ่งใช้เป็นพาหนะวิ่งอยู่บนถนนสายบ้านตาเนาะปูเต๊ะ-บ้านทับ
ช้าง ซึ่งเป็นถนนขึ้นเนินเขา 2 ข้างทางเป็นสวนยางพารา ในเขตบ้านทับช้าง ม.9
ต.ตาเนาะปูเต๊ะมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบกดระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ
20 กิโลกรัมฝังไว้ใต้พื้นถนน จากนั้น คนร้าย ซึ่งคาดว่า มีจำนวนไม่ต่ำกว่า
10 คน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มซ้ำจนเกิดการปะทะกันขึ้น

ต่อมา พ.ต.ท.วิชัย แจ้งสกุล รอง ผกก.สส.สภ.บันนังสตา พ.ต.ท.ณรงค์ ธนานันทกุล รอง
ผกก.ตชด. 44 ผบ.ฉก.ตชด. 44 นายปรเมศวร์ จันทร์แสง
ปลัดป้องกันอำเภอบันนังสตา นำกำลังไปสนับสนุน
แต่คนร้ายได้ล่าถอยเข้าป่าไปแล้ว จึงไม่ทราบการสูญเสีย
ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจปรากฏว่า พ.ต.อ.สมเพียร
ถูกสะเก็ดระเบิดและถูกยิงที่ลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนั้น ยังมี
ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ โลมา อายุ 38 ปี รอง สวป.สภ.บันนังสตา ด.ต.โสภณ อินทรบวร
อายุ 36 ปี พลขับ ส.ต.ท.รวิกร สังข์ศิริ อายุ 28 ปี ผบ.หมู่
ป.สภ.บันนังสตา และอส.อับดุลอาซิ กาจะลากี อายุ 35 ปี อส.อำเภอบันนังสตา
ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย

จากนั้น พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จว.ยะลา
ทราบเหตุนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุและเดินทางไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล
พร้อมประสานเฮลิคอปเตอร์ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)
รับผู้บาดเจ็บทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ล่าสุด พ.ต.อ.สมเพียร
ซึ่งมีอาการสาหัสที่สุดเสียชีวิตแล้ว

สำหรับ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา รับราชการตำรวจอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตา มานาน ตั้งแต่สมัยยังหนุ่มๆ
จากชั้นประทวนขยับขึ้นชั้นสัญญาบัตร ต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมานาน
หวุดหวิดจะเสียชีวิต และได้ รับบาดเจ็บสาหัสหลายครั้ง
จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็น ผกก.สภ.บันนังสตา ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ 
ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรีและรักษาการ ผบ.ตร.
กรณีทำเรื่องขอย้ายออกนอกพื้นที่เพราะจะเกษียณราชการในปี 2553
แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา ล่าสุด วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา
ถูกจยย.บอมบ์ แต่ไม่ได้รับอันตรายรุนแรง
จนมาเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในวันนี้



ที่มา ขอขอบคุณภาพจาก Internet และข้อมูลข่าวจาก นสพ.ไทยรัฐ และ คุณสายลม  http://www.oknation.net/blog/swongviggit



Views: 624

Reply to This

Replies to This Discussion

เพิ่มประวัติ และวีรกรรม ของท่านนิดนึงครับ คนดีต้องยกย่่อง

พ.ต.อ. สมเพียร เอกสมญา
ยอดวีรบุรุษ แห่ง สภ.บันนังสตา จ.ยะลา

“”" แววตาที่ยังมุ่งมั่นในวัย 57 ปี “”"

... จากปฏิบัติการณ์บุกโจมตีแบบสายฟ้าแลบ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ฯ บริเวณทางเข้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นการใช้ “แก๊สน้ำตา” ต่อผู้ชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ..


… สร้าง”ตราบาป” ให้กับวงการตำรวจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายฝ่ายได้ออกมา “ประนาม” การกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุในครั้งนี้ แม้ทางเจ้าหน้าที่จะออกมาอ้างเหตุผลต่างๆนานา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง แต่ ก็ไม่สามารถลบภาพการกระทำอันเลวร้าย ในเหตุการณ์ ” 7 ตุลาทมิฬ” ได้ ที่ทำให้ ” ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” กลายมาเป็น ” ผู้พิฆาตประชาชน ” …
… สงสารและเห็นใจตำรวจน้ำดีอีกจำนวนมาก ที่ตั้งใจทำงานอุทิศ กายและใจ เพื่อความสงบสุขของประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ชื่อเสียงพลอยมัวหมองจากการกระทำของคนสีเดียวกัน..

“”" พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.กระดูกเหล็ก แห่ง สภ.บันนังสตา ยะลา หรือ ” จ่าเพียรมือปราบ ” ..ในอดีต ..
… สิ่งที่จะได้นำมาเสนอในครั้งนี้ ไม่ใช่จะมาช่วยผม้ภาพลักษณ์ให้กับวงการตำรวจ “แต่อยาก” นำแบบอย่างของ “ตำรวจดี ” นายหนึ่งที่ตลอดทั้งชีวิต ในเครื่องแบบสีกากี ตั้งแต่ เป็น ” พลตำรวจ ” จนถึงปัจจุบัน ” พันตำรวจเอก “ กว่า30 ปี ที่เขาทำงานคลุกคลีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านการปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบมานับร้อยครั้ง ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ หลายต่อหลายหนจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ปัจจุบัน นายตำรวจผู้นี้ดำรงตำแหน่ง ” ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ” …
… ใช่แล้ว เขาคือ ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ” ผู้กำกับฯ ” กระดูกเหล็ก ” แห่งวงการตำรวจชายแดนใต้ ที่ชื่อเป็นที่ครั่นคร้ามของกลุ่มแนวร่วมฯ ในนามของ ” จ่าเพียรมือปราบ ” ฉายาที่ติดตัวมาตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นประทวน ..


… ตั้งแต่ปี 2513 หลังจบการศึกษา โรงเรียนตำรวจภูธร 9 จังหวัดยะลา พลฯสมเพียร เอกสมญา ถูกส่งเข้าเป็นตำรวจประจำ สภอ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งในขณะนั้น พื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตเคลื่อนไหวของขบวนการโจรก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดน อย่างหนักทำให้ภาครัฐต้องระดมสรรพกำลัง ทั้งทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เข้าไปแย่งชิงมวลชน และดูแลความสงบเรียบร้อย หลายครั้งที่เกิดการปะทะ ทำให้มีการสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย และ ปฐมบทแห่งการเป็น จ่าเพียรมือปราบ ก็เกิดขึ้นที่นั่น …


“”"” ผู้ฝากผลงาน ด้านการสืบสวน ปราบปราม สู้กับ โจรก่อการร้าย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มากว่า 30 ปี “”"
… จากชีวิตตำรวจที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด เขาได้สร้างผลงานด้านการปราบปราม ต่อสู้กับโจรก่อการร้ายอย่างห้าวหาญ สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ของผู้บังคับบัญชา ทำให้กรมตำรวจ (ในขณะนั้น) ได้อนุมัติให้เข้ารับการ อบรมหลักสูตร ” นายตำรวจสัญญาบัตร ” โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก และได้รับการเลื่อนลำดับขั้น จากผงพวงการทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด …

“”" เมื่อครั้งนำกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าช่วยเหลือ นักบินและช่างเครื่อง ที่รอดชีวิต จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ ตำรวจ ตก ที่เขื่อนบางลางเมื่อปลายปี 50 “”"



… และหากนับผลการปฏิบัติราชการตรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ ปี 2513 จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เป็น ” พลตำรวจ” จนถึงยศ “พันตำรวจเอก ” เขาได้เข้าทำการปะทะต่อสู้กับโจรก่อการร้าย โจรจีนคอมมิวนิสต์ มาแล้วนับ 100 ครั้ง สามารถสังหารฝ่ายตรงข้าม ยึดอาวุธปืน และที่พักเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลในการนำกำลังเข้าปะทะกับโจรก่อการร้ายดังกล่าว ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทั้งเล็กน้อยและสาหัส จำนวน 8 ครั้ง เช่นในปี 2519 ได้ยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย กลุ่มนายลาเตะ เจาะปันตัง ที่จับกุมตัวตำรวจและครอบครัวไปเรียกค่าไถ่ ที่เทือกเขาเจาะปันตัง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ผลการปะทะทำให้ เขา ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขาซ้าย หน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งรักษาตัว รพ.ศูนย์ยะลา และจากการปะทะในครั้งนี้ทำให้ขาข้างซ้ายแทบพิการ ..

“”" ไม่ทิ้งงานมวลชน ในพื้นที่ “”"
… และปี 2526 ได้ยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย กลุ่มนายคอเดร์ แกแตะ กับพวกประมาณ 30 คน ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำให้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ต้นขาขวากระสุนฝังใน …
… เป็นต้น ..
… จากความทุ่มเท มุ่งมั่น ทำงานอย่างหนักในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ มวลชนให้ความยอมรับให้ความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ ” ฝ่ายตรงข้ามเกรงกลัว ” จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง ในปี 2550 เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ” ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.บันนังสตา จ.ยะลา แห่งเดียวกับที่เริ่มรับราชการครั้งแรก เมื่อยังเป็นตำรวจชั้นประทวน …



“”" เครื่องแบบนายตำรวจ น้อยครั้งที่จะนำมาสวมใส่ เนื่องจากต้องการทำตัวให้ใกล้ชิด และ เข้าถึงชุมชนให้มากที่สุด “”"

… พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา กลับสู่บันนังสตา ในขณะแผ่นดินกำลังลุกเป็นไฟ กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ สามารถจัดตั้งแนวร่วมฯ และกองกำลังรบขนาดเล็ก ( RKK) เพื่อใช้ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ ให้ได้รับความสูญเสียเป็นจำนวนมาก โชคดีที่ พ.ต.อ.สมเพียร เคยทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลานาน แม้รูปแบบการก่อความไม่สงบของกลุ่มคนร้ายได้ปรับเปลี่ยนไปจาก เมื่อ เกือบ 30 ปี ที่แล้วมาก แต่อาศัยเป็นผู้ชำนาญในพื้นที่มาก่อน และมีแหล่งข่าวเก่าที่ เคยทำงานร่วมกันในอดีต จึงไม่เกินความสามารถที่จะที่จะสืบเสาะหาแหล่งกบดาน และติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ และหลังจากเขาเข้ามารับตำแหน่ง ผกก.สภ.บันนังสตาได้ไม่นาน วันที่ 1 สค.50 ได้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าปิดล้อมตรวจค้น และยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้ายที่บ้านเตี๊ยะ หมู่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา กลุ่มนายสุริมิง เปาะสา ที่ก่อเหตุร้ายในพื้นที่หลายครั้ง ผลการปะทะ ทำให้กลุ่มคนร้ายเสียชีวิต 6 ราย สามารถยึดอาวุธปืนสงครามและยุทธภัณฑ์ได้เป็นจำนวนมาก …
… นอกจากนี้ยังได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือน เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอีกหลายครั้ง สามารถจับกุม สร้างความสูญเสียให้กับกลุ่มคนร้าย และทำลายฐานที่มั่น ได้หลายแห่ง จนขบวนการกลุ่มก่อความไม่สงบ รวมตัวกันไม่ติด หนีหลบซ่อนออกนอกพื้นที่และบริเวณป่าเขา ทำให้เหตุร้ายใน พื้นที่ อ.บันนังสตา เบาบางลงมาก …



… แม้ พ.ต.อ.สมเพียร จะมีความสามารถในงาน สืบสวน ปราบปราม แต่ งานมวลชน เขาก็ไม่ได้ละทิ้ง ยังคงติดต่อฟื้นสายสัมพันธ์เก่า กับประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ ที่เคยทำงานร่วมกันมาเมื่อครั้งอดีต ด้วยใจถึงใจ ต่อกัน มีกิจกรรมใดๆที่เกี่ยวกับการสร้างความเข้าใจและความรู้สึกอันดีกับชุมชน เขาไม่เคยที่จะปฏิเสธในการเข้าไปมีส่วนร่วม แม้จะรู้ว่ามีอันตรายแฝงอยู่ในทุกย่างก้าว …
ต่อ นะครับ



“”" เป็นกันเองกับผู้ใต้บังคับบัญชา “”"

… ผลจากการทำงานทุ่มเทมาตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจ ทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้รับการยกย่อง และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆเป็นจำนวนมาก และ ที่สร้างความปลาบปลื้ม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดในชีวิต และครอบครัว คือ ได้รับการโปรดเกล้า ฯ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับพระราชทาน ” เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญมาลาเข็มกล้ากลางสมร ” ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และกระทำพิธี ” ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา “ ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2525 …



“”"” ภาระกิจในพื้นที่ บันนังสตา ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว “”"
… และนับเป็น ตำรวจเพียงคนเดียว ในขณะมียศแค่ ” จ่าสิบตำรวจ ” ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ …
… นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมเพียร ยังได้รับพระราชทาน และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆอีกมากมาย เช่น ..
1.ได้รับพระราช ทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นสอง ประเภทหนึ่ง
2.ได้รับประกาศนียบัตร ” ผู้มีผลงานสู้รบดีเด่น ” จากกระทรวงมหาดไทย
3.ได้รับเข็มรักษาดินแดน สดุดี จากกระทรวงมหาดไทย
4.ได้รับมอบเกียรติบัตรผู้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้อง ประเทศชาติด้วยความเสียสละ จากองค์การทหารผ่านศึก
5.ไดัรับประกาศผู้มีผล งานดีเด่นด้านการปราบปราม จากกองบัญชาการตำรวจภูธร 9
6.ได้รับการคัด เลือกเป็นศิษย์เก่า โรงเรียนตำรวจภูธร 9 ดีเด่น
7.ได้รับหนังสือสำคัญ จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต ) ยกย่องเชิดชู เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ
8 .ฯลฯ …
“”" และล่าสุด หลังจากรับตำแหน่ง ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ตั้งแต่ปี 2550 เป็นตันมา พ.ต.อ.สมเพียร ได้นำกำลังเข้าปิดล้อม ตรวจค้น และได้มีการปะทะยิงต่อสู้กับแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบ (RKK) มาแล้วจำนวน 7 ครั้ง ทำให้คนร้ายเสียชีวิต จำนวน 17 คน สามารถยึดอาวุธสงครามและยุทธภัณฑ์ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็น ” ผู้นำหน่วยยอดเยี่ยม ” จากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า ( ศปก.ตร.สน ) …


……….. นี่คือเรื่องราวเพียงเศษเสี้ยวของชีวิต ตำรวจนายหนึ่ง ที่ทำงานทุ่มเท เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับตำรวจน้ำดีในพื้นที่อีกหลายคน พวกเขาเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ ภายใต้เครื่องแบบสีกากี ที่เขาแสนภาคภูมิใจ แม้จะเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ และ เสี่ยงต่ออันตรายแค่ไหน แต่เขาไม่เคยย่อท้อ แม้อายุราชการ ของ พ.ต.อ.สมเพียร จะเหลืออีกไม่กี่ปี แต่เขายืนยัน ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด สมดั่งปรัชญา ” ตำรวจคือ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ” …
13 ตุลาคม ” วันตำรวจ ” ของไว้อาลัยแด่ ตำรวจทุกท่านที่เสียชีวิตจากปฏบัติหน้าที่ ในการรักษาความสงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอให้ผู้กล้าทั้งหลายที่ยังคงอยู่ มีขวัญ กำลังใจ ในการทำงาน ขอให้ปลอดภัย แคล้วคลาด ทำงานประสบความสำเร็จทุกประการ สวัสดีครับ ………..

ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/singslatan/2008/10/13/entry-1
ทำดีให้โลกจดจำ....ขอสดุดีแด่ดวงวิณญาณของผู้กล้า...
ขอไว้อาลัยกับการจากไปของวีรบุรุษไทย
บทสรุปเรื่องนี้คือผลงานไม่อาจสู้ผลของเงินได้ครับ...(ถึงไม่ได้ย้าย)
ขอแสดงความเสียใจ ในฐานะที่เป็นคนไทย มาใน ณ ที่นี้ .
สงสารมากครับ ขนาดจะย้ายออกยังต้องใช้เส้นเยอะเลย
ท่านเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ว

ถึงเวลาที่ท่านจะได้พักตลอดกาลแล้ว

ขอให้ดวงวิญญาณของท่านสู่สุขติ สุขติ สุขติภูมิครับ
เห็นใจท่านมากๆ ครับ ขอให้มีแต่ความสุขจงเกิดแก่ท่านครับ


แต่ข้อความ จากปฏิบัติการณ์บุกโจมตีแบบสายฟ้าแลบ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ฯ บริเวณทางเข้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นการใช้ “แก๊สน้ำตา” ต่อผู้ชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ..


… สร้าง”ตราบาป” ให้กับวงการตำรวจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายฝ่ายได้ออกมา “ประนาม” การกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุในครั้งนี้ แม้ทางเจ้าหน้าที่จะออกมาอ้างเหตุผลต่างๆนานา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง แต่ ก็ไม่สามารถลบภาพการกระทำอันเลวร้าย ในเหตุการณ์ ” 7 ตุลาทมิฬ” ได้ ที่ทำให้ ” ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” กลายมาเป็น ” ผู้พิฆาตประชาชน ” …
… สงสารและเห็นใจตำรวจน้ำดีอีกจำนวนมาก ที่ตั้งใจทำงานอุทิศ กายและใจ เพื่อความสงบสุขของประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ชื่อเสียงพลอยมัวหมองจากการกระทำของคนสีเดียวกัน..


ที่ระบุไว้เนี้ย

ขอบอกว่าคนที่เขียน น่ารังเกียจ มากๆ ครับ จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม โดยการรักษากฏหมายของรัฐจากผู้ทำผิดกฏหมายที่ต้องการบุกรัฐสภา

โดยใช้ระบบสากล ทั่วโลก คือ แก๊สน้ำตา ในการสลายการชุมนุมเช่นนี้เกิดมายุคปฏิวัติ 49 ที่กลุ่ม นปช. ได้ชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้ไปบุกยึดโน้นทีนี่ที ไม่ได้ต้องการเข้าบุกรัฐสภา กับโดนสลายโดยแก๊สน้ำตา แต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไร

แต่พอ พธม บุกจะไปล้อมรัฐสภา ตำรวจไทยมีหน้าที่ในการปกป้องอำนาจบริหารตามระบบรัฐสภา ใช้แก๊สน้ำตา เสือกมีคนตาย

และจาการพิสูจน์ผลที่ออกมาก็คือ ทั้ง 2 คน คนแรกตายด้วยระเบิดปิงปองที่การ์ด พธม นำมา

คนที่ 2 ตายเพราะระเบิดในรถของตนเอง

แก๊สน้ำตาใช้สากลทั่วโลก ไม่เคยมีการตายเิกิดขึ้น สมองอันโครตเก่งของคนเขียนบอกเลยว่าเป็นเพราะตำรวจ เหตุการณ์สลายการชุมนุมของ 2 กลุ่ม พธม และ นปช ทำไมมีผลที่แตกต่างกันล่ะครับ

คนทุกคนมีสมอง ไม่ได้โง่ตามคุณกันหมดหรอก นะครับ
พวกเหลืองขี้มันเส้นใหญ่ มันทำไรก็ถูกต้องไปหมดล่ะ เอาผิดมันไม่ได้ ประเทศไทยมันวิปริตไปหมดแล้ว
กรรมจะตามมาทันในอีกไม่กี่วันนี้เพราะไม่กี่วันหัวหน้าใหญ่มันก็ตายแล้วชัวร์
มันพวก พธม แน่นอนตำรวจทำตามหน้าที่การสลายการชุมนุมวันนั้นก็ทำตามหลักสากลถูกต้องครับที่ตายเพราะในตัวมีระเบิดจริงๆเฮ้อ.....พูดยากกับพวกนิยมสองมาตรฐานไปให้พ้นเลยไป้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
*** แจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ สำหรับที่คนที่สงสัย***

บางทีผมก็ขี้เหลืองบ๊าง ขี้เหลวบ๊าง ถ้าช่วงไหนกินผักเยอะหน่อยก็จะออกเขียวๆ หากร้อนในมากๆก็เป็นสีดำ

บทความนี้ผมไม่ได้เขียนเองครับผมนำบางส่วนมาจากเว็บ pantip และ blog oknation (ซึ่งผมก็ได้ให้เครดิตไว้แล้วว่าใครเป็นคนเขียน) โดย จุดประสงค์คือต้องการให้รับรู้ถึงวีรกรรม ของ "จ่าเพียร" และสดุดี ความกล้าของท่าน ในฐานะที่เป็นคนไทย คนหนึ่ง

ส่วนถ้าจะถามว่าผมอยู่สีไหน ผมขอไม่เลือกสี นะครับ แต่ผมตามมาเชียร์ทีมเรือใบสีฟ้าก็เพราะท่านทักษิณ ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยได้โพส หรือ คุยกะพี่ๆ แต่ผมก็เป็นสมาชิกตั้งเว็บนี้เพิ่งเริ่มเปิดใหม่ๆ เว็บนี้เป็นเว็บไซต์กีฬานะครับ อย่านำการเมืองมาปนกันเลยครับ ยังไงก็เชียร์ทีมเดียวกัน เชียร์กีฬาให้สนุกดีกว่าครับ

คิดมากเ ี่ ยวเหลือง หมด 555
R.I.P

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.